Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 6 การพยาบาลแบบองค์รวมบนพื้นฐานทฤษฎี การดูแลด้วยความเอื้ออาทรแก่…

- - - - พันธุกรรม
      - ระบบสารชีวเคมีในสมอง(Dopamine)
      - กายวิภาคของสมอง (เนื้อสมองน้อยกว่าปกติ)
      - ประสาทสรีรวิทยา(Cerebral blood flow แลą Glucose metabolism ลดลง)
    - - ครอบครัวที่มีการกำเริบของผู้ป่วยบ่อย จะมีการใช้อารมณ์ต่อกันสูง เช่น การตำหนิวิพากษ์วิจารณ์
      - ผู้ป่วยที่เป็นโรคจิตเภท พบมากในสังคมที่มีเศรษฐานะต่ำ
  - - - A. มีอาการตั้งแต่ 2 อาการชึ้นไป นาน 1 เดือน โดยต้องมีอาการข้อ1-3 อย่างน้อย 1 อาการ
        
        อาารหลงผิด
        
        อาการประสาทหลอน
        
        พูออย่างไม่เป็นแบบแผน
        
        พฤติกรรมไม่มีแบบแผน
        
        อาการด้านลบ เช่น เฉยเมย
      - B ระงับความสามารถในด้านต่างๆ อย่างน้อย 1 ด้าน เช่น การทำงาน
      - C มีอาการต่อเนื่องนาน 6 เดือน โดยต้องมีอาการตามข้อ A อย่างน้อย 1 เดือน
      - D. ต้องแยกโรคจิตอารมณ์ โรคซึมเศร้า หรือโรคอารมณ์สองขั้วออก
      - E. ต้องแยกอาการโรคจิตที่เกิดจากสาเหตุทางร่างกายและสารเสพติดออก
      - F. ผู้ป่วยที่มีประวัติกลุ่มโรคออทิสติก หรือโรคเกี่ยวกับสารสื่อประสาทตั้งแต่วัยเด็ก จะวินิจฉัยโรคจิตเภทก็ต่อเมื่อมีอาการหลงผิดหรือประสาทหลอนที่เด่นชัด อย่างน้อย 1 เดือน ด้วย
  - - - Psychotic dimension
      - Disorganization dimension
    - - Alogia พูดน้อย
      - Affective flattening การแสดงทางอารมณ์น้อย
      - Avolition ขาดความกระตือรือร้น
      - Asociality เก็บตัว
      - Anhedonia อาการไม่ยินดียินร้าย
  - - - อาการหลงผิด (Delusion)
      - อาการประสาทหลอน (Hallucination)
      - อาการด้านความคิด (Disorganized of thought)
      - ด้านพฤติกรรม (Disorganized of behavior)
      - อาการทางด้านลบ (Negative symptoms)
  - - - สุขภาพจิตศึกษา
      - กาบำบัดที่เน้นการรู้คิด (Cognitive – oriented)
      - การเจริญสติ (Mindfulness)
      - การให้สุขภาพจิตแก่ครอบครัวและการจัดพฤติกรรม
      - Support group
      - Family intervention
      - Motivational interviewing
      - Adherence therapy (AT)
- - - - พันธุกรรม
      - ระบบประสาท(serotonin)
      - คลื่นไฟฟ้าสมอง (Electroencephalography - EEG)
      - ภาพฉายระบบประสาท (Neural Imaging)
      - พยาธิวิทยาระบบประสาท (Neuropathological Study)
      - การศึกษาปริมาตรของสมอง (Study of Brain Volume)
- - - - อาการสำคัญ
        (Chief complain)
      - ลักษณะการดำเนินโรค(Course)
        และระยะเวลาที่ผิดปกติ (Duration)
      - ประวัติและการเจ็บป่วยทางกาย/ทางจิต
      - ประวัติการใช้ยา (Drug)และสารเสพติด
      - ความผิดปกติของActivity of Daily Living
        (ADLs) หน้าที่ งานประจำ
    - - ลักษณะทั่วไปของผู้ป่วย(General appearance)
      - อารมณ์และความรู้สึกที่แสดงออก (Mood and affect)
      - ลักษณะของคำพูด
        (Pattern of speech)
      - การรับรู้ (Perception) โดยเฉพาะประสาทหลอน (Hallucination)
      - ความสามารถในการรับรู้กาลเวลา สถานที่ บุคคล (Orientation)
      - ความคิด (Thought)
      - ความสามารถในการควบคุมตนเอง (Impulsive control)
      - ความคิดและพฤติกรรมพยายามฆ่าตัวตาย
        (Attempted suicide)
  - - - การดูแลความปลอดภัย
      - การดูแลสภาพร่างกาย
      - การดูแลด้านการบำบัดทางชีวภาพ เช่น ยา
      - การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลด้วยไฟฟ้า (ECT)
      - การดูแลทักษะสัมพันธภาพระหว่างบุคคลและกลุ่ม
      - พัฒนาการปรับตัว การมองตน และการมองโลกในแง่ดี
    - - การดูแลด้านสุขภาพ อย่างต่อเนื่อง
      - การกำหนดแผนการดำเนินชีวิตในครอบครัวและสังคม
      - การใช้แหล่งบริการด้านสุขภาพจิตและจิตเวชในสังคม
  - - - 1.สร้างสัมพันธภาพ ประมาณ 30 -45 นาที
      - 2.สื่อถึงการยอมรับของความต้องการของผู้ป่วย
        สำหรับความเชื่อที่ผิด พยาบาลควรชี้ให้เห็นว่าไม่มีความเชื่อนั้น
      - 3.ไม่โต้เถียงหรือปฏิเสธความเชื่อของผู้ป่วย
      - 4.ใช้การสงสยอย่างมีเหตุผล
      - 5.เสริมสร้างและเน้นที่ความเป็นจริง
      - 6.ควรใช้บุคลากรคนเดิมให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้
        รวมทั้งต้องซื่อตรงและรักษาคำพูดกับผู้ป่วย
      - 8.หลีกเลี่ยงการหัวเราะ กระซิบ หรือพูดคุยเบาๆ
      - 7.หลีกเลี่ยงการสัมผัสร่างกายผู้ป่วย
      - 9.จัดกิจกรรมที่สนับสนุนสัมพันธภาพแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับพยาบาล
      - 10.ควรแสดงความจริงใจ ความเป็นมิตร
      - 11.ประเมินความสามารถในการดูแลตนเอง
    - - 1.ประเมินความรุนแรงแลคอยดูแลช่วยเหลือ
      - 2.สร้างสัมพันธภาพ
      - 3.การสื่อสารกับผู้ป่วยต้องจริงใจ เปิดเผย
      - 4.รับฟังสิ่งที่ผู้ป่วยเล่า และตอบสนอง
      - 5.ท่าทีที่สงบ ควรใช้คำชักมากกว่าการใช้คำสั่ง
      - 6.ให้จิตบำบัดประคะบประคองแก่ญาติให้เข้าใจผู้ป่วย
      - 7.ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษาของแพทย์
    - - 1.สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด
      - 2.เปิดโอกาสและรับฟังสิ่งที่ผู้ป่วยเล่า และไม่ตัดสินผู้ป่วย
      - 3.สังเกตภาวะประสาทหลอนของผู้ป่วย
      - 4.สังเกตช่วงเวลาที่บันทึกหรือสิ่งแวดล้อมที่นำมา
        มาก่อนเหตุผลการจำแนกเหตุการณ์ที่เพิ่มความวิตกกังวล
      - 5.สำรวจเนื้อหาของภาวะประสาทหลอนกับผู้ป่วย
      - 6.หลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวผู้ป่วย
      - 7.ไม่เสริมสร้างภาวะประสาทหลอน
      - 8.ขณะที่เกิดประสาทหลอน พยาบาลจะต้อง
        ให้ความมั่นใจแก่ผู้ป่วยว่าจะดูแลเขาได้
      - 9.ให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและผลของภาวะประสาทหลอน
      - 10.จัดประสบการณ์และกิจกรรมที่มุ่งเน้นความเป็นจริงในขณะนั้น
      - 11.ร่วมกันค้นหาวิธีการหรือลดภาวะประสาทหลอน
      - 12.ดูแลให้ได้รับยาตามแนการรักษา
      - 13.ประเมินความสามารถในการดูแลตนเอง