Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ข้อวินิจฉัยที่ 2 ส่งเสริมความสำเร็จในการอย่าเครื่องช่วยหายใจ - Coggle…
ข้อวินิจฉัยที่ 2 ส่งเสริมความสำเร็จในการอย่าเครื่องช่วยหายใจ
ข้อมูลสนับสนุน
s : -
O : -ผู้ป่วยได้รับการเจาะคอ Teacheostomy tube with T-piece O2 10 LPM -มีเสมหะเหนียวข้น -O2 sat = 95% -Hb = 10.3 g/dl (12.1-14.7 g/dl=ต่ำกว่าปกติ) -Hct = 31.32 % (36-45%=ต่ำกว่าปกติ)
วัตถุประสงค์
1.ผู้ป่วยสามารถหย่าเครื่องหายใจและหายใจด้วยตัวเองได้
เกณฑ์การประเมินผล
1.ผู้ป่วยสามารถหายใจด้วยตัวเองได้
2.ผู้ป่วยไม่มีอาการที่แสดงถึงภาวะพร่องออกซิเจน เช่น ปลายมือปลายเท้าเขียว , หายใจเหนื่อยหอบ
3.ฟังเสียงทางเดินหายใจโล่ง ไม่มีเสียงเสมหะ
4.อัตราการหายใจอยู่ในเกณฑ์ปกติ คือ 18-24 bpm. , O2 sat มากกว่าหรือเท่ากับ 95%
การพยาบาล
1.ดูแลให้การพยาบาลก่อนหย่าเครื่องช่วยหายใจ
1.ประเมินความพร้อมในการหย่าเครื่องช่วยหายใจ (weaning readiness assessment)โดยใช้แบบประเมินการพย่าเครื่องช่วยหายใจ
2.ประเมินปัจจะยทำนายความสำเร็จในการหย่าเครื่องช่วยหายใจ เช่น การคำนวณ RSBI
3.ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งโดยการดูดเสมหะหรือให้ยาขยายหลอดลม
4.ดูแลระบบเผาผลาญของร่างกาย เช่น การให้สารน้ำและอิเล็กโทรไลต์อย่างเพียงพอ หรือการให้สานอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
5.ดูแลจัดการความปวดของผู้ป่วย โดยประเมินความรุนแรงของความปวด หรือให้ยาบรรเทาปวด
6.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
7.สนับสนุนให้ญาติเข้ามามีส่วนร่วมในการให้กำลังใจผู้ป่วย
2.ดูแลให้การพยาบาลระหว่างหย่าเครื่องช่วยหายใจ
1.เริ่มให้ผู้ป่วยทดลองหายใจเอง (Spontaneous breathing trial : SBT)
-จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง 45 องศา ถ้าไม่มีข้อห้ามเพื่อทำให้กะบังลมเคลื่อนไหวได้ดี
-ดูแลทางเดินหายใจของผู้ป่วยให้โล่ง โดยการดูดเสมหะ และบีบ seof inflating bag 2-3 ครั้ง หรืออจนกระทั่งผู้ป่วยหายเหนื่อย จึงเริ่ม wean
-สอนผู้ป่วยหายใจอย่างมีประสิทธิภาพ (Deep breathing)
-เฝ้าติดตามความสามารถในการอย่าเครื่องช่วยหายใจของผู้ป่วย โดย 30 นาที อย่างน้อย 3 ครั้ง
3.ดูแลให้การพยาบาลหลังหย่าเครื่องช่วยหายใจ
เมื่อผู้ป่วยสามารถหายใจเองได้นาน 2 ชั่วโมง ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการถอดเครื่องช่วยหายใจ
การดูแลหลังผู้ป่วยได้รับการถอดเครื่องช่วยหายใจ
1.แจ้งให้ผู้ป่วยทราบและจัดท่านั่งศีรษะสูงเพื่อให้ผู้ป่วยมีความพร้อมในการหายใจเองหลังถอดเครื่องช่วยหายใจ
2.สอนการหายใจและไออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อส่งเสริมการไอและขับเสมหะอย่างมีประสิทธิภาพหลังถอดเครื่องช่วยหายใจ
3.ดูดเสมหะทั้งในปาก ลำคอ และท่อช่วยหายใจอีกครั้ง เพื่อส่งเสริมให้ทางเดินหายใจโล่ง
4.แกะพลาสเตอร์หรือเชือกที่นึดตำแหน่งของท่อช่วยหายใจไว้ออก
5.ประเมินอาการหลอดลมบวมด้วยการประเมิน cuff leak test