การเขียน

ระดับของภาษาทีใช้ในการเขียน

ภาษาระดับกึ่งทางการ (ระดับกึ่งแบบแผน)

ภาษาระดับปาก

ภาษาระดับทางการ (ระดับแบบแผน)

ลักษณะงานเขียนที่ดี

ชัดเจน ผู้เขียนต้องเลือกใช้คำที่มีความหมายเด่นชัด
อ่านเข้าใจง่าย ไม่คลุมเครือ

ถูกต้อง ในการเขียนต้องคำนึงถึงความถูกต้องทั้งในด้าน
การใช้ภาษา ความนิยมและเหมาะสมกับกาลเทศะ

กะทัดรัด ท่วงทำนองการเขียนจะต้องมีลักษณะใช้ถ้อยคำ
น้อยแต่ได้ความหมายชัดเจน

มีน้ำหนักงานเขียนที่ดีต้องมีลักษณะเร้าความสนใจ สร้างความ
ประทับใจซึ่งเป็นผลมาจากการเน้นคำกํารเรียงลำดับคำในประโยค
การใช้ภาพพจน์

มีความเรียบง่ายงานเขียนที่ใช้คำธรรมดาที่เข้าใจง่ายไม่ใช้คำ
ฟุ่มเฟือยไม่เขียนอย่างวกวนไม่ใช้คำปฏิเสธซ้อนปฏิเสธจะมีผลทำให้
ผู้อ่านเกิดความเข้าใจและเกิดความรู้สึกกับงานเขียนนั้นได้ง่าย

จุดมุ่งหมายของการเขียน

การเขียนเพื่อเล่าเรื่อง

การเขียนเพื่ออธิบาย

การเขียนเพื่อแสดงความคิดเห็น

การเขียนเพื่อชักจูงใจ

การเขียนเพื่อสร้างจินตนาการ

การวิเคราะห์ผู้อ่าน

ผู้อ่านมีความรู้เรื่องที่ผู้เขียนจะเขียนนั้นแล้วหรือไม่
มากน้อยเพียงใด

ผู้อ่านควรทราบข้อมูลอะไรบ้างเกี่ยวกับหัวข้อนั้น

ผู้อ่านคาดหวังอะไรจากเรื่องที่เขียน

ผู้อ่านมีทัศนคติต่อเรื่องที่เขียนอย่างไร

ทำไมผู้อ่านจึงสนใจและทำไมจึงไม่สนใจเรื่องที่เขียน

ข้อมูลประเภทใดที่ผู้อ่านยอมรับและเชื่อถือ

เขียนอย่างไรให้เหมาะกับผู้อ่าน

การเลือกเรื่องในการเขียน

เลือกเรื่องที่ผู้เขียนถนัดและสนใจ

เลือกเรื่องที่ผู้เขียนมีความรู้และประสบการณ์

เลือกเรื่องที่ผู้อ่านสนใจ

เลือกเรื่องที่สามารถจำกัดขอบเขตได้

เลือกเรื่องที่เป็นประโยชน์

การเขียนโครงเรื่อง

ขั้นระดมความคิด

ขั้นจัดสรรความคิด

ขั้นจัดหมวดหมู่ความคิด

ขั้นจัดลำดับความคิด

ขั้นเขียนเป็นตัวโครงเรื่องที่สมบูรณ์แบบ

การตั้งชื่อเรือง

ตั้งตามตัวเอก

ตั้งเป็นคำถาม

ตั้งตามสถานที่

ตั้งตามจุดมุ่งหมายสำคัญของเรื่อง

ตั้งแบบขัดความ

ตั้งแบบเร้าความสนใจ

ตั้งแบบยกคำประพันธ์ สุภาษิต สำนวน

ตั้งโดยการเปรียบเทียบ

การเขียนคำนำ

คำนำที่เป็นการนิยามศัพท์

คำนำที่เป็นข้อความชวนให้คิด

คำนำที่เป็นข้อความขัดกัน

คำนำที่เป็นการพรรณนาความ

คำนำที่เป็นการตั้งคำถาม

คำนำที่เป็นบทร้อยกรอง สุภาษิต สำนวน คำคม

การเขียนบทสรุป

ฝากข้อคิด

ยกคำคม สุภาษิต

สรุปสาระสำคัญ

สรุปแบบคำถาม

สรุปแบบตอบคำถาม