Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสรีรภาพการรู้สติ การรับความรู้สึก และการเคลื่อนไหว Pathophysiology…
พยาธิสรีรภาพการรู้สติ การรับความรู้สึก และการเคลื่อนไหว
Pathophysiology of Neurological
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการทางานของ ระบบประสาท
เซลล์ประสาท(Nerve cell , Neuron) และการส่งสัญญาณประสาท(Nerve Impulse)
เซลล์ประสาท(Neurons) เป็นหน่วยทางานที่ทาหน้าท่ีควบคุม การทางานของร่างกาย
ส่วนประกอบเซลล์ประสาท (Nerve cell , Neuron)
ตัวเซลล์ประสาท(Cell body ; Soma )
แขนงประสาท (Cell Processes)ประกอบด้วย ส่วนที่ทาหน้าที่นาสัญญาณประสาทเข้าสู่ตัว เซลล์ เรียกว่า เดนไดรต์(Dendrites)
จำแนกชนิดของเซลล์ประสาทตามหน้าที่
เซลล์ประสําทรับความรู้สึก(Sensory neuron)
เซลล์ประสาทประสานงาน(Interneuron)
เซลล์ประสําทสั่งการ(Motor neuron)
ทุกส่วนของระบบประสาท ประกอบด้วยโครงสร้างที่
เนื้อเยื่อประสาท (Nervous tissue)
เซลล์ประสาท (Neurons)
เซลล์พี่เลี้ยงหรือ เซลล์ค้ำาจุน (Neuroglia) .
บริเวณประสานประสาท(Synapse) ตัวรับ (Receptor)และสารสื่อประสาท(Neurotransmitter)
บริเวณประสํานประสําท (Synapse) คือ บริเวณที่มีการ สื่อสารระหว่างเซลล์ประสาท หรือเซลล์ประสาทกับเซลล์เป้าหมาย โดยสัญญาณประสาทจากเซลล์ประสาทที่ต้องการส่งสัญญาณ ประสาท(Presynaptic neuron) อาจถูกส่งผ่านSynapse โดยตรง หรือถูกส่งโดยสารสื่อประสาท(Neurotransmitter)
r
ตัวรับ(Receptor)
เป็นโปรตีน ที่อยู่บนเยื่อหุ้มเซลล์ หรือในไซโทพลาสซึมหรือ นิวเคลียส ทจี่ะเชื่อมต่อกับโมเลกุลเฉพาะ ซึ่งเรียกว่า ลิแกนด์ (ligand) เช่น สารสื่อประสาท, ฮอร์โมน หรือสารประกอบ
สารสื่อประสาท(Neurotransmitter)เป็น สารเคมีที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นในเซลล์ประสาท และเก็บไว้ในถุงหุ้ม(Neurotransmitter vesicle)
Nerve Actiotextn Potential การส่งสัญญาณประสาท(Nerve Impulse)
ศักยะงานวิ่งมาถึง
ปลายแอกซอน (axon terminal)
เซลล์ก็จะเปิดช่อง แคลเซียมที่เปิดปิด โดยศักย์ไฟฟ้า (voltage-gated calcium channel)
ไอออนแคลเซียม ไหลเข้ามาในปลาย แอกซอน
แคลเซียมจะทาให้ ถุงไซแนปส์ (synaptic vesicle) จานวนหน่ึงท่ีเต็ม ไปด้วยโมเลกุล สารสื่อประสาท เชื่อมเข้ากับเยื่อหุ้มเซลล์
ปล่อยสารเขาไปใน ร่องไซแนปส์ (synaptic cleft)
สารก็จะแพร่ข้าม ร่องไซแนปส์และ ออกฤทธิ์กับตัวรับ ของนิวรอนหลังไซแนปส์
วิถีประสาท (Nerve Pathway)
Dorsal column-medial lemniscus tract
วิถีประสาทที่รับรู้เกี่ยวกับการรับความรู้สึกจากการสัมผสั (tactile, touch)ได้แก่ การสั่น(Vibration), คัน (Itching),
การทรงตัว
วิถีประสาทDorsal column-medial lemniscus tract รับรู้เกี่ยวกับ ตำแหน่งของร่างกาย(Proprioception) โดย มีตัวรับอยู่ในกล้ามเนื้อ(Muscle spindle stretch receptor) และเอ็น(Golgi tendon organ) ซึ่งตอบสนองของกล้ามเนื้อและเอ็น
Spinothalamic tract pathway
เป็นวิถีประสาทที่รับความรู้สึกเกี่ยวกับอณุหภูมิความเจ็บปวดและ สัมผัสอย่างหยาบ(Crude touch)
การพักผ่อนนอนหลับและ ผลกระทบของการนอนหลับผิดปกติ
The Physiology of Sleep: Circadian
Night falls
Eyes inform the suprachiasmatic nuclei
Pineal gland informed
Pineal gland secretes melatonin ⬆️
Melatonin promotes sleep (makes you feel sleepy).
ความผิดปกติใน ระบบประสาทรับ ความรู้สึกทั่วไปที่พบ บ่อย
(NeuroPathology)
การบาดเจ็บที่ ศีรษะ(Traumatic brain injury)
การบาดเจ็บระยะแรก(Primary Head injury) เป็นการเกิดขึ้นทันทีที่มีการ กระทาให้บาดเจ็บ อาจทาให้มีอาการ ถลอก ปวด บวม ฉีกขาด กะโหลกแตก/ยุบ
การบาดเจ็บระยะที่2 (Secondary Head injury) เป็นภาวะแทรกซ้อนหลังเกิด
การบาดเจ็บในระยะแรก มีก้อนเลือด ในชั้นสมองแต่ละชั้น(เช่น Epidural Hematoma) ภาวะความดันกะโหลกศีรษะ สูง(Intracranial pressure:IICP) ภาวะสมอง เคลื่อน(Brain Hernia)
ภาวะสมองเสื่อม (Dementia)
มักทาให้เสียความคิดและความจาอย่างรุนแรงจนมผีลต่อชีวิตประจาวัน ปัญหาทางอารมณ์ ปัญหาทางภาษา และการไร้แรงจูงใจที่จะทาอะไร
Parkinson
[เกิดจากการเสียหน้าที่Basal Ganglia ทาให้การหลั่งDopamin จากSubstaintia Nigraลดลง โดยเป็นความผิดปกติของการส่งผ่านของประสาทสั่งการ(Transmission in Motor system)
เดินตัวแข็งมือแขนไม่ขยับหรือ
แกว่ง
หมุนตัวลาบาก
มีเท้าตก การเดินก้าวสั้นๆและซอยถ
อาการเดินเซ
หลอดเลือดสมองแข็งตัวสมองรับเลือดไป เลี้ยงน้อยลง
อาจทำให้เกิดอาการหน้ามืด
เกิดภาวะหลอดเลือดสมองตีบ จนถึงเนือ้สมองตายได้
เป็นลม
ลดปัจจัยเสี่ยงเพิ่มโดย การออกกาลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความเครียดต่างๆ
งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา งดอาหารที่มีไขมัน
Myasthenia Gravis (MG)
a long-term neuromuscular disease that leads to varying degrees of skeletal muscle weakness. The most commonly affected muscles are those of the eyes, face, and swallowing. It can result in double vision,
drooping eyelids, trouble talking, and trouble walking. Onset can be sudden.
ระบบท่คีอยควบคุมการนอนหลับ
มนุษย์มีความรู้สึกง่วงในช่วงเวลากลางคืน และตื่นในเวลากลางวันมี 2 ระบบคือ 1) ระบบการหลับ-ตื่น 2) ระบบนาฬิกาชีวภาพ (circadian)
แบบแผนการ นอนหลับเปลี่ยนแปลง
การนอนอยู่ในระดับ 3เท่านั้นและมีจานวนการ
ตื่นบอ่ย
สาเหตกุารนอนไม่หลับอาจ เนื่องมาจาก ขาดการออกกำลังกาย นอนกลางวันมากเกินไป และมีความวิตกกงัวลในเรื่อง ต่างๆสูงจนกระทั่งถึงอารมณ์เศร้า
ผลกระทบของการนอนหลับผิดปกติ
• Night 1: experience is uncomfortable, but tolerable
• Night 2: urge to sleep is greatest between 3 and 5 a.m.
• Night 3: complex information-processing is impaired
• Night 4: confusion, irritability, and micro-sleep occur
• Night 5: delusions may be experienced
• Night 6: depersonalisation and symptoms of sleep deprivation
กลไกการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและหน้าที่ ปฏิกิริยา การปรับตัวและความผิดปกติของการรู้สติ การรับความรู้สึก การเคลื่อนไหว และการนอนหลับพักผ่อน
กลไกการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและหน้าที่ ปฏิกิริยา และการปรับตัวของระบบรับความรู้สึก (Sensory system)
ระบบประสาทส่วนปลาย (Peripheral Nervous System: PNS)
เส้นประสาทสมอง (Cranial nerve)
ระบบรับ ความรู้สึก (Sensory System)
การรับความรู้สึกทั่วไป (Somatic Sensation)
การรับความรู้สึก พิเศษ (Special Sensation)
การรับความรู้สึกทั่วไป และการรับความรู้สึกพิเศษ
การรับความรู้สึกท่ัวไป (Somatic sensation) หมายถึง การรับ ความรู้สึกทั่วๆ ไปของร่างกายท้ัง ภายใน และภายนอก
การรับความรู้สึก พิเศษ (Special Sensation) ได้แก่ การมองเห็น การได้รับกลิ่น การได้รับรสชาติ อาหาร การได้ยินเสียง และการรับรู้สมดุล ของร่างกาย (การทรงตัว) การเคลื่อนไหว
ส่วนกลาง (Central Nervous System: CNS)ทําหน้าที่รับและส่งกระแสประสาทหรือ ข้อมูล ที่ได้รับจากส่วนต่างๆของร่างกายเข้าสู่สมองและไข สันหลัง
องค์ประกอบของ PNS ประกอบด้วย
เส้นประสาทสมอง (Cranial Nerve) 12 ทําหน้าที่รับ ส่งกระแสประสาทสู่สมองและนําคําสั่งการคู่จากสมองส่งต่อไปยัง หน่วยปฏิบัติการ
เส้นประสาทไขสันหลัง (Spinal Nerve) 31 คู่ ทําหน้าที่รับส่งกระแสประสาทสู่ไขสันหลังและนําคำสั่งการจากไขสันหลังส่งต่อไปยังหน่วยปฏิบัติการ เช่นกล้ามเนื้อและ ต่อม ต่ า ง ๆ
เซลล์ประสาท (Neuron) นอกระบบประสาทส่วนกลางทําหน้าที่รับ ข้อมูลจาก ร่างกายและนําส่งไปยังสมองและไขสันหลัง
ตา การมองเห็น
แสงผ่านเข้าในลูกตา
ตกกระทบที่เรตินา
เซลล์รูปแท่งและกรวยทา หน้าที่ส่งกระแสประสาท
ผ่านเซลล์ประสาทชั้นต่างๆที่ อยู่ในเรตินาไปยังOptic nerve(CN II)
ทอดทะลุไปสู่สมองส่วน Cerebral cortex เพื่อแปล สัญญาณให้เห็นภาพ
(Translation)ที่ได้ว่าภาพที่ เห็นเป็นภาพอะไร
กลไกที่ 1 การกระตุ้น (Stimulation) ที่ตัวรับ (Photoreceptor)ใน จอรับภาพ(Retina) โดย แสงแล้วเกิดศักย์ไฟฟ้า
กลไกที่ 2 การส่งผ่าน (Transmission)ศักย์ไฟฟ้า ที่เกิดขึ้นนี้ไปตามวิถี ประสาทการมองเห็น (Visual pathway)เข้าสู่ สมอง
กลไกที่ 3 การแปลหรือ วิเคราะห์ข้อมูล (Translation)ที่ได้ว่าภาพที่เห็นเป็นภาพอะไร
ภาวะสายตาผิดปกติ(Refractive error)
สายตาสั้น(Myopia;nearsightedness)ภาวะที่มองเห็นเฉพาะวัตถุใกล้ๆ เท่านั้น
• สาเหตุ กระบอกตายาวมากกว่าปกติ กระจกตาโค้งกว่าปกติ มีการหักเหของแสงเพิ่มขึ้น • การแก้ไข การใช้แว่นตาที่เป็นเลนส์เว้า(Concave lens)
สายตายาว (Hypermetropia,farsightedness) ภาวะที่มองเห็นเฉพาะ วัตถุไกลๆเท่านั้น
• สาเหตุ กระบอกตาสั้นกว่าปกติ กระจกตาโค้งน้อยกว่าปกติมีการหักเหของแสงลดลง • การแก้ไขการใช้แว่นตาที่เป็นเลนส์นูน(Convex lens)
สายตาเอียง(Astigmatism) เป็นภาวะที่ผิดปกติของสายตาเนื่องจากมี การหักเหของแสงไม่เท่ากันในมุกแนวระนาบ
• สาเหตุ กระจกตามีผิวโค้งหรือมีรัศมีความโค้งไม่สม่าเสมอกัน ทาให้เกิดการหักเหไม่เท่ากัน • การแก้ไขการใช้แว่นตาที่เป็นเลนส์ทรงกระบอก(Cylindrical lens)
กายวิภาคและสรีรวิทยาการได้ยิน
มีการกระตุ้น (Stimulation)เซลล์ขน (Hair cell)ใน Organ of corti
สัญญาณประสาทจะถูก ส่งผ่าน (Transmission)ของการได้ ยิน(Auditory pathway)
ไปที่สมองส่วนที่เก่ียวข้อง กับการได้ยินเพื่อแปล (Translation)เสียงและ คำพูดที่ได้ยิน
ความ ผิดปกติ ของการ
ได้ยิน
สูญเสียการได้ยิน(Hearing loss)
Conductive hearing loss เกิดจากการขัดขวางการนาคลื่นเสียงผ่านช่อง หูเยื่อแก้วหูและกระดูกทั้ง 3ชิ้นสมอง(ผิดปกติส่วนStimulation)
การรักษา ได้แก่การให้ยาปฏิชีวนะ การผ่าตัดตกแต่ง
Sensoryneural hearing lossเกิดจากความผิดปกติของsensory receptor คือ hair cell และความผิดปกติของวิถีประสาทการได้ยินตั้งแต่ CNVIII จนถึงก้านสมอง(ผิดปกติส่วนTransmission) การแก้ไข ได้แก่ ใช้เครื่องช่วยฟัง
Central hearing loss เกิดจากพยาธิสภาพที่ Auditory cortex ทาให้ไม่
รับรู้เสียงที่จาเป็นต่อการได้ยิน จาเสียงไม่ได้ไม่เข้าใจความหมาย
การได้ยินเสียงหึ่งในหู (Tinnitus)แบ่งเป็นได้ยินเฉพาะ ผู้ป่วยเอง(Tonal tinnitus) เนื่องจากถูกกลบโดยเสียงจาก สิ่งแวดล้อมและชนิดได้ยินทั้ง ผู้ตรวจและผู้ป่วย(Nontonal tinnitus)เกิดจากความผิดปกติของ ประสาทหูส่วนtinnitus สาเหตุมา จากเสียงฟู่จากหลอดเลือดบริเวณ คอ หรือAVM ในศีรษะ
การได้ยินดังกว่า ปกติ(Hyperacusis) เมื่อมีความผิดปกติ ของCNVII ทาให้ stapedius muscle ในหูช้ันกลางซึ่งทา หน้าที่ปรับลดความ รุนแรงของคลื่น เสียง เสียหายทำให้ได้ยืนเสียงดัง กว่าเดิม
อาการและอาการแสดงของการเสียการทรงตัว
Vertigoเป็นความรู้สึกว่ามีการหมุนที่จริงแล้วไม่มีการหมุนใดๆเลย
Unteadiness การเสียการทรงตัวแบบเสียศูนย์ เซ เนื่องจากปัญหาการยืน
Lighteadedness มีอาการหวิวๆลอยๆคล้ายจะเป็นลม จะมีอาการเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ
Dizziness เป็นอาการไม่สบายอย่างมาก คิดอะไรไม่ออก สมองตื้อๆ อาการจากข้อ 1-3 รวมกัน
สาเหตุของการสูญเสียการทรงตัว
เกิดจากระบบการทรงตัวส่วนปลายหรือ ระบบประสาทควบคุมการทรงตัวในหูชั้นใน
ได้แก่ พยาธิสภาพในหู เช่น การอักเสบ
เกิดจากระบบประสาทส่วนกลาง
เช่น การขาดเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนท่ี ควบคุมการทรงตัวหรือได้รับการ กระทบกระเทือน
การรับความรู้สึกพิเศษ(Special Sensation)
การรับรส
การดม กลิ่น
ระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System:ANS)
ควบคุมการทางานของร่างกายภายนอก อานาจจิตใจท่ีเกิดจากการกระตุ้นด้วยการเปลี่ยนแปลงของ ส่ิงแวดล้อมภายในและตอบสนองเกิดจากการทางานของ กล้าเนื้อเรียบ กล้ามเนื้อหัวใจ และต่อมต่าง
ไฮโปทาลามัสควบคุมการทางานของANS และต่อมไร้ท่อ เพื่อรักษาความคงสภาพของร่างกายไว้ โดยการทางานของไฮโปทาลามัสอาศัยข้อมูลนาเข้าจาก โครงสร้างหลายส่วนประมวลและวิเคราะห์เป็นคาส่ังมา ควบคุมการทางาน ANS อีกที
กลไกการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและหน้าที่ ปฏิกิริยา และการปรับตัวของ ระบบประสาทสั่งการ(Motor system) and higher brain function การเคลื่อนไหว การรู้สติ การนอนหลับ
Motor System ประกอบด้วย ระบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System: CNS)
หรือ Somatic Nervous Syste
ระบบประสาทส่วนกลางทาหน้าที่ เป็นศูนย์กลางรับ ประมวลวิเคราะห์และแปลผลข้อมลู จากนั้นนาคาสั่งมายังอวยั วะเปา้ หมายซึ่งทางานภายใต้อานาจจิตใจ
การควบคุมการเคลื่อนไหว
มีการส่งผ่านสัญญาณประสาทจาก motor cortex สู่ motor unit ส้ินสุดที่ neuromuscular junction เพื่อให้เกิดการหดตัว ของกล้ามเนื้อ
มีการทางานของกล้ามเนื้อในการหดตัวและคลายตัวที่ ประสานกัน เพื่อขยับโครงกระดูกให้เคลื่อนท่ี
มีการทางานของกระดูกในการเป็นแกนแข็งพยุงกล้ามเน้ือ เป็นคานสาหรับเคลื่อนที่ และการทางานของข้อต่อในจุดหมุน
ให้กับกระดูก
ระดับแคลเซียมที่สูงข้ึนในไซโทพลาซึมที่ปลายแอกซอน (axon terminal) ยัง จุดชนวนให้ไมโทคอนเดรียดูดซึมแคลเซียม (mitochondrial calcium uptake) ซึ่งก็จะเริ่มกระบวนการเมแทบอลิซึมทางพลังงานของไมโทคอนเดรียเพื่อ ผลิดอะดีโนซีนไตรฟอสเฟต (ATP) เพื่อเป็นพลังงานดารงการสื่อประสาท