Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บท 9 การพยาบาลผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่มีปัญหาสุขภาพในระบบหัวใจและหลอดเลือด…
บท 9 การพยาบาลผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่มีปัญหาสุขภาพในระบบหัวใจและหลอดเลือด
การวินิจฉัยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
การวินิจฉัยโรค ต้องอาศัยประวัติ อาการและอาการแสดงเป็นหลัก ร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Chest X-ray
Electrocardiography
Echocardiography
MRI
CVP
การสวนหัวใจ
วัตถุประสงค์
ตรวจปริมาณความเข้มข้นของออกซิเจนในหัวใจแต่ละห้องและในหลอดเลือด
ประเมินการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ
ตรวจหาความผิดปกติของกายวิภาคของหัวใจ
ใส่เครื่องมือกระตุ้นการเต้นของหัวใจ
การวินิจฉัยโรคที่แน่นอนก่อนการผ่าตัด
Balloon Atrial Septostomy
ภาวะแทรกซ้อน
การติดเชื้อบริเวณที่ทำ หรือที่หลอดเลือด
หัวใจเต้นผิดปกติ และภาวะขาดออกซิเจน
แพ้สารทึบแสงที่ฉีดเข้าไป
เม็ดเลือดแตกเห็นเป็นจ้ำเขียว
หัวใจทะลุหรืออวัยวะภายในได้รับอันตราย
การพยาบาลก่อนทำการสวนหัวใจ
สอบถามประวัติการแพ้สารทึบแสงหรือแพ้ไอโอดีน
ทำความสะอาดร่างกายโดยเฉพาะบริเวณที่ทำต้องโกนขนออกเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ชั่งน้ำหนักเพื่อคำนวณยาที่ผู้ป่วยต้องได้รับ
NPO
ให้ยานอนหลับตามแผนการรักษา
วัดชีพจร โดยเฉพาะชีพจรที่เท้า
ให้ผู้ป่วยปัสสาวะก่อนทำ
เตรียมด้านจิตใจ
การพยาบาลหลังทำการสวนหัวใจ
ติดเครื่องบันทึกหัวใจและชีพจรไว้ 1-3 ชั่วโมง
จัดให้นอนราบ และนอนเหยียดแขนหรือขาข้างที่ใส่สาย 4-8 ชั่วโมงหลังทำ
วัดสัญญาณชีพทุก 15 นาทีใน 1 ชั่วโมงแรกหรือจนกว่าจะคงที่ ต่อไปวัดทุก 30 นาที
สังเกตอาการที่แสดงถึงภาวะแทรกซ้อน
ดูแลให้ร่างกายได้รับความอบอุ่น
ทำความสะอาดแผลด้วยเทคนิคปราศจาคเชื้อ
ให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษา
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่มีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดในระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดที่ไม่มีอาการเขียว
มีรูรั่วที่ผนังกั้นหัวใจห้องล่าง
มีรูรั่วที่ผนังกั้นหัวใจห้องบน
ทางเชื่อมระหว่างหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตากับหลอดเลือดแดงแดงพัลโมนารีไม่ปิดหลังเกิด
อาการและอาการแสดง
VSD ที่รูรั่วมีขนาดเล็กกว่า 0.5 ตารางเซนติเมตร เด็กมักไม่มีอาการ
VSD ที่รูรั่วมีขนาดกลาง 0.5–1 ตารางเซนติเมตร หรือมีขนาดใหญ่กว่า 1 ตารางเซนติเมตร จะมีอาการหายใจเร็ว หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย
ASD ขนาดเล็ก มักไม่ทำให้เกิดอาการ
ASD ขนาดกลางและใหญ่
PDA ขนาดเล็ก ผู้ป่วยมักไม่มีอาการ
PDA ขนาดปานกลาง ผู้ป่วยอาจมีอาการเหนื่อยง่ายเล็กน้อย
PDA ขนาดใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการมากตั้งแต่วัยทารก
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดที่มีอาการเขียว
ระดับการเขียวแบบทั้งตัว
ระดับที่ 1 มีอาการเขียวเฉพาะในขณะออกกำลังกายมากๆ
ระดับที่ 2 มีอาการเขียวเล็กน้อยตลอดเวลาแม้ในขณะพัก
ระดับที่ 3 มีอาการเขียวตลอดเวลา สังเกตเห็นได้ง่าย
ระดับที่ 4 มีอาการเขียวอย่างมาก ร่วมกับมีนิ้วมือนิ้วเท้าปุ้ม
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียวที่เลือดไปปอดน้อย
รูรั่วที่ผนังหัวใจห้องล่าง (Ventricular septal defect)
หลอดเลือดพัลโมนารี่ตีบ (Pulmonary stenosis)
หลอดเลือดแดงใหญ่เอียงไปทางขวา (Overriding aorta)
กล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างขวาหนา (Right ventricular hypertrophy)
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียวที่เลือดไปปอดมาก
อาการและอาการแสดง
อาการนำที่สำคัญที่สุด และมักจะเขียวมาก เหนื่อยง่าย อาการเขียวไม่ตอบสนองต่อการให้ออกซิเจนที่มีความเข้มข้นสูงอาการของภาวะหัวใจวาย
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่มีโรคหัวใจพิการที่เกิดขึ้นภายหลัง (Acquired Heart Disease) ในระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง
การติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจ
อาการและอาการแสดง
มีไข้ ลักษณะไข้ต่ำๆ
มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
การตรวจพบเสียงฟู่ของหัวใจ
อาการทางระบบประสาท
ม้ามโต กดไม่เจ็บ
ซีด
การรักษา ให้ยาปฏิชีวนะขนาดสูง ทางหลอดเลือดดำ/กล้ามเนื้ออย่างน้อย 4 สัปดาห์
ไข้รูมาติก
สาเหตุ เกิดจากการติดเชื้อ GABHS
อาการและอาการแสดง อาการของไข้รูมาติก มักเกิดหลังคออักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบ ประมาณ 1-5 สัปดาห์
อาการสำคัญ
หัวใจอักเสบ
ข้ออักเสบ
อาการทางระบบประสาท
เลือดออกไต้ผิวหนัง
ตุ่มนูนแข็งใต้ผิวหนัง
คำแนะนำแก่ครอบครัวผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่เป็นไข้รูมาติก
ถ้าเด็กมีอาการปวดข้อ ควรแนะนำให้ไปพบแพทย์โดยเร็ว
โรคนี้พบมากในเด็ก อายุ 5-15 ปี ซึ่งอยู่ในวัยเรียน ควรส่งเสริมสนับสนุนให้ครูและเจ้าหน้าที่อนามัยที่โรงเรียนมีความรู้
เมื่ออาการหายดีแล้ว ควรมาตรวจตามนัดทุกครั้ง
การป้องกันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หลีกเลี่ยงการติดเชื้อโดยไม่ใกล้ชิดผู้ป่วยที่เป็นโรคคออักเสบ โรคหวัด แต่ถ้าติดเชื้อ GABHS
การรักษา
ยาปฏิชีวนะ เพื่อกำจัดเชื้อ GABHS (ฉีดหรือกิน Penicillin อย่างน้อย 10 วัน)
ยาลดอาการอักเสบ ให้แอสไพรินครั้งละ 2-4 เม็ด ทุก 6 ชั่วโมง
ยาลดอาการ chorea ให้กลุ่ม Tranquilizer เช่น Phenobarbital, Haloperidol
ยารักษาภาวะหัวใจวาย ให้ Digitalis, Diuretic
โรคหัวใจรูมาติก
อาการเริ่มแรกคือ หอบ เหนื่อย และค่อยๆ เริ่มเป็นอย่างช้าๆ และรุนแรงขึ้น
การป้องกัน
ยาป้องกันการเกิดไข้รูมาติกซ้ำ
ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด เช่น Warfarin หรือ Aspirin
การรักษา
Hydralazine
การรักษาโดยการผ่าตัด
การดูแลก่อนการผ่าตัด
เตรียมตรวจต่างๆ ตามแผนการรักษา
เตรียมเด็กและครอบครัว ให้รู้จักสภาพแวดล้อมในหอผู้ป่วยหนัก
เปิดโอกาสให้เด็กและครอบครัวได้ซักถามและอธิบายให้เข้าใจ
ฝึกหายใจลึกๆ และไออย่างมีประสิทธิภาพ
การเตรียมอื่นๆ เช่นเดียวกับการผ่าตัดทั่วๆไป
การดูแลหลังการผ่าตัด
ดูแลให้เด็กได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
สังเกตการทำงานของหัวใจและการไหลเวียนเลือด
ลดการทำงานของหัวใจ
คงความสมดุลของสารน้ำและอีเล็คโตรลัยท์
ให้ความรู้ คำแนะนำ และการฟื้นฟูสภาพแก่เด็กและครอบครัวก่อนกลับบ้าน
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่มีภาวะหัวใจวาย (Heart failure) ระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง
พยาธิสรีรวิทยา
มีการกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเธติค
เมื่อมีเลือดไปเลี้ยงไตลดลง ไตจะตอบสนองต่อภาวะนี้โดยจะกระตุ้น Rennin-angiotensin-aldosterone system ทำงานมากขึ้น
มีการเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อหัวใจ
มีการขยายตัวของหัวใจ
อาการของหัวใจซีกซ้ายวาย ได้แก่ หายใจเร็ว ปีกจมูกบาน หายใจลำบาก หน้าอกบุ๋ม
อาการของหัวใจซีกขวาวาย ได้แก่ หลอดเลือดดำที่คอโป่งพอง หน้าบวม ตาบวม ตับโตบางรายอาจมีม้ามโต คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง
การรักษา
ให้ยากลุ่มกลัยโคไซค์ (Digitalis glycosides)
ยากลุ่มปิดกั้นเบต้าอะดรีเนอร์จิก รีเซพเตอร์ (Beta-adrenergic receptor blocking agents)
ยาขยายหลอดเลือด (Vasodilators)
ยาขับปัสสาวะ (Diuretic drugs)