Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

องค์การและการจัดการ, image, image, : image, image, image, image, image,…

- - - - ครอบครัว
      - โรงเรียน มหาลัย วัด
      - กลุ่มชมรม
    - - หน่วยงานราชการ
      - กระทรวงแรงงาน
      - มีโครงสร้างที่ซับซ้อน
    - - ห้างหุ้นส่วนจำกัด , บริษัท
  - - - องค์การเพื่อผลประโยชน์ของสมาชิก
        
        พรรคการเมือง
        
        สมาคมและสหกรณ์
      - เพื่อธุรกิจ
        
        บริษัท
        
        ห้างร้าน
        
        ธนาคาร
      - เพื่อสาธารณะ
        
        กระทรวง
        
        ทบวง
        
        กรม กอง
      - เพื่อการบริการ
        
        โรงเรียน
        
        โรงพยาบาล
    - - องค์การรูปนัย โครงสร้างชัดเจน
      - องค์การอรูปนัย ไม่มีรูปแบบเฉพาะ โครงสร้างหลวมๆ
- - - - กลุ่มคนดีคนไม่เก่ง
      - กลุ่มคนไม่ดีแต่เป็นคนเก่ง
      - กลุ่มคนดีคนเก่ง
      - กลุ่มคนไม่ดีคนไม่เก่ง
  - - - การทดลองงาน
      - การสร้างแรงจูงใจ
      - การปฐมนิเทศ
      - การสร้างทีมงาน
      - การบรรจุแตงตั้ง
      - การประเมินผลการปฎิบัติ
      - การฝึกอบรมและพัฒนา
    - - การส่งเสริมสุขภาพและอนามัย
      - การบำรุงรักษาสุขภาพอนามัย
      - การจ่ายค่าจ้างค่าตอบแทน
      - การควบคุมด้านวินัย
      - ความดีความชอ
    - - วางแผนกำลังคน
      - วิเคราะห์งาน
      - ออกแบบงาน
      - การสรรหา
      - การคัดเลือก
  - - - ระเบียบวินัย
      - การบริหารค่าตอบแทนสวัสดีการ
      - การฝึกอบรมและพัฒนา
      - การช่วยเหลือ ใหคำปรึกษา
      - การจัดวางคน
      - การดูแลสุขภาพและความปลอดภัย
      - การประเมินผลงาน
    - - มีหลายสาเหตุ เช่น งานอื่นที่ดีกว่า
      - การให้ออก
      - เกษียณอายุการทำงานต
    - - การสรรหา
      - การคัดเลือก
      - การวางแผน
      - การปฐมนิเทศ
- - - - ให้ความสนใจศึกษา
        
        กลุ่มสัมพันธ์ (Group relations)
        
        การเป็นผู้นำ (leaderships)
        
        แรงขับของเอกัตบุคคล (individual driers)
        
        กลุมพลวัต (group dynamics)
        
        การจูงใจ (motivations)
      - George Elton Mayo
        
        เขาได้ศึกษาเรื่องมนุษยสัมพันธ์ หรือ แนวคิดทางด้ารการจัดการเชิงพฤติกรรมศาสตร์
        
        เป็นการศึกษาทำโดยกลุ่ม
        
        เขาตังคำถาม "จะเป็นไปได้หรือไม่ถ้าหากพนักงงานได้รับการดูแลเป็นพิเศษแล้ว ประสิทธิภาพการทำงานจะเพิ่มขึ้น'
        
        เปรียบเทียบผลทดลอง 2 กลุ่ม
        
        กลุ่มควบคุม
        
        กลุ่มทดลอง
        
        การศึกษาของการทดลอง
        
        ศึกษาสภาพห้องทำงาน ระยะเวลา 26 เดือน
        
        กลุ่มควบคุม 6 ตัวอย่างใช้แสงสว่างที่แน่นอน และกลุ่มทดลอง
        
        กลุ่ม 6 ตัวอย่างใช้แสงสว่างแตกต่างกัน
        
        2.การสัมภาษณ์
        
        ศึกษา พนักงาน 21000 คน
        
        พนักงานต้องการความสะดวกสะบาย
        
        ควรให้มีโครงการแนะนำปรึกาาแก่พนักงานและเจ้าหน้าที่
        
        การสังเกตุ
        
        ข้อสรุปมีดังนี้ ในทฤษฎีแรงจูงใจ
        
        พฤติกรรมของการทำงานถูกกำหนดโดยการลงและการให้รางวัล
        
        ผู้นำกลุ่มที่เป็นทางการและกลุ่มไม่เป็นทางกาง
        
        ปัจจัยทางกายภาพ
        
        ความสัมพันธ์ภายในกลุ่มจะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรม
        
        การเปิดโอกาสให้พนักงานมีโอกาสมีโอกาสในการตัดสินใจ
      - Abran Maslow
        
        ทฤษฎีของเขาเกี่ยวกับแรงจูงใจ ความต้องการของมนุษย์
        
        Hierarchy of needs
        
        ความต้องการพื้นฐาน (physiological needs)
        
        ความต้องการความมั่นคงความปลอดภัย (safety needs)
        
        ความต้องการทางสังคม (social need)
        
        ความต้องการเกียรติยศชื่อเสียง (Esteem needs)
        
        ความต้องการสำเร็จในชีวิต (Self-Actualization needs)
      - Frederick Herzbeg
        
        เขาตั้งทฤษฎีจูงใจการบำรุงรักษาสุขภาพ
        
        Hygiene Factors ปัจจัยอนามัย
        
        ความมั่นคงในการทำงาน (status)
        
        ความสัมพันธืกับเพื่อนร่วมงาน (security)
        
        สถานภาพในการทำงาน (work condition)
        
        7.นโยบายต่างๆในการทำงาน (policy)
        
        การบังคับบัญชา (supervision)
        
        1.เงินเดือนสวัสดีการ (salary and benefits)
        
        Motivation Factors
        
        ความรับผิดชอบในงานที่ท้าทาย (responsibility)
        
        ความน่าสนใจของงาน (Task interest)
        
        การได้รับความสำคัญ (Recognition)
        
        การเจริญเติบโตในการทำงาน (Grownth)
        
        ความสำเร็จในการทำงาน (Achievement)
      - Duglas Mcgregor
        
        ทฤษฎี x และทฤษฎี y
        
        Theory X
        
        มีวิธีใช้โดยการ บังคับ ควบคุม กำกับ ข่มขู่
        
        Theory Y
        
        เป็นการทำงานที่สนุกเพลิดเพลิน
    - - Chester l. bernard
        
        แนวคิดตามลำดับ ของ bernard
        
        การติดต่อสือ่สารซึ่งกันและกัน
        
        ุ6. องค์การรูปแบบ
        
        หน้าที่ตามความเหมาะสม
        
        ประสิทธิผลและประสิทธิภาพ
        
        การยอมรับการตัดสินใจ
        
        ตัดสินใจแแบบมีเหตุผล
        
        4.องค์การที่เป็นรูปแบบและองค์การได้รูปแบบบ
        
        หน้าที่แต่ละหน้าที่
        
        3.ระบบร่วมแรงร่วมใจ
        
        ดำเนินการภายในขอบข่ายการบริการ
        
        การดำเนินงานร่วมแรงร่วมใจ
        
        ประสิทธิภาพต้องการผู้นำมีความรับผิดชอบสูง
        
        มนุษย์แต่ละคนมีขีดจำกัดด้านกายภาพและชีวภาพ
    - - บุคคลที่สำคัยมีอยู่ 3 ท่าน
        
        Henri Fayol
        
        เป็นวิศวกรรมชาวฝรั่งเศส
        
        เขาเน้นการสอนและการเรียนรู้ (taugh amd learnt)
        
        Fayol เขาสนใจการจัดการจากคณะผู้บริหารระดับล่าง
        
        กางวางแผน (planning)
        
        การจัดองค์การ (organizing)
        
        การบังคับบัญชา (commanding)
        
        การประสานงาน (coordinating)
        
        เขาได้แบ่งงานด้านอุตสาหกรรม 6 กลุ่ม
        
        Financial (optimum use of and capital)
        
        Security (protection of proprty and persons)
        
        Commerial (buying,selling and exchange)
        
        Accounting (including statistics)
        
        Technical (production)
        
        Managerial (planning,organization,commanding,etc )
        
        คุณภาพของผู้จัดการที่ดีต้องมีคุณสมบัติดังนี้
        
        มีร่างกายแข็งแรง
        
        มีสติปัญญา
        
        เรียนรู้
        
        ริเริ่ม
        
        ตัดสินใจและปรับตัว
        
        มีจริยธรรม
        
        มีความซื่อสัตย์
        
        รับผิดชอบ
        
        รู้จักกาลเทศะ
        
        จงรักภักดี
        
        มีการศึกษา
        
        มีประสบการณ์
        
        Fayol กำหนดหลักการ 14 ข้อ ดังนี้
        
        ผลประโยชน์ของบุคคลควรจะเป็นรองจากผลประโยชน์ของส่วนรวม
        (subordination of individual interest to common good)
        
        การรวมอำนาจ (centralization)
        
        การให้ผลตอบแทน (remunaration)
        
        สายการบังคับบัญชา (hierarchy)
        
        เป็นความสัมพันธ์ระหหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้อยู่ใต้ผู้บังคับบัญชา
        
        แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในหน้าที่
        
        4.การมีผู้บังคับบัญชาเพียงคนเดียว (unity of command)
        
        ความมีระเบียบ (order)
        
        การมีเป้าหมายเดียวกัน (unity of direction)
        
        มีโครงสร้างขององค์กรที่ดี
        
        การจัดแผนกงานอย่างเหมาะสม
        
        และควรมีเป้าหมายเดียวกันภายใต้แผนงาน
        
        ความเสมอภาค (equlity)
        
        ความเสียสละและความจงรักภักดี
        
        ความเมตตาและความยุติธรรม
        
        ความมีระเบีบยวินัย (disclipline)
        
        ยอมรับข้อตกลงและนโยบายต่างๆ
        
        ความมั่นคงของงาน (stability of staff)
        
        อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ (authority and responsibility)
        
        ต้องมีความสัพันธ์ระหว่างอำนาจและหน้าที่
        
        บุคคลนั้นต้องมีความรับผิดชอบ
        
        ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์สุจริตของบุคคลที่มีอำนาจ
        
        ความคิดริเริ่ม (initiative)
        
        การรวบรวมแนวคิดและการแก้ปัญหา
        
        มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา
        
        การแบ่งงานกันทำ (division of work)
        
        ลดเวลาเรียนรู้
        
        เพิ่มทักษะการทำงาน
        
        ความสามัคคี (Espit de corps)
        
        มีความต้องการสำเร็จของเป้าหมาย
        
        มีลักษณะเป็นทีม
        
        Oliver Sheldon
        
        เขาได้เขียนหนังสือปรัชญาของการจัดการ " The phylisophy of management "
        
        แนวความคิดของเขาพยายามให้เห็นความแตต่างของการจัดการและการบริหาร
        
        ได้นำแนวคิดด้านจริยธรรมมาผสมผสานกับวิทยาศาสตร์
        
        เขาเสนอแนวคิดหลักการจัดการทางอุตสาหกรรม
      - James D. mooney
        
        เขาเขียนหนังสือชื่อ หลักการจัดองค์การ (princicle of organization)
        
        ยังเป็นผู้แต่งร่วมในหนังสือชื่อ onward industral
        
        เขาได้พัฒนาหลักการ 3 ประการ ในการจัดองค์การ
        
        หลักการประสานงาน (the principle of coordination)
        
        หลักการจัดสายบังคับบัญชา (the scarlar principle)
        
        หลักการกำหนดหน้าที่ (the function principle)
    - - เป็นการสร้างรูปแบบผ่านการวิเคราะห์
      - แก้ปัญหาในด้านกายภาพของการจัดการ
      - ต้องแสดงออกในรูปแบบของสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์
      - แต่ไม่สารถใช้แทนการที่มาได้ซึ่งความรู้
      - เพื่อตัดสินใจในการจัดการ
    - - กล่าวถึง 3 ท่าน
        
        ็Henri L. Gantt
        
        เคยทำงานร่วมกับ Taylor ในปี 1887
        
        สนใจในการพัฒนาเรื่องการจัดการและคนงาน
        
        ระบบที่ Gantt พัฒนาคือการประกันค่าจ้างต่ำสุดที่พนักงานได้รับ
        
        การพัฒนาด้านกราฟ
        
        เรารู้จักในชื่อ Gantt chart หรือ Bar chart
        
        Frank B. anf Lillian M. Gilbreth
        
        frank b. anf lillian m. gilbreth เป็นสามีภรรยากัน
        
        Gilbreth พัฒมนาวิธีต่างๆเพื่อวิเคราะห์งาน
        
        เขาได้พัฒนาแผนผังกระบวนการไหลของงาน (flow process chart)
        
        งานทั้งหมดถูกจำแนกออกมา 5 งาน
        
        การขนส่ง (transportation)
        
        การตรวจสอบ (inspection)
        
        การปฏิบัติงาน (operation)
        
        การเก็บรักษา (storage)
        
        การส่งมอบ (delivery)
        
        เขาสนใจเรื่องการเคลื่อนไหว (motion study)
        
        เขาศึกษาการเคลื่อนไหว ความเหนื่อยล้า ทักษะและเวลา
        
        ภรรยาของ Frank คือ lillian gilberth
        
        ศึกษาระดับปริญญาเอกทางด้านจิตวิทยาอุตสาหกรรม
        
        มีลูกด้วยกัน 12 คน
        
        เป็นสุภาพสตรีคนแรกด้านการจัดการ (first of management)
        
        D.W.TAYLOR
        
        เป็นผู้ที่นำวิทยาศาสตร์มาแก้ไข้ปัญหา
        
        เขาเป็นผู้ริเริ่มองค์การที่มีรูปแบบ
        
        เขาได้ศึกษาการเคลื่อนไหวของคนงานและเวลาที่ใช้ปฎิบัติงาน
        
        สรุปแนวคิดด้านการจัดการแบบวิทยาศาสตร์
        
        เน้นผลผลิตสูงสุดแทนที่การจำกัดการผลิต
        
        จัดให้มีการเลือก การฝึกการทำงานด้านวิทยาศาสตร์
        
        มีการประสานงานร่วมกันมากกว่าการขัดแย้ง
        
        มีการพัฒนาพนักงานให้มีความสามารถสู่ระดับสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้
        
        ให้ความสำคัญด้านศาสตร์ ไม่ใช่กฎที่ไม่แน่ไม่นอน
        
        หลักการของการจัดการตามแนวคิดของ Taylor
        
        พัฒนาวิธีการทำงานวิธีที่ดีที่สุด (one best way)
        
        มีการร่วมงานอย่างจริงใจ
        
        มีการแบ่งงานและความรับผิดชอบระหว่างการจัดการและแรงงาน
        
        ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่มีหลักเกณฑ์คัดเลือก ฝึกหัด
    - - ปัจจุบันจะรู้จักกันดีของระบบข้อสนเทศ เรียกว่า MIS (Management information System)
      - เป็นแนวคิดที่มุ้งเน้นเห็นส่วนต่างๆ
      - เน้นกลยุทธ์ส่วนต่างๆของระบบภายใน
- - - - การวางแผนระยะปานกลาง
      - การวางแผนระยะสั้น
      - การวางแผนระยะยาว
    - - 2.แผนหน้าที่
      - แผนงานโครงการ
      - แผนแม่บท
      - แผนสรุป
      - แผนกิจกรรม
    - - 1.2.การวางแผนกลยุทธวิธี
      - 1.3. การวางแผนปฎิบัติงาน
      - 1.1 การวางแผนกลยุทธ์
    - - แผนหลัก
      - แผนใช้เฉพาะครั้ง
  - - - ประเมินผลตามจุดมุ่งหมาย
      - เน้นการวัดผลการปฎิบัติงานที่ผลงานสุดท้าย
      - ผู้ประเมินและผู้ได้รับการเมิน
      - ใช้วัตถุประงสงค์และผลงาน
      - การประเมินผลงานกระทำเมื่อผลงานขั้นสุดท้ายเสร็จสิ้นลง
- - - - ต้องาั้นและตรงประเด็น
      - 4.ความสามารถเป็นศูนย์กลางของการสื่อสาร
      - อำนาจหน้าที่ปรากฎในช่องทางการสื่อสาร
      - ไม่ควรขัดขวางการสื่อสาร
      - ควรประกาศให้รู้ชัดอย่างแน่นอน
      - ต้องเชื่อถือได้
    - - การตอบสนองต่อความต้องการและความรู้สีก
      - ก่อให้เกินความสามัคคิในองค์กร
- - - - การตัดสินใจโดยคาดการณ์
      - ตัดสินใจโดยการพรรณา
      - ตัดสินใจโดยการกำหนดความ
    - - การตัดสินใจเป็นกลุ่ม
      - การตัดสินใจคนเดียว
- - - - ลักษณะของงานที่ปฎิบัติ
      - ความรับผิดชอบ
      - การได้การยอมรับนับถือ
      - ความก้าวหน้าบุคคล
      - ความสำเร็จในการทำงาน
      - เงินเดือนค่าจ้างค่าตอบแทน
    - - ความสัมพันธ์กับผู่ร่วมงาน
      - วิธีการปกครองบังคับบัญชา
      - ความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา
      - นโยบายการบริหารเป็นปัจจัยที่องค์กรไม่มีไม่ได้
      - สถานะของอาชีพองค์กรควรจัดให้มี
      - ความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชา
      - สภาพการทำงาน
      - ความเป็นอยู่ส่วนตัว
      - โอกาสที่ก้าวหน้าในอนาคต
      - ความมั่นคง
- - - - สติปัญญาและความสามารถ
      - ด้านบุคลิก
      - ภูมิหลังทางสังคม
      - งาน
      - คุณลักษณะทางร่างกาย
      - ลักษณะทางสังคม
  - - - พฤติกรรมผู้นำที่มุ่งคน
      - พฤติกรรมผู้นำที่มุ่งงาน
    - - มุ่งสร้างโครงสร้าง
      - มุ่งสร้างความสัมพันธ์
    - - ผู้ที่จะประสบความสำเร็จจะต้องเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ
  - - - การบอกกล่าว
      - การนำเสนอ ความคิด
      - การมีส่วนร่วม
      - การมอบหมายงาน
- - - - รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น
      - เพิ่มวุฒิภาวะให้กับบุคล
      - ทำให้องค์กรไม่หยุดนิ่ง
      - ให้เกิดความเข้าใจกันและกัน
      - เกิดความสามัคคีในกลุ่ม
    - - ความสัมพันระหว่างบุคคลเสื่อมลง
      - แตกความสามัคคี
      - เกิดความท้อแท้ เครียด
      - สูญเสียบุคคลากร
      - ความเสี่ยงในการบริการ
- - - - ปัญหาใช้แรงงานเด็ก
      - ปัยหาโลกร้อน
  - - - corporate-drivem CSR
      - Social-driven CSR
    - - csr ระดับพื้นฐาน
      - csr ระดับก้าวหน้า
    - - Csr-in-process
      - Csr-as-process
      - Csr-after-process
    - - ประเด็นกับการตลาด
      - การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนในสังคม
      - ประเด็นรับรู้ในวงกว้าง
      - รูปแบบต่างๆ
      - อาสาช่ววยเหลือชุมชน
      - ดำเนินธุรกิจความรับผิดชอบสังคม
- - - - ชาติพันธู์
      - รสนิยมทางเพศ
      - เชื้อชาติ
      - อายุ
      - เพศ
    - - รายได้
      - ประสบการณ์
      - ศาสนา
      - ภูมิลำเนา
      - การศึกษา
- - - - การเติบโต
      - ขนาดของตบาด
  - - - การเริ่มต้นผลผลิต
      - การดำเนินธุรกิจ
      - การตั้งสำนักงานต่างประเทศ
      - การดำเนินธุรกิจระดับโลก
      - การส่งอออก
    - - ตโทรคมนาคมและอินเตอร์เน็ต
      - ภาษาและวัฒนธรรม
      - รูปแบบการกระจายสินค้า
      - การศึกษา
      - ธรรมชาติของเศรษบกิจ
      - ศาสนาและจริยธรรม
      - ภาษีการเงิน
      - การตลาดและการสื่อสาร
      - การค้า
      - ระบบทางการเมือง
      - ขนาด ความหนาแน่น
  - - - ประหยัดต้นทุนด้านตลาด
      - มีรายการสินค้าน้อยกว่า
      - เกิดการประหยัดจากขอบเขต
      - มีขั้นตอนการดำเนินร่วมกัน
      - มีขั้นตอนการดำเนินงาน
      - คุณลักษณะเฉพาะ
    - - สามารถดำเนินธุรกิจได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
      - ระดับทักษะท้องถิ่นสูงกว่า
      - ตอบสนองความต้องการ
      - สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
- - - - สื่อสารเพื่อหาเสียงสนับสนุน
      - สนับสนุนให้เกิดการลงมือทำ
      - สร้างทีมการเปลี่ยนแปลง
      - สร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์
      - เพิ่มระดับความเร่งด่วน
      - มุ่งมันไม่ย่อท้อ
      - รักษาผลการเปลี่ยนแปลง
    - - เริ่มจากการเปลี่ยนความคิดความเชื่อ
    - - การเปลี่ยนแปลง
      - การเสริมแรงพฤติกรรมใหม่
      - ขั้นละลายพฤติกรรม
- - - - วัฒนธรรมย่อย
      - วัฒนธรรมเด่น
    - - วัฒนธรรมที่เข้มแข็ง
      - วัฒนธรรมอ่อนแอ