Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลมารดาและทารกที่มี ภาวะติดเชื้อขณะตั้งครรภ์ - Coggle Diagram
การพยาบาลมารดาและทารกที่มี
ภาวะติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
การติดเชื้อระบบขับถ่ายปัสสาวะระหว่างตั้งครรภ์
(Urinary system Infection during pregnancy)
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะแต่ไม่แสดงอาการ (Asymptomatic bacteriuria: ASB)
เป็นการตรวจพบแบคทีเรียในปัสสาวะ > 105 cfu/ml จากการเก็บปัสสาวะ2 ครั้งติดต่อกัน โดยไม่มีอาการแสดง
การติดเชื้อเฉียบพลันที่กระเพาะปัสสาวะ(Acutecystitis)
เป็นการอักเสบของกระเพาะ ปัสสาวะ ที่เกิดจาก
การติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะ
ร่วมกับมีอาการเจ็บปวดขณะถ่าย ปัสสาวะ
การติดเชื้อเฉียบพลันที่กรวยไต(Acutepyelonephritis)
เป็นการตรวจพบแบคทีเรียใน ปัสสาวะ > 105 cfu/ml ร่วมกับปัสสาวะเป็นหนอง
กลุ่มอาการโรคไตรั่วหรือโปรตีนรั่ว ในปัสสาวะ(Nephroticsyndrome)
พบโปรตีนใน ปัสสาวะมากประมาณ 5 กรัมต่อวัน
ภาวะไตวาย (renal failure)
ไตวายเรื้อรัง (chronic renal failure)
ไตวายเฉียบพลัน (acute renal failure)
อาการและอาการแสดง
ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง (Lower UTI)
ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด กระปิดกระปรอย กลั้นปัสสาวะไม่ได้ บางรายอาจพบปัสสาวะเป็นเลือด หรือสีน้ําล้างเนื้อ ปวดบริเวณ หัวหน่าว
ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะส่วนบน (Upper UTI)
ปัสสาวะเป็นสีขุ่น หรือสีน้ําล้างเนื้อ เจ็บบริเวณชายโครง ปวดหลังบริเวณตําแหน่งของไต มีไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้อาเจียน
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
ให้คําแนะนําเกี่ยวกับการดําเนินของโรค
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
มาตรวจครรภ์ตามนัดอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
แนะนําการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ระยะคลอด
ทําความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ ภายนอกทุกครั้งหลังการขับถ่าย
ระยะหลังคลอด
ป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและ ป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
คุมกําเนิด
การติดเชื้อที่มาจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
การตกขาวผิดปกติ
ตกขาวจากการติดเชื้อรา (Vulvovaginal candidiasis)
เกิดจากเชื้อรากลุ่ม candida albicans ซึ่งมีระยะฟักตัว 1-4 วัน
อาการและอาการแสดง
คันและระคายเคืองมากในช่องคลอดและปากช่องคลอด ปากช่องคลอดเป็นผื่นแดง ช่อง คลอดอักเสบ และบวมแดง
ตกขาวมีลักษณะสีขาวขุ่น อยู่รวมกันเป็นกลุ่มเหมือนนม
ตกตะกอน (curd-liked discharge)
เจ็บขณะร่วมเพศ (dyspareunia)
ปัสสาวะลําบาก และแสบขัดตอนสุด (external dysuria)
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์ เข้าใจสาเหตุของการติดเชื้อ
ใช้ยาทา และยาเหน็บช่องคลอด
ทําความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
ควรพาสามีมารักษาร่วมกัน
ระยะคลอด
คลอดทางช่องคลอดได้ตามปกติ
ระยะหลังคลอด
ฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเทอโรนลดลง อาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดจะ ดีขึ้น
ดูแลความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
ล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสบุตร
ทารกแรกเกิดอาจมีการติดเชื้อในช่องปาก ซึ่งจะพบฝ้าขาวในช่องปาก ให้ปรึกษากุมารแพทย์
ตกขาวจากการติดเชื้อพยาธิ (Vaginal trichomoniasis)
ติดเชื้อพยาธิ หรือเชื้อโปรโตซัวชื่อ trichomonas vaginalis ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และอวัยวะเพศสัมผัสเชื้อโดยตรง มีระยะฟักตัว 5-28 วัน
อาการและอาการแสดง
ตกขาวมีสีขาวปนเทา หรือสีเหลืองเขียว ตกขาวเป็นฟอง (foamy discharge) มีกลิ่น เหม็น
ระคายเคืองที่ปากช่องคลอด ในช่องคลอด ปากช่องคลอดบวมแดง และอาจทําให้ปาก มดลูกอักเสบ มีจุดเลือดออกเป็นหย่อม ๆ (strawberry spot หรือ flea bitten cervix)
ปัสสาวะแสบขัดหรือบ่อย
เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
เหน็บยา หรือการรับประทานยาตามแผนการรักษา
ให้สามีมารักษาร่วมด้วย
มีเพศสัมพันธ์โดยการสวมถุงยางอนามัย
รักษาความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
ระยะคลอด
คลอดทางช่องคลอดได้ตามปกติ
ระยะหลังคลอด
ล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสบุตร
ดูแลความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
งดการมีเพศสัมพันธ์
ตกขาวจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial vaginosis)
อาการและอาการแสดง
คัน ปวดแสบปวดร้อนปากช่องคลอด ในช่องคลอด ถ่ายปัสสาวะลําบาก แสบขัด เจ็บขณะ ร่วมเพศ
ตกขาวสีขาว สีเทา หรือสีเหลือง ข้นเหนียว มีกลิ่นเหม็นเน่าเหมือนคาวปลา (fishy smell)
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ และมาตรวจตามนัด
รักษาความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
รักษาความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
พาสามีไปตรวจและรักษาโรคพร้อมกัน
ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
ระยะคลอด
สามารถคลอดทางช่องคลอดได้ตามปกติ
ระยะหลังคลอด
ล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสบุตร
ทําความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์ให้สะอาด
ซิฟิลิส (Syphilis)
เกิดจากการติดเชื้อ Treponema pallidum (T. Pallidum) มีระยะฟักตัว ประมาณ 10-90 วัน
อาการและอาการแสดง
ซิฟิลิสระยะแรก (primary stage)
หลังจากได้รับเชื้อ 10-90 วัน หรือประมาณ 3 สัปดาห์
จะเกิดแผล กลม นิ่ม ขอบนูนแข็ง ไม่เจ็บ เรียว่าแผล chancre บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก หรือในช่องคลอดและปากมดลูก
ซิฟิลิสระยะที่สอง (secondary stage)
พบผื่น กระจายทั่วร่างกาย ฝ่ามือฝ่าเท้า เยื่อบุรวมทั้งอวัยวะสืบพันธุ์ โดยผื่นที่พบบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์จะยกนูน ร่วมกับมีอาการไข้
ต่อมน้ําเหลืองโต เจ็บคอ ผมร่วงเป็นหย่อมๆ ปวดศีรษะ น้ําหนักลด
ระยะแฝง (latent syphilis)
ไม่มีอาการใด ๆ แต่กระบวนการติดเชื้อยังดําเนินอยู่และ สามารถแพร่กระจายเชื้อได้รวมถึงอาจมีการกําเริบของโรค
ซิฟิลิสระยะที่ 3 หรือระยะท้ายของโรคซิฟิลิส
(tertiary syphilis)
เชื้อจะเข้าไปทําลาย ระบบหัวใจและหลอดเลือด ทําให้เกิด aortic aneurysm และ aortic insufficiency
เกิดผิวหนังอักเสบ กระดูกผุ เยื่อบุสมองอักเสบ และเสียชีวิต
เกิดรอยโรคที่อวัยวะ ภายในและกระดูก
ที่มีลักษณะเฉพาะเรียกว่า gumma lesion
พบรูม่านตาที่ค่อนข้างเล็ก และหดเล็กลงได้เมื่อมองใกล้
แต่ไม่หดเล็กลงเมื่อถูกแสง เรียกว่า Argyll Robertson Pupil
แนวทางการรักษา
ให้สามีมารับการตรวจและรักษาพร้อมกัน
ให้ยา Penicillin G ป้องกันการติดเชื้อของทารก
รักษาด้วย Benzathine Penicillin G Sodium
หนองใน (Gonorrhea)
เกิดจากการติดเชื้อ Neiseria gonorrheae หรือ gonococcus (GC) เชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเยื่อเมือกต่างๆของอวัยวะสืบพันธุ์
จากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ
อาการและอาการแสดง
มีการอักเสบของปากมดลูกและช่องคลอด
ทําให้ตกขาวเป็นหนองข้นปริมาณมาก
แนวทางการรักษา
ให้ยา ceftriaxone, azithromycin, penicillin
ได้ทั้งรับประทานและฉีดเข้า กล้ามเนื้อ
ได้รับยาป้ายตาคือ 1% tetracycline ointment
ทารกที่พบว่ามีการติดเชื้อหนองใน
ควรได้รับยาปฏิชีวนะ ceftriaxone
การติดเชื้อเริม (Herpes simplex)
เกิดจาก เชื้อไวรัสคือ Herpes simplex virus (HSV)
เข้าสู่ร่างกายโดยผ่านทางเยื่อบุ หรือแผลที่ผิวหนัง
อาการและอาการแสดง
การติดเชื้อปฐมภูมิมักเกิด 3-7 วันหลังการสัมผัสเชื้อ โดยจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน และคันบริเวณที่สัมผัสโรค จากนั้นจะกลายเป็นตุ่มน้ําใสๆ แล้วแตกกลายเป็นแผลอยู่ 2 สัปดาห์
ไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว
ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต
การรักษา
ให้ Acyclovir 200 mg รับประทานวันละ 5 ครั้ง นาน 5-7 วัน
รักษาในระยะคลอด
กรณีที่เคยติดเชื้อเริมมาก่อน แต่ขณะคลอดตรวจไม่พบรอยโรคหรือไม่มีอาการของการติดเชื้อ ให้คลอดทางช่องคลอด และเฝ้าระวังทารก เพื่อดูอาการของการติดเชื้อเริม
กรณีที่พบรอยโรคขณะคลอดไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อครั้งแรก หรือติดเชื้อซ้ำให้คลอดโดยการผ่าตัดคลอด และเฝ้าระวังทารกเพื่อดูอาการของการติดเชื้อเริม
หูดหงอนไก่ (Condyloma acuminate)
เกิดจากการติดเชื้อ human papilloma virus (HPV) มีระยะฟักตัว
นาน 2-3 เดือน ติดต่อจากการสัมผัสรอยโรคโดยเฉพาะทางเพศสัมพันธ์
อาการและอาการแสดง
มีรอยโรคเป็นติ่งเนื้อสีชมพูคล้ายหงอนไก่ ขนาดแตกต่างกัน มักเกิดบริเวณอับชื้น เช่น ปากช่องคลอด หรือในช่องคลอด
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
คัดกรองและประเมินภาวะสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์
โดยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย
นําสามีมารับการตรวจเพื่อวินิจฉัยโรค
อธิบายให้เข้าใจถึงการดําเนินของโรค อันตรายของโรคต่อการตั้งครรภ์
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ผลการรักษาของสตรีตั้งครรภ์ และสามีอย่างสม่ำเสมอ
ระยะคลอด
ดูแลผู้คลอดโดยยึดหลัก universal precaution เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
หลีกเลี่ยงการทําหัตถการทางช่องคลอด
ทารกแรกเกิดต้องได้รับการป้ายตาด้วย 1% Tetracyclin ointment
ระยะหลังคลอด
ดูแลรักษาความสะอาดร่างกาย เครื่องใช้ส่วนตัว
ประเมินอาการติดเชื้อของทารกแรกเกิด ได้แก่
มีไข้ อ่อนเพลีย ดูดนมไม่ดี
ล้างมือให้สะอาดก่อนจับทารกทุกครั้ง
การติดเชื้อเอชไอวีในสตรีตั้งครรภ์
(Human Immunodeficiency Virus [HIV] during pregnancy)
อาการและอาการแสดง
ระยะเริ่มแรกของการติดเชื้อ HIV
ร่างกายเริ่มสร้างantibody กินเวลาประมาณ 1-6 สัปดาห์หลังติดเชื้อ จากนั้นจะเริ่มมีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว
มีผื่นขึ้น ต่อมน้ําเหลืองโต บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว หรือมีฝ้าขาวในช่องปาก
อาการเหล่านี้ จะเป็นอยู่ 1-2 สัปดาห์ แล้วหายไปได้เอง
ระยะติดเชื้อโดยไม่มีอาการ
ตรวจเลือดจะพบเชื้อ HIV และ antibody
ต่อเชื้อ HIV และสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้
ระยะติดเชื้อที่มีอาการ
มีอุณหภูมิร่างกายสูง มากกว่า 37.80C เป็นพักๆ
หรือติดต่อกันทุกวัน ท้องเดินเรื้อรัง หรืออุจจาระร่วงเรื้อรัง
น้ําหนักลดเกิน 10% ของน้ําหนักตัว ต่อมน้ําเหลืองโตมากกว่า 1 แห่ง เป็นงูสวัด และพบเชื้อราในปากหรือฝ้าขาว
(hairy leukoplakia) ในช่องปาก
ระยะป่วยเป็นเอดส์
มีไข้ ผอม ต่อมน้ําเหลืองโตหลายแห่ง ซีด อาจพบลิ้น
หรือช่องปากเป็นฝ้าขาวจากเชื้อรา แผลเริมเรื้อรัง
ระบบภูมิคุ้มกันจะเสื่อม ทําให้เชื้อโรคฉวยโอกาสเข้ามาในร่างกาย
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
คัดกรองสตรีตั้งครรภ์และสามีที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ให้ข้อมูลแก่สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวเกี่ยวกับการดําเนินของโรค
มาฝากครรภ์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อประเมินสุขภาพ
ของสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
ให้ความรู้แก่สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวเกี่ยวกับหลักมาตรฐานในการควบคุมและป้องกันการ แพร่กระจายเชื้อ
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ผลการตรวจ CD4 หากน้อยกว่า 200 copies/mL แสดงถึงความเสี่ยงต่อการติดเชื้อฉวยโอกาสสูง
ประเมินภาวะแทรกซ้อนจากการได้รัยยาต้านไวรัส
ระยะคลอด
ดูแลผู้คลอดโดยยึดหลัก universal precaution เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ พร้อมทั้ง อธิบายให้ผู้คลอดที่ติดเชื้อ HIV
viral load ≤ 50 copies/mL แพทย์อาจพิจารณาเจาะถุงน้ําคร่ำเพื่อชักนําการ คลอด ก่อนเจาะ ขณะเจาะ
และหลังเจาะถุงน้ําคร่ำ
ทําคลอดด้วยวิธีที่ทําให้เกิดการบาดเจ็บต่อผู้คลอด
และทารกน้อยที่สุด และหลีกเลี่ยงการใช้ สูติศาสตร์หัตถการ
ดูแลให้ผู้คลอดและทารกได้รับยาต้านไวรัส
เตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการช่วยเหลือทารกแรกเกิด
ระยะหลังคลอด
ดูแลมารดาหลังคลอดโดยยึดหลัก universal precaution
อธิบายให้มารดาหลังคลอดเข้าใจและตระหนักถึงความสําคัญของการนําทารกมาตรวจเลือด เพื่อประเมินการติดเชื้อ HIV และมารับภูมิคุ้มกันโรคตามปกติ
จัดให้บริการปรึกษาแก่มารดาหลังคลอดที่ติดเชื้อ HIV อย่างต่อเนื่อง
การติดเชื้อไวรัสรับอักเสบชนิดเอ
(hepatitis A virus: HAV)
เกิดจากการติดเชื้อ hepatitis A virus ซึ่งเชื้อไวรัสสามารถทําให้ตับเกิดการอักเสบ ไวรัสตับอักเสบเอ
ติดต่อโดยการรับประทานอาหารหรือน้ําที่ มีการปนเปื้อนเชื้อโรคตับอักเสบเอเข้าไป
อาการและอาการแสดง
อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ปวดข้อ และ ปวดศีรษะ
การพยาบาล
อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวเข้าใจเกี่ยวกับโรค การรักษา การดูแลตนเองที่เหมาะสม
แนะนําเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว
พักผ่อนอย่างเพียงพอ
รับประทานอาหารที่สุก สะอาด และย่อยง่าย
และดื่มน้ําให้เพียงพอ
ตรวจตามนัดเพื่อประเมินสภาวะของสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อตับ ได้แก่ acetaminophen และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี (Hepatitis B virus)
เกิดจากการติดเชื้อ Hepatitis B virus ผ่าน ทางเลือด
น้ําลาย อสุจิ สิ่งคัดหลั่งทางช่องคลอด น้ํานม และผ่านทางรก
อาการและอาการแสดง
มีไข้ต่ำ ๆ เบื่ออาหาร อาเจียน ปวดท้อง อาจปวดทั่วไปหรือปวดบริเวณชายโครงขวา คลําพบตับโต กดเจ็บ
ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้นเป็นสีชาแก่
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
ให้คําแนะนําแก่สตรีตั้งครรภ์เกี่ยวกับสาเหตุ การติดต่อ การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ การ ดําเนินของโรค
อธิบายแก่สตรีตั้งครรภ์เข้าใจและตระหนักถึงความสําคัญของการมาตรวจตามนัด
ระยะคลอด
ประเมินการเต้นของ หัวใจทารกในครรภ์ ติดตามความก้าวหน้าของการคลอด และสังเกตอาการผิดปกติ
หลีกเลี่ยงการเจาะถุงน้ําคร่ำและการตรวจทางช่องคลอด
เมื่อศีรษะทารกคลอด ดูดมูก เลือดและสิ่งคัดหลั่งต่าง ๆ
ออกจากปากและจมูกของทารกและทำความสะอาดทารกทันที
ฉีด Hepatitis B immunoglobulin (HBIG) ให้เร็วที่สุดหลังเกิด และให้ Hepatitis B vaccine (HBV) 3 ครั้ง
ระยะหลังคลอด
รักษาความสะอาดของ ร่างกาย การป้องกันการปนเปื้อนของเลือดหรือน้ําคาวปลา การล้างมือให้สะอาดก่อนการดูแลทารก
นําบุตรมาตรวจตามนัดเพื่อ ติดตามอาการและป้องกันการติดเชื้อ
หัดเยอรมัน (Rubella/German measles)
ติดเชื้อ rubella virus (german measles virus)
โดยติดต่อผ่านทางเดินหายใจ มีระยะฟักตัว 14-21 วัน
อาการและอาการแสดง
มีไข้ต่ำ ครั่นเนื้อครั่นตัว เบื่ออาหาร ตาแดง ไอ เจ็บคอ และต่อ น้ําเหลืองบริเวณหลังหูโต อาจมีอาการปวดข้อ
การพยาบาล
ให้วัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อเยอรมัน
แนะนําให้มาฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอ
ประเมินสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์เกี่ยวกับ
การได้รับภูมิคุ้มกันโรคหัดเยอรมัน
อธิบายข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจ การดําเนินของโรค
ผลของโรคต่อการตั้งครรภ์และต่อทารกในครรภ
กรณีที่ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ เตรียมร่างกายและจิตใจของสตรีตั้งครรภ์ให้พร้อม
รายที่ตัดสินใจดําเนินการตั้งครรภ์ต่อ และคลอดทารกที่มีความพิการ ดูแลด้านจิตใจของมารดา และครอบครัว
สุกใส (Varicella-zoster virus: VZV)
อาการและอาการแสดง
มีไข้ต่ำๆ นํามาก่อนประมาณ 1-2 วันแล้วค่อยมีผื่นขึ้น ลักษณะของผื่น และตุ่ม มักจะขึ้นตาม ไรผม หรือหลังก่อน จะเห็นเป็นตุ่มน้ําใสๆ บนฐานสีแดง เหมือนหยาดน้ําค้างบนกลีบกุหลาบ (dewdrops on a rose petal) แล้วค่อยลามไปบริเวณหน้าลําตัว และแผ่นหลัง
การพยาบาล
ระยะก่อนตั้งครรภ์
ฉีดวัคซีนป้องกันสุกใสก่อนการตั้งครรภ
ระยะตั้งครรภ์
พักผ่อนอย่างเต็มที่ และรับประทานอาหารที่มี
โปรตีนสูง วิตามินซีสูง
ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
โดยอธิบายให้สตรีตั้งครรภ์เข้าใจ
ระยะคลอด
ขณะคลอดควรดูดเมือกออกจากปากและจมูกทารกโดยเร็ว
ระยะหลังคลอด
กรณีที่มารดามีอาการ ให้แยกทารกแรกเกิดจากมารดา
ในระยะ 5 วันแรกหลังคลอด
แยกของใช้สําหรับมารดา และทารก
กรณีพ้นระยะการติดต่อ หรือมารดามีการตกสะเก็ดแล้ว
สามารถแนะนําเกี่ยวกับการให้นมมารดาได้
ให้ทารกรับวัคซีน VariZIG แก่ทารกแรกเกิดทันที หากมารดาการติดเชื้อในช่วง 5 วันก่อน คลอดถึง 2 วัน
หลังคลอด รวมทั้งประเมินภาวะการติดเชื้อของทารก
โรคติดเชื้อไซโทเมกะโรไวรัส (Cytomegalovirus: CMV)
ได้รับเชื้อทางการให้เลือด การสัมผัสทางปาก
หรือทางเพศสัมพันธ์
อาการและอาการแสดง
ไข้สูงนาน ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีอาการ ปอดบวม
ตับอักเสบ และอาการทางสมอง
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
คัดกรองสตรีตั้งครรภ์ทุกรายเกี่ยวกับการเจ็บป่วย
ติดเชื้อ CMV ในอดีต
อธิบายสตรีตั้งครรภ์และครอบครัวทราบเกี่ยวกับโรค สาเหตุ อาการและอาการแสดง การดําเนินของโรค
งดมี เพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์
ระยะคลอด
ขณะคลอดควรดูดเมือกออกจากปากและจมูกทารกโดยเร็ว
ระยะหลังคลอด
มาตรวจตามนัดหลังคลอด
งดให้นมมารดา
การติดเชื้อไวรัสซิก้า (Zika)
เกิดจากเชื้อฟลาวิไวรัส
(Flavivirus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนําโรค
อาการและอาการแสดง
ได้รับเชื้อระยะฟักตัวอยู่ที่ประมาณ 3-12 วัน ส่วนใหญ่มักมีอาการไข้ ผื่นแดง ปวดเมื่อยตาม ตัว ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง
การพยาบาล
ให้คําแนะนําในการป้องกันสาเหตุและปัจจัย
ที่ทําให้เกิดโรคติดเชื้อไวรัสซิกา
ตรวจร่างกายทารกแรกเกิด ประเมินสภาพร่างกายทั่วไป
โรคโควิด-19กับการตั้งครรภ์
(COVID-19duringPregnancy)
อาการและอาการแสดง
ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจติดขัด หรือหายใจลําบาก
การพยาบาล
ดูแลสตรีตั้งครรภ์ มารดาหลังคลอด ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีประวัติการเดินทางมาจากประเทศกลุ่ม เสี่ยง หรือสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ป่วย COVID-19
ต้องมีการแยกตัวออกจากผู้อื่น
และต้องสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน