Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบาดเจ็บไขสันหลัง (Spinal cord injuries) - Coggle Diagram
การบาดเจ็บไขสันหลัง (Spinal cord injuries)
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
การบาดเจ็บ (Trauma)
ความผิดปกติที่ไม่ได้เกิดจากการบาดเจ็บ (Non-traumatic disorders)
กลไกการบาดเจ็บไขสันหลัง
การบาดเจ็บแบบงอ (Flexion injury)
ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติรถยนต์
ตำแหน่งของกระดูกสันหลังที่มีผลกระทบ คือ C5 – C6 และ T12 – L1
มีการฉีกขาดของเอ็นด้านหลัง (Posterior ligament)
ส่งผลให้ไขสันหลังขาดเลือดไปเลี้ยง
การบาดเจ็บท่าแหงนคอมากกว่าปกติ (Hyperextension injury)
เกิดจากการหกล้มคางกระแทกวัตถุ
มีการฉีกขาดของเอ็นด้านหน้า (Anterior ligament)
อาจเกิดของไขสันหลังแบบตัดขวางอย่างสมบูรณ์ (Complete transaction)
ส่งผลให้สูญเสียการเคลื่อนไหวในตำแหน่งที่ต่ำกว่าบริเวณที่มีพยาธิสภาพ
การบาดเจ็บท่างอ และหมุน (Flexion with rotation injury)
เกิดจากการหมุนหรือบิดของศีรษะและคออย่างรุนแรง
มีการฉีกขาด posterior longitudinal ligament
การบาดเจ็บแบบยุบจากแรงอัด (Compression injury)
มีกระดูกสันหลังยุบตัวซ้นเข้าหากัน ทำให้ไขสันหลังบาดเจ็บ
ถ้าเกิดการกระแทกโดยใช้เท้านำ จะเกิดการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังส่วนเอว(L) และส่วนอกท่อนล่าง (T)
เกิดจาการการหกล้มหรือกระโดด โดยใช้ส่วนนำ คือ ศีรษะ ก้น หรือเท้า กระแทกกับวัตถุ
ถ้าเกิดการกระแทกโดยใช้ศีรษะนำ จะเกิดการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังส่วนคอ(C)
การบาดเจ็บแบบ Penetrating injury
ทำให้เกิดการบาดเจ็บทั้งทางตรงและทางอ้อม
ไขสันหลังบวมและขาดเลือดและเนื้อเยื่อไขสันหลังตายจากการขาดเลือด
เกิดจากถูกแทง ถูกยิง
การดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บไขสันหลังในระยะก่อนถึงโรงพยาบาล (Prehospital phase)
การดูแลระบบทางเดินหายใจให้โล่งขณะเดียวกันต้องระวังไม่ให้กระดูกคอเคลื่อนโดยการใส่ Philadelphia collar
การดูแลห้ามเลือดในที่เกิดเหตุ
จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่สบายและเจ็บปวดน้อยที่สุด
การเคลื่อนย้าย (transportation) ต้องใช้คนช่วยอย่างน้อย 3 คน log roll โดยการใช้ Spinal board เป็นวิธีการที่ดีที่สุด
การประเมินการบาดเจ็บไขสันหลัง
การซักประวัติ
ความดันโลหิตต่ำร่วมกับชีพจรช้า
มีบาดเจ็บเหนือกระดูกไหปลาร้าหรือมีบาดเจ็บที่ใบหน้าอย่างรุนแรง
ปวดหลังหรือปวดตามแนวกึ่งกลางหลัง จะปวดมากขึ้นถ้าร่างกายมีการเคลื่อนไหว เช่น ขยับตัว บางรายอาจบ่นรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งตามลำตัวและแขนขา
ปวดตึงต้นคอ หรือความรู้สึกที่แขน ขาลดลง
ตกจากที่สูงมากกว่า 3 เท่าของความสูงของผู้ป่วยหรือสูงมากกว่า 6 เมตร
ตกจากที่สูงมากกว่า 3 เท่าของความสูงของผู้ป่วยหรือสูงมากกว่า 6 เมตร
กระเด็นออกนอกยานพาหนะ เช่น รถยนต์ มอเตอร์ไซค์หรือนั่งในรถยนต์โดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
ได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ทรวงอกและภายในช่องท้อง
ให้ประวัติควบคุมปัสสาวะไม่ได้หลังบาดเจ็บ
ได้รับบาดเจ็บจากการแขวนคอ (hanging)
การตรวจร่างกาย ใช้หลัก ABCDE
การประเมิน Glasgow’s Coma Score
การประเมินระบบประสาท เช่น sensation, perianal sensation, bulbocarvernosus reflex, การประเมินระบบประสาทการเคลื่อนไหว โดยเน้นการทดสอบกำลังของกล้ามเนื้อของ American Spinal Injury Association (ASIA)
การประเมินภาวะบวม หรือการมีเลือดออก เช่น ช่องท้อง ช่องอก หรือจากกระดูกหักส่วนอื่น
การประเมินการหายใจ รวมทั้งการทำทางเดินหายใจให้โล่ง
การตรวจทางรังสีวิทยา
Plain film เป็นการตรวจคัดกรองที่สำคัญ:
Computed tomography scan (CT)
Magnetic resonance imagine (MRI)
การดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บไขสันหลังระยะเฉียบพลันเกิด
Circulation (keep MAP ≥ 85 mmHg)
ให้สารน้ำเริ่มต้นเป็น 0.9% NSS
ให้ยา Vasopressin
การให้ยา
High-dose Methyprednisolone
การให้ยาในกลุ่ม H2 antagonist และ Proton Pump Inhibitor (PPI)
ยาบรรเทาอาการปวด
Breathing
การดูแลระบบทางเดินหายใจ
ดูแลการได้รับออกซิเจนในช่วง 72 ชั่วโมงแรก
ประเมิน Force Vital Capacity ผู้ป่วยทุกราย
การดูแลระบบทางเดินอาหาร และการขับถ่ายอุจาระ
การดูแลระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งผู้ป่วยบาดเจ็บไขสันหลังจะเกิดภาวะ neurogenic bladder
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับความอบอุ่นเพียงพอ
จัดหาเตียงที่เหมาะสม