Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิเคราะห์คุณค่า ลิลิตตะเลงพ่าย - Coggle Diagram
วิเคราะห์คุณค่า ลิลิตตะเลงพ่าย
บทวเิคราะหด้านวรรณศิลป :
การสรรคำ
การใช้คำที่เหมาะแก่เนื้อเรื่องและฐานะของบุคคล
ศัตราวุธอรนิทร์ หมายถึง อาวุธของข้าศึก
พระมาลา หมายถึง หมวก
นฤนาถ หมายถึง กษัตริย์
พระมาลา หมายถึง หมวก
การใช้คำโดยคํานึงถึงเสียง
มีสัมผัสสระในแต่ละวรรคของโคลงแต่ละบาทคล้ายกลบท
มีสัมผัสสระในแต่ละวรรคของโคลงแต่ละบาทคล้ายกลบท
การเล่นคำ
เพื่อให้มีความลึกซึ้งและเกิดอารมณ์กระทบใจผู้อ่าน
มีการใช้สัมผัสพยัญชนะเดียวกันเกือบทั้งวรรค
กรตระกองกอดแก้ว เรียมจักร้างรสแคล้ว
คลาดเคล้าคลาสมร
จำใจจรจำจากสร้อย อยู่แม่อย่าละห้อย
ห่อนช้าคืนสมแม่แล
วรรคที่ ๑ ได้แก่ กร – กอง – กอด – แก้ว
วรรคที่ ๒ ได้แก่ เรียม – ร้าง – รส
วรรคที่ ๓ ได้แก่ คลาด – เคล้า – คลา
วรรคที่ ๔ ได้แก่ อยู่ – อยาก
การเล่นเสียงวรรณยุกต์
มีการใช้สัมผัสสระและสัมผัสพยัญชนะ
ทำให้เกิดความไพเราะ
การเลียนเสียงธรรมชาติ
“....เจ้าพระยาไชยานุภาพ เจ้าพระยาปราบไตรจักร ตรับตระหนักสำเนียง เสียงฆ้องกลองปืนศึก อีกเอิกก้องกาหล เร่งคำรนเรียกมัน ชันหู ชูหางเล่น แปร้นแปร๋แลคะไขว่.”
การใช้คำอัพภาส
การซ้ำอักษรลงหน้าคำศัพท์ ทำให้เกิดความไพเราะ
เช่น “...สาดปืนไฟยะแย้ง แผลงปืนพิษยะยุ่ง พุ่งหอกใหญ่คะคว้าง ขว้างหอกซัดคะไขว่ไล่คะคลุกบุกบัน เงื้อดาบฟันฉะฉาด ง่าง้าวฝาดฉะฉับ...”
การใช้โวหาร
เลือกใช้ถ้อยคำในการบรรยาย พรรณนาและเปรียบเทียบได้อย่างเหมาะสมกับเนื้อเรื่อง ทำให้ผู้อ่านมองเห็นภาพชัดเจน
การใช้คำให้เกิดจินตภาพ
การใช้คำที่แสดงให้เห็นภาพการต่อสู้อย่างห้าวหาญของพลทหารทั้งสองฝ่ายที่ผลัดกันรุกรับขับเคี่ยวกันด้วยอาวุธหลากหลายทั้งขอ ง้าว ทวน หอก ธนู จนต่างฝ่ายล้มตายไปเป็นจำนวนมาก
การใช้โวหารโดยการเปรียบเทียบ
สมเด็จพระนเรศวรมีฤทธิ์เหมือนพระรามยามต่อสู้กับทศกัณฐ์ ข้าศึกศัตรูที่พ่ายแพ้ไปเหมือนพลยักษ์ สมเด็จพระนเรศวรก็เหมือนองค์พระนารายณ์อวตารลงมา
การใช้ถ้อยคำสร้างอารมณ์และความรู้สึก
สามารถใช้ถ้อยคำ ทำให้ผู้อ่านเกิดความสะเทือนอารมณ์ เกิดความรู้สึกเห็นใจ เศร้าใจ ดีใจ ภูมิใจ ได้ตามจุดมุ่งหมายของกวี
การใช้ถ้อยคำให้เกิดความรู้สึกเห็นใจ
ตอนที่พระมหาอุปราชาเคลื่อนกระบวนทัพ ขณะเดินทางมีการชมธรรมชาติ ชมพันธุ์ไม้ต่างๆ โดยการนำชื่อต้นไม้และดอกไม้มาเล่นคำให้สอดคล้องกับอารมณ์และความรู้สึกของพระมหาอุปราชาได้อย่างไพเราะ
การใช้ถ้อยคำเกิดอารมณ์สะเทือนใจ
ตอนที่พระมหาอุปราชาลาพระสนม
การใช้ถ้อยคำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวด
ตอนพระมหาอุปราชาทูลพระเจ้าหงสาวดีว่าจะมีเคราะห์ไม่ต้องการออกรบ จึงถูกพระเจ้าหงสาวดีกล่าวประชดด้วยถ้อยคำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดอับอายว่าให้เอาเครื่องแต่งกายหญิงมาสวมใส่
การใช้ถ้อยคำแสดงความโศกเศร้า
ตอนที่พระมหาอุปราชาต้องจากพระสนมและเดินทัพ เมื่อเห็นสิ่งใดก็คิดถึงนางอันเป็นที่รัก การคล่ำครวญของพระมหาอุปราชา ทำให้ผู้อ่านเห็นใจในความรักของพระมหาอุปราชา ดังปรากฏในตอนที่พระมหาอุปราชาเห็นต้นไม้ ดอกไม้ แล้วรำพันถึงพระสนม
บทวิเคราะห์คุณค่าด้านเนื้อหา
รูปแบบ
ผู้แต่งเลือกใช้คำประพันธ์ประเภทร่ายสุภาพและโคลงสุภาพในงานประพันธ์
ลิลิตตะเลงพ่ายแต่งเป็นลิลิตสุภาพ
โคลงสองสุภาพ โคลงสามสุภาพและโคลงสี่สุภาพสลับกันตามความเหมาะสมของเนื้อหา
องค์ประกอบของเรื่อง
สาระ
แก่นสำคัญของลิลิตตะเลงพ่าย คือ การยอพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในด้านพระปรีชาสามารถทางการรบ
โครงเรื่อง
การทำสงครามยุทธหัตถี แต่เพื่อมิให้เนื้อเรื่องแห้งแล้งขาดชีวิตชีวาจึงทรงเพิ่มเติมเรื่องที่ไม่ใช่การสงครามเข้าไป เนื้อหาที่สำคัญเป็นหลักของ
เรื่อง “ตะเลงพ่าย” คือ การดำเนินความตามเค้าเรื่องพงศาวดาร ได้แก่ การทำสงคราม การต่อสู้แบบยุทธหัตถี การจัดทัพ และรายละเอียดต่างๆ
ฉากและบรรยากาศ
เหตุการณ์ภายในเมืองมอญและบรรยากาศ
ระหว่างการเดินทัพของพระมหาอุปราชาจากเมืองมอญสู่กาญจนบุรี
กลวิธีในการแต่ง
เริ่มด้วยบทสดุดี
มีเนื้อเรื่อง
อนท้ายกล่าวสดุดีสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและจบด้วยการกล่าวถึงจุดมุ่งหมายของกวี
บอกชื่อ ความเป็นมา และคำอธิษฐานของพระองค์ท่าน การนำเสนอเรื่อง พระองค์ไม่ได้สอดแทรกคพวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ ลงไป
คำศัทพ์
บรรหาร หมายถึง พูด
คชยาน หมายถึง พาหนะที่เป็นช้าง
คชยุทธ์ หมายถึง รบบนหลังช้าง หรือ ยุทธหัตถี
ชิงฉัตร หมายถึง ชิงราชบัลลังก์
ประยูรเศวตฉัตร หมายถึง ตระกูลกษัตริย์
นฤนาถ หมายถึง กษัตริย์
ระเมียร หมายถึง เห็น
พสุธารออกทิศ หมายถึง แผ่นดินด้านตะวันออก(ของพม่า)
ชุมค่าย หมายถึง ตั้งค่ายชุมนุม
กุมภีล์ หมายถึง จระเข้
ตะเลง หมายถึง มอญ
นฤขัตรพิชัย หมายถึง ฤกษ์ดีมีชัย
ผ้าน หมายถึง ไม่เป็นระเบียบ เป็นคำโทโทษของ พ่าน
ประยูรเศวตฉัตร หมายถึง ตระกูลกษัตริย์
วิเคราะห์ด้านสังคม
สะท้อนเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณี
พิธีโขลนทวาร
เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ทหาร
เป็นพิธีบำรุงขวัญทหารก่อนออกศึก
มีพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์และประพรมน้ำพระพุทธมนต์
พิธีตัดไม้ข่มนาน
สะท้อนเห็นความเชื่อของสังคมไทย
ความเชื่อที่ปรากฏในเรื่อง
ความเขื่อเรื่องฝันบอกเหตุ
เชื่อคำทำนายทายทักของโหร
ความเชื่อของบรรพบุรุษ
สะท้อนให้เห็นธรรมชาติมนุษย์
พระมหาอุปราชาอับอายเมื่อถูกพระเจ้านันทบุเรงต่อว่า
สมเด็จพระนเรศวรใช้วาจาหว่านล้อมพระมหาอุปราชาให้มาต่อสู้ตัวต่อตัวกับพระองค์
สมเด็จพระวันรัต วัดป่าแก้วขอพระราชทานอภัยโทษแก่แม่ทัพนายกองโดยยกเหตุผลว่าเทพยดาต้องการพระองค์แสดงพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งคำกล่าวนั้นถูกพระทัย พระองค์จึงพระราชทานอภัยโทษ
สะท้อนข้อคิด เพื่อนำไปในการดำรงชีวิต
ความนอบน้อม
ความเมตตา
ความรับผิดชอบต่อหน้าที่
การให้อภัย
เช่น ตอนที่พระเจ้านันทบุเรง ทรงสอนการศึกสงครามแก่พระมหาอุปราชา
ตัวละคร
ฝ่ายไทย
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชหรือพระองค์ดำ
พระมหาธรรมราชาเป็นพระบรมชนกนาถ
สมเด็จพระเอกาทศรถหรือพระองค์ขาว
อนุชาของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
พระมหาธรรมราชา
สมเด็จพระมหาธรรมราชาหรืออีกพระนามหนึ่งว่า สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๑
ฝ่ายพม่า
พระเจ้าหงสาวดีหรือนันทบุเรง
กษัตริย์พม่า
พระมหาอุปราช
โอรสของนันทบุเรง