Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคพาร์กินสัน (Parkinson's Disease) - Coggle Diagram
โรคพาร์กินสัน (Parkinson's Disease)
สาเหตุ
ร่างกายขาดสารโดปามีนในสมอง พบได้บ่อยในผู้สูงอายุทั้งชายและหญิง
เกิดจากการเสื่อมและตายไปของเซลล์สมองที่สร้างสารโดปามีน
จนไม่สามารถสร้างสารโดปามีนได้เพียงพอ สารโดปามีนนี้มีความสำคัญต่อการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย
อาการ
อาการสั่น(tremor)
อาการสั่นนี้จะมีลักษณะเฉพาะ คือ สั่นมากเวลาอยู่นิ่งๆ แต่ถ้าเคลื่อนไหวหรือยื่นมือทำอะไรอาการสั่นจะลดลงหรือหายไป
อาการทรงตัวลำบาก (postural instability)
จะเดินก้าวสั้นๆ แบบซอยเท้าในช่วงแรกๆ และต่อมาจะก้าวยาวขึ้นเรื่อยๆ จนเร็วมากและหยุดทันทีทันใดไม่ได้
เดินหลังค่อม
แขนไม่แกว่งตามเท้าที่ก้าว
เคลื่อนไหวช้า (brady kinesia)
ในระยะแรกๆ จะรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรช้าลงไปจากเดิมมาก ไม่กระฉับกระเฉง
ในรายที่เป็นมากขึ้นอาจพบว่าหกล้มบ่อยๆ จนกระดูกต้นขาหัก สะโพกหัก หลังเดาะ แขนหัก หัวแตก เป็นต้น
กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง (rigidity)
มักมีอาการแข็งตึงของแขนขา และลำตัว ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก เนื่องจากอาการปวดตามกล้ามเนื้อ
การรักษา
ขณะนี้ยังไม่มีวิธีการรักษาใด
การรักษาโดยการใช้ยา แบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ
1.1 ยาที่ช่วยชะลออาการ (neuroprotective therapy) จะช่วยชะลอการดำเนินไปของโรค เช่น ยา elegiline (Deprenyl) จะใช้บ่อยมักใช้ควบคู่ไปกับยา Levodopa จะช่วยป้องกันการทำลายโดปามีนในสมอง
1.2 รักษาตามอาการ ได้แก่
1.1 ยาที่ช่วยชะลออาการ (neuroprotective therapy)
1.2 รักษาตามอาการ ได้แก่
anticholinergic ใช้สำหรับอาการสั่น
Levodopa ช่วยในการทดแทนสารสื่อประสาทที่ลดน้อยลง
การรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัด
การผ่าตัดสมอง
การรักษาโดยการฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าในสมอง เรียกว่า deep brain stimulation (DBS)
การวินิจฉัยการพยาบาล
มีระดับการช่วยเหลือตนเองลดลงเนื่องจากการเคลื่อนไหวบกพร่อง
ความสามารถในการสื่อสารบกพร่องเนื่องจากอาการสั่นหรือหดเกร็งของกล้ามเนื้อริมฝีปากหรือลิ้น
ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอเนื่องจากกล้ามเนื้อที่เกี่ยวกับการเคี้ยวและการกลืนอ่อนแรง สั่นหรือหดเกร็ง
ผู้ป่วยและญาติขาดความรู้เรื่องโรคและการรักษา