Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดเเละเงื่อนไข ในการประกอบวิชาชีพ…
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดเเละเงื่อนไข ในการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลเเละการการผดุงครรภ์ พ.ศ.๒๕๖๔
หมวดที่ ๑ บททั่วไป (ข้อ๔)
“การรักษาโรคเบื้องต้น” หมายความว่า กระบวนการประเมินภาวะสุขภาพทั้งการซักประวัติการตรวจร่างกาย การวินิจฉัยแยกโรค การรักษาโรคและการบาดเจ็บ การป้องกันโรค รวมถึงการปฐมพยาบาล เพื่อการแก้ปัญหา ความเจ็บป่วย บรรเทาความรุนแรง หรืออาการของโรค เพื่อให้ผู้ป่วยพ้นภาวะการเจ็บป่วยหรือภาวะวิกฤต
“การเจ็บป่วยฉุกเฉิน” หมายความว่า การได้รับบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยกะทันหัน ซึ่งเป็นภยันตรายต่อการด ารงชีวิตหรือการท างานของอวัยวะส าคัญ จ าเป็นต้องได้รับการประเมิน การจัดการและการบ าบัดรักษาอย่างทันท่วงที
“การเจ็บป่วยวิกฤต” หมายความว่า การเจ็บป่วยที่มีความรุนแรงถึงหรือที่มีผลต่อชีวิตหรือการท างานของอวัยวะส าคัญถึงขั้นที่อาจท าให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตหรือพิการได้
“การปฐมพยาบาล” หมายความว่า การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่บาดเจ็บหรืเจ็บป่วย โดยดูแลเพื่อบรรเทาอาการหรือป้องกันมิให้ภาวะนั้นเลวลง หรือเพื่อส่งเสริมการฟื้นหาย ก่อนได้รับการช่วยเหลือจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
“การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค” หมายความว่า กระบวนการที่ท าให้ร่างกายสร้าง หรือเกิดภูมิคุ้มกันหรือมีภูมิต้านทานต่อโรคที่ต้องการ โดยการให้วัคซีน
หมวดที่ ๒ การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ส่วนที่ ๑ การพยาบาล
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง กระทำการพยาบาลโดยใช้กระบวนการพยาบาล
๕.๑ การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล การตรวจประเมินภาวะสุขภาพการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคและการบาดเจ็บ การควบคุมการแพร่กระจายโรค การปฐมพยาบาลการบำบัดโรคเบื้องต้น และการฟื้นฟูสุขภาพ ทั้งรายทั่วไป รายที่ยุ่งยาก ซับซ้อน หรือเป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือวิกฤต
๕.๒ การสอน การแนะนำการให้ค าปรึกษาและการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยการวางแผนการดูแลต่อเนื่อง และการเสริมสร้างพลังอ านาจในการดูแลตนเองของประชาชน
๕.๓ การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน
การควบคุม และการแก้ปัญหาความเจ็บป่วย
๕.๔ การปฏิบัติการพยาบาลตามแผนการพยาบาลและ/หรือแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม การใช้เครื่องมือพิเศษ การติดตามผล รวมทั้งการประสานทีมสุขภาพในการจัดบริการ ให้เป็นไปตามมาตรฐานการพยาบาลที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
๕.๕ การให้การพยาบาลที่บ้านและการส่งเสริมความสามารถของบุคคล ครอบครัวและชุมชน เพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุขหรือสามารถจัดการวิถีชีวิตให้อยู่กับความเจ็บป่วยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามศักยภาพ
ข้อ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จะให้ยาผู้รับบริการได้เฉพาะที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งเป็นผู้บ าบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาหน้า ๒๔เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๔หรือเมื่อเป็นการรักษาโรคเบื้องต้น หรือการปฐมพยาบาล ทั้งนี้ การให้ยาผู้รับบริการดังกล่าวให้อยู่ภายใต้เงื่อนไข ดังน
๖.๑ ห้ามให้ยา หรือสารละลายในช่องรอบเยื่อบุไขสันหลัง หรือช่องไขสันหลัง หรือสายสวนทางหลอดเลือดด าส่วนกลาง (Peripherally Inserted Central Catheter) และช่องทางอื่นตามที่สภาการพยาบาลประกาศก าหนด
๖.๒ ห้ามให้ยา หรือสารละลาย หรือสารที่เกี่ยวข้องกับรังสีวินิจฉัย และยาอื่น ตามที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
ข้อ๗ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ให้กระทำการพยาบาลที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแผนการพยาบาล ในกรณีที่เป็นปัญหายุ่งยาก ซับซ้อน หรือเป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือวิกฤต จะทำการประกอบวิชาชีพการพยาบาลได้จะต้องกระท าร่วมกับผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
ข้อ๘ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นสอง จะให้ยาผู้รับบริการได้เฉพาะการให้ยาทางปากและยาภายนอก ตามที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมซึ่งเป็นผู้บำบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาหรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล และห้ามให้ยาในชนิดและช่องทางตามที่สภาการพยาบาลประกาศตามข้อ ๖.๑ และ ๖.๒
ส่วนที่ ๒ การทำหัตถการ
ข้อ๙ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง กระทำการพยาบาลโดยการท าหัตถการตามขอบเขตที่กำหนด ดังนี้
๙.๑ การท าแผล การตกแต่งบาดแผล การเย็บแผลขนาดลึกไม่เกินชั้นเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนัง (subcutaneous tissue) และไม่อยู่ในต าแหน่งซึ่งเป็นอันตรายต่ออวัยวะส าคัญของร่างกายโดยใช้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่ หรือการตัดไหมในต าแหน่งที่ไม่เป็นอันตราย การดูแลรักษาบาดแผลไหม้ แผลน้ าร้อนลวก หรือสารเคมี ไม่เกินระดับ ๒ ของแผลไหม้
๙.๒ การผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอม การผ่าฝี การผ่าตัดตาปลา การเลาะก้อนใต้ผิวหนังในบริเวณที่อยู่ในต าแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะที่ส าคัญของร่างกาย โดยใช้ยาระงับความรู้สึกทางผิวหนังหรือฉีดยาชาเฉพาะที่ ในการเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากอวัยวะ :
๙.๓ การถอดเล็บ การจี้หูดหรือจี้ตาปลา โดยใช้ยาระงับความรู้สึกทางผิวหนังหรือฉีดยาชาเฉพาะที่
๙.๔ การให้ออกซิเจนหน้า
๙.๕ การให้สารน้ าทางหลอดเลือดดา ในผู้ป่วยที่มีภาวะวิกฤต ภาวะสูญเสียสมดุลของสารน้ าในร่างกาย ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อภาวะช็อค การปฐมพยาบาล หรือตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
๙.๖ การให้ยา ทางปาก ทางผิวหนัง ทางหลอดเลือดด า หรือช่องทางอื่น ๆตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือตามที่สภาการพยาบาลประกาศก าหนด
๙.๗ การให้เลือด (Blood Transfusion) ตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
๙.๘ การเปิดทางเดินหายใจให้โล่งด้วยการดูดเสมหะ การเคาะปอด
๙.๙ การช่วยฟื้นคืนชีพ (Cardio pulmonary resuscitation) เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของผู้ป่วย
๙.๑๐ การเช็ดตา ล้างตา(Eye irrigation) หยอดตา ป้ายตา ปิดตา หรือการล้างจมูก
๙.๑๑ การสอดใส่สายยางลงไปในกระเพาะอาหาร (Nasogastric tube) เพื่อให้อาหารให้ยา หรือล้างกระเพาะอาหารในรายที่กินสารพิษ หรือตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
๙.๑๒ การสวนปัสสาวะ หรือการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะ ในรายที่ไม่มีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ
๙.๑๓ การสวนทางทวารหนัก ในรายที่ไม่มีข้อบ่งชี้อันตราย
๙.๑๔ การดาม หรือการใส่เฝือก ชั่วคราว
๙.๑๖ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดด าส่วนปลายหรือปลายนิ้ว หรือสารคัดหลั่งเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตามข้อบังคับหรือประกาศที่สภาการพยาบาลประกาศก าหนด
๙.๑๗ หัตถการอื่น ๆตามที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
๙.๑๕ การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
หมวกที่ ๓ การรักษาโรคเบื้องต้น
ข้อ ๑๐ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ให้กระท าการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อก าหนดของสภาการพยาบาลในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค ดังต่อไปนี้
๑๐.๑ ไข้ตัวร้อน ๑๐.๒ ไข้และมีผื่นหรือจุด๑๐.๓ ไข้จับสั่น ๑๐.๔ ไอ ๑๐.๕ ปวดศีรษะ๑๐.๖ ปวดเมื่อย ๑๐.๗ ปวดหลัง ๑๐.๘ ปวดเอว๑๐.๙ ปวดท้อง ๑๐.๑๐ ท้องผูก๑๐.๑๑ ท้องเดิน ๑๐.๑๒ คลื่นไส้อาเจียน๑๐.๑๓ การอักเสบต่าง ๆ ๑๐.๑๔ โลหิตจาง๑๐.๑๕ ดีซ่าน ๑๐.๑๖ โรคขาดสารอาหาร๑๐.๑๗ อาหารเป็นพิษ ๑๐.๑๘ โรคพยาธิล าไส้๑๐.๑๙ โรคบิด ๑๐.๒๐ โรคไข้หวัด๑๐.๒๑ โรคหัด ๑๐.๒๒ โรคสุกใส๑๐.๒๓ โรคคางทูม ๑๐.๒๔ โรคไอกรน๑๐.๒๕ โรคผิวหนังเหน็บชา ๑๐.๒๖ ปวดฟัน ๑๐.๒๗ เหงือกอักเสบ ๑๐.๒๘ เจ็บตา ๑๐.๒๙ เจ็บหู ๑๐.๓๐ โรคติดต่อตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ๑๐.๓๑ ภาวะแท้งคุกคามหรือหลังแท้งแล้ว๑๐.๓๒ การให้ภูมิคุ้มกันโรคแก่บุคคลทั่วไป หญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด ทารกและเด็ก ๑๐.๓๓ ความเจ็บป่วยอื่น ๆ ตามที่สภาการพยาบาลประกาศก าหนด
ข้อ ๑๑ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลประกาศก าหนด
๑๑.๑ การพยาบาลเฉพาะทาง
๑๑.๑.๑ สาขาเวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรคเบื้องต้น)
๑๑.๑.๒ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติทางตา
๑๑.๑.๓ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติฉุกเฉิน
๑๑.๑.๔ สาขาเวชปฏิบัติการบ าบัดทดแทนไต (การล้างไตทางช่องท้อง)
๑๑.๑.๕ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติการบำบัดทดแทนไต (การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม)
๑๑.๑.๖ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติผู้สูงอายุ
๑๑.๑.๗ สาขาการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤต (ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ)
๑๑.๑.๘ สาขาการพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อและการควบคุมการติดเชื้อ
๑๑.๑.๙ สาขาการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็ง
๑๑.๑.๑๐ สาขาการพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือด
๑๑.๑.๑๑ สาขาการพยาบาลผู้ป่วยแบบประคับประคอง
๑๑.๑.๑๒ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติครอบครัว
๑๑.๑.๑๓ สาขาการจัดการโรคเรื้อรัง
๑๑.๑.๑๔ สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
๑๑.๑.๑๕ การพยาบาลสาขาอื่นที่สภาการพยาบาลประกาศก าหนด
๑๑.๒ ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตร และได้รับหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตร ที่สภาการพยาบาล
ประกาศก าหนด ในสาขาต่อไปนี้
๑๑.๒ ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตร และได้รับหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตร ที่สภาการพยาบาล
ประกาศก าหนด ในสาขาต่อไปนี
๑๑.๒.๑ การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
๑๑.๒.๒ การพยาบาลเด็ก
๑๑.๒.๓ การพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต
๑๑.๒.๔ การพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อและการควบคุมการติดเชื้อ
๑๑.๒.๕ การพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน
๑๑.๒.๖ การผดุงครรภ์
๑๑.๒.๗ การพยาบาลมารดาและทารก
๑๑.๒.๘ การพยาบาลสาขาอื่นที่สภาการพยาบาลประกาศก าหนด
๑๑.๓ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ตามข้อ ๑๑.๑ และข้อ ๑๑.๒ นอกจากปฏิบัติตามข้อ ๙ และข้อ ๑๐ได้แล้ว สามารถท าการพยาบาล การรักษาโรคเบื้องต้นและหัตถการ ในสาขาที่ผ่านการศึกษา ฝึกอบรมตามข้อบังคับหรือประกาศที่สภาการพยาบาลกำหนด
ข้อ ๑๒ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ต้องกระทำการรักษาโรคเบื้องต้นตามข้อก าหนดของสภาการพยาบาลในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคโดย
๑๒.๑ ตรวจวินิจฉัยและบ าบัดรักษาโรค ตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพการพยาบาลที่สภาการพยาบาลประกำหนด
๑๒.๒ ให้ส่งผู้ป่วยไปรับการบ าบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เมื่อปรากฏ ตรวจพบหรือพิจารณาแล้วเห็นว่าอาการไม่บรรเทา อาการรุนแรงเพิ่มขึ้น มีโรคหรือภาวะแทรกซ้อน เป็นโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือมีเหตุอันควรอื่น ๆ เกี่ยวกับการบ าบัดรักษา
ข้อ ๑๓ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ถ้าจำเป็นต้องใช้ยาให้ใช้ยาได้ตามคู่มือการใช้ยาที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
ข้อ ๑๔ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ในการให้ภูมิคุ้มกันโรค ต้องปฏิบัติตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขก าหนด
ข้อ ๑๕ ต้องมีบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติของผู้ป่วย หรือผู้รับบริการ อาการ และการเจ็บป่วย โรค การพยาบาล การให้การรักษา หรือการให้บริการ วันเวลาในการให้บริการชื่อผู้ประกอบวิชาชีพ ตามความเป็นจริง ตามแบบของสภาการพยาบาล เก็บบันทึกและรายงานไว้เป็นหลักฐานเป็นเวลา ๕ ปี
หมวดที่ ๔ การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ส่วนที่ ๑ การพยาบาลก่อนการตั้งครรภ์ ระยะตั้งครรภ์
ข้อ ๑๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ให้การผดุงครรภ์แก่หญิงและครอบครัว เมื่อต้องการมีบุตร ก่อนการตั้งครรภ์ระยะตั้งครรภ์ ด้วยกระบวนการ ดังนี้
๑๖.๑ การตรวจประเมินภาวะสุขภาพของหญิงและคู่สมรสเพื่อวางแผนการมีบุตร
๑๖.๒ การตรวจประเมินภาวะการตั้งครรภ์ด้วยเวชภัณฑ์ทดสอบการตั้งครรภ์
๑๖.๓ การรับฝากครรภ์
๑๖.๓.๑ การประเมินภาวะสุขภาพด้านร่างกายและจิตใจของหญิงมีครรภ์ก า รสอนก ารปฏิบัติตนของบิด าและมา รด าใน ระห ว่างตั้งคร รภ์ ก า รคลอดและหลังคลอดเพื่อการเตรียมการคลอด
๑๖.๓.๒ การประเมินการเจ็บป่วยในอดีตและปัจจุบัน ที่อาจมีผลกระทบกับการตั้งครรภ์ การคลอด การผ่าตัดอื่นที่นอกเหนือไปจากการผ่าตัดคลอด การใช้ยา การแพ้ยาและอาหาร
๑๖.๓.๓ การประเมิน ประวัติทางสูติกรรม จ านวนครั้งที่เคยตั้งครรภ์ผลการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง รายละเอียดการคลอด ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์และการคลอดครั้งก่อน
๑๖.๓.๕ การตรวจครรภ์และทารกในครรภ์ เพื่อประเมินภาวะของการตั้งครรภ์และตรวจเต้านมและหัวนม เพื่อเตรียมพร้อมให้นมมารดา
๑๖.๓.๔ การตรวจร่างกายทั่วไปและการประเมินภาวะโภชนาการของหญิงมีครรภ์
๑๖.๓.๖ ให้ยาเสริมธาตุเหล็กและโฟเลตแก่หญิงมีครรภ์
๑๖.๓.๗ การให้วัคซีนป้องกันบาดทะยัก และวัคซีนอื่นตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
ข้อ ๑๗ แนะน าและส่งต่อหญิงมีครรภ์ให้ได้รับการตรวจและการรักษากับผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตามเกณฑ์การฝากครรภ์ที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
ข้อ ๑๘ ส่งต่อหญิงมีครรภ์กลุ่มเสี่ยง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข หรือการตรวจพบภาวะครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia) หรือส่วนนำหรือท่าของทารกในครรภ์ ผิดปกติ หรือมีภาวะความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์และการคลอดอื่น ๆ ให้ได้รับการรักษาพยาบาลจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือส่งต่อไปสถานพยาบาลที่มีความพร้อม เพื่อความปลอดภัยของหญิงมีครรภ์และทารก
ส่วนที่ ๒ การพยาบาลระยะคลอด
ข้อ ๑๙ ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จะกระท าการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายที่ตั้งครรภ์ปกติ และคลอดอย่างปกติ ตลอดจนการดูแลมารดาและทารกแรกเกิด
ข้อ ๒๐ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ให้การผดุงครรภ์หญิงมีครรภ์ ระยะก่อนคลอด ดังนี้
๒๐.๑ การประเมินหญิงมีครรภ์
๒๐.๑.๑ การประเมินประวัติการตั้งครรภ์ และประวัติการเจ็บป่วยอื่น ๆที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์และการคลอด
๒๐.๑.๒ การตรวจทางหน้าท้องเพื่อประเมินความพร้อมในการคลอด
๒๐.๒ การตรวจประเมินทารกในครรภ์
๒๐.๒.๑ การตรวจการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์
๒๐.๒.๒ ประมาณน้ าหนักทารกในครรภ์
๒๐.๒.๓ ส่วนน าและท่าทารกในครรภ์
๒๐.๓ การประเมินความก้าวหน้าของการคลอด
ข้อ ๒๑ การพยาบาล ระยะคลอด (Intrapartum)
๒๑.๑ การพยาบาลหญิงมีครรภ์ ที่ได้รับการชักน าการคลอด (Induction of labour)
๒๑.๒ การท าคลอด ในรายปกติ เตรียมท าคลอดเมื่อปากมดลูกเปิดสมบูรณ์แล้วส่วนน าอยู่ในอุ้งเชิงกรานพร้อมคลอด ตัดฝีเย็บตามข้อบ่งชี้ การท าคลอด การดูแลทารกแรกเกิดทันที
๒๑.๓ ท าคลอดรก และเยื่อหุ้มทารกโดยใช้วิธี Modified Credé Maneuverการตรวจรกและเยื่อหุ้มรก ในรายที่รกค้างถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเป็นอันตรายต่อมารดาให้ท าคลอดรกด้วยวิธีพยุงดึงรั้งสายสะดือ (Controlled cord traction) ถ้ารกไม่คลอดให้ส่งต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือส่งต่อไปสถานพยาบาลที่มีความพร้อมทันที
๒๑.๔ การเย็บซ่อมแซมฝีเย็บ ในรายที่มีการฉีกขาดที่ไม่เกินระดับ ๒ (second degree tear)
๒๑.๕ การประเมินการเสียเลือด
๒๑.๖ การประเมินสัญญาณชีพ หลังคลอดทันทีและก่อนการย้ายออกจากห้องคลอด
ข้อ ๒๒ การช่วยเหลือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมท าคลอด ในรายที่มีการคลอดผิดปกติ เช่นการคลอดติดไหล่หน้า หรือการใช้เครื่องมือช่วยคลอดด้วยเครื่องสุญญากาศ ด้วยคีม หรือการช่วยท าผ่าตัดคลอด การช่วยท าหัตถการทางสูติกรรมที่มีความปลอดภัยต่อหญิงมีครรภ์
ข้อ ๒๓ ห้ามผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง กระท าการที่เกี่ยวกับการคลอด ดังนี้
๒๓.๑ การเจาะน้ าคร่ า เพื่อตรวจภาวะ การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ (amniocentesis)
๒๓.๒ การท าคลอดที่มีความผิดปกติ เช่น คลอดท่าก้น คลอดแฝด สายสะดือย้อยคลอดท่าขวาง หรือภาวะที่มีส่วนน าใหญ่กว่าช่องเชิงกราน เป็นต้น
๒๓.๓ การล้วงรก (Manual removal of placenta)
๒๓.๔ การกลับท่าของทารกในครรภ์ ทั้งภายในและภายนอกครรภ์ (internal and external version)
๒๓.๕ การใช้มือกดท้องในขณะช่วยท าคลอด
๒๓.๖ การเย็บซ่อมฝีเย็บที่มีการฉีกขาดระดับ ๓
๒๓.๗ การทำแท้งข้อ ๒๔ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง จะกระทำการช่วยคลอดฉุกเฉินในรายที่มีการคลอดผิดปกติที่ไม่สามารถตรวจพบก่อนการท าคลอด และไม่สามารถหาผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมท าการคลอดได้ภายในเวลาอันสมควรและเห็นประจักษ์ว่าถ้าละเลยไว้จะเป็นอันตรายต่อมารดาหรือทารกก็ให้ท าคลอดในรายเช่นนั้นได้ แต่ห้ามให้ใช้คีมสูง
ข้อ ๒๕ ในรายที่มีการตกเลือดหลังคลอดถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเป็นอันตรายต่อมารดาให้รักษาอาการ
ตกเลือดเบื้องต้นตามความจ าเป็นและส่งต่อทันท
ข้อ ๒๕ ในรายที่มีการตกเลือดหลังคลอดถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเป็นอันตรายต่อมารดาให้รักษาอาการตกเลือดเบื้องต้นตามความจ าเป็นและส่งต่อทันท
ส่วนที่ ๓ การพยาบาลมารดาและทารก ระยะหลังคลอด (Postpartum )
ข้อ ๒๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ให้การพยาบาลกับมารดาหลังคลอดอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะภาวะตกเลือดหลังคลอด และหรืออาการอื่นที่อาจจะเกิดขึ้น
ข้อ ๒๗ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จะต้องใช้ยาท าลายและป้องกันการติดเชื้อส าหรับหยอดตา หรือป้ายตาทารกแรกเกิดทันที
ข้อ ๒๘ การพยาบาลทารกแรกเกิด โดยการประเมินสัญญาณชีพ ความผิดปกติ หรือความพิการที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน และให้มารส่วนที่ ๓ การพยาบาลมารดาและทารก ระยะหลังคลอด (Postpartum )ดาได้สัมผัสโอบกอดทารกและเริ่มให้ดูดนมจากมารดาภายในชั่วโมงแรกหลังคลอด
ข้อ ๒๙ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จะต้องบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติของหญิงตั้งครรภ์ การพยาบาลระยะตั้งครรภ์ การคลอดการพยาบาลหลังคลอด และการให้การบริการตามความเป็นจริง ตามแบบของสภาการพยาบาลและต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน เป็นระยะเวลา ๕ ปี
ข้อ ๓๐ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ให้กระท าการพยาบาลระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และการพยาบาลหลังคลอดในรายตั้งครรภ์และการคลอดปกติ ในสถานพยาบาลและการเยี่ยมบ้านที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแผนการพยาบาลมารดาและทารกแรกเกิด เมื่อเป็นการท าร่วมกับผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ห้ามไม่ให้กระท าในกรณีที่เป็นปัญหายุ่งยากซับซ้อน หรือตรวจพบความผิดปกติ
ส่วนที่ ๔ การวางแผนครอบครัวและการคัดกรองมารดาทารก
ข้อ ๓๑ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง สามารถกระท าการพยาบาล และการวางแผนครอบครัว ดังนี้
๓๑.๑ การให้ค าปรึกษากับคู่สมรสในการวางแผนครอบครัว แบบวิธีธรรมชาติ/การคุมกำเนิด ด้วยวิธีธรรมชาติไม่ต้องใช้ยาหรืออุปกรณ์
๓๑.๒ การให้บริการวางแผนครอบครัวแบบใช้ยาหรือใช้อุปกรณ์
๓๑.๒.๑ ยาเม็ดคุมก าเนิด (Oral contraceptive pills)
๓๑.๒.๒ ยาฉีดคุมกำเนิด(DMPA)
๓๑.๒.๓ ถุงยางอนามัย
๓๑.๒.๔ วงแหวนคุมก าเนิด
๓๑.๒.๕ แผ่นแปะคุมก าเนิด/ยาคุมก าเนิดชนิดแผ่นแปะผิวหนัง
๓๑.๒.๖ การฝังและถอดยาคุมก าเนิด (Nor Plant )
๓๑.๒.๗ อื่น ๆ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ข้อ ๓๒ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง สามารถท าการคัดกรองมารดาทารก
๓๒.๑ การทำ Pap smear
๓๒.๒ การประเมินภาวะสุขภาพ ความผิดปกติและความพิการของทารก
ข้อ ๓๓ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง การให้บริการวางแผนครอบครัวแบบใช้ยาหรือใช้อุปกรณ์
๓๓.๑ ยาเม็ดคุมก าเนิด (Oral contraceptive pills)
๓๓.๒ ถุงยางอนามัย
๓๓.๓ วงแหวนคุมก าเนิด
๓๓.๔ แผ่นแปะคุมกำเนิด/ยาคุมก าเนิดชนิดแผ่นแปะผิวหนัง
ส่วนที่ ๕ การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแก่มารดา ทารก และเด็ก
ข้อ ๓๔ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง จะให้ภูมิคุ้มกันโรค ต้องปฏิบัติตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
ข้อ ๓๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ให้คำแนะน าเรื่องการเข้ารับภูมิคุ้มกันโรคและติดตามให้มารับภูมิคุ้มกันโรค