Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

หญิงตั้งครรภ์ชาวไทย G1P0-0-0-0 GA 36 +4 wksBy U/S อายุ 40 ปี . …

- - - - HF = 3/4 >สะดือ OLA , FHS 158bpm.
    - - Passage
        
        : Pelvic Inlet > 11.5 cm.
        
        Midpelvic > 10 cm.
        
        Pelvic Outlet > 90 องศา
      - Passenger : EFW 1759 gm
      - Position :Upright Position
      - Physical Conditionมารดา G1P0-0-0-0 อายุ 40 ปี
        มารดามีความดันโลหิตสูง
        ปฏิเสธแพ้ยา/อาหาร
      - Power : แรงจากการหดรัดตัวของมดลูก (Uterine contraction or primary power)
        แรกรับ NO UC
      - Psychological Condition
        มารดาวิตกกังวลเกี่ยวกับการคลอดบุตรเนื่องจากไม่มีประสบการณ์ในการคลอด
- - - - 2.ประเมินสัญญาณชีพของทารกได้แก่ อัตราการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิ RR O2sat เพื่อประเมินความผิดปกติของร่างกายทารก
      - ฉีดยาวิตามิน K 0.5 ml เข้ากล้ามเนื้อบริเวณต้นขาขวาด้านหน้าของทารก เพื่อช่วยในการสร้างสารprothrombin ในตับช่วยให้การแข็งตัวของเลือดเร็วขึ้น ป้องกันเลือดออกผิดปกติ
- - - - หลอดเลือดแดงมีความต้านทานการไหลเวียนโลหิตในร่างกายเพิ่มขึ้น
        
        BP : 170/100 mmHg
        
        ได้รับ10% MgSO4 4 gm iv. Push by syringe pump ตามด้วยให้ 50% MgSO4 iv. drip 1.5 gm./hr.
        
        เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยา MgSO4
        
        การพยาบาล
        
        1.ประเมินอาการข้างเคียงจากการได้รับยา MgSO4 เช่น คลื่นไส้อาเจียน หน้าแดง มึนงง สับสน ง่วงหลับ หายใจช้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง ความดันโลหิตต่ำ
        
        2.ประเมินสัญญาณชีพ ติดตามอัตราการหายใจ, deep tendon reflex และ urine output ทุก 4 ชั่วโมง
        
        3.ดูแลความสุขสบายของผู้ป่วย เช่น เช็ดตัวประคบด้วยผ้าเย็นหรือกระเป๋าน้ำแข็ง เพื่อบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ
        
        เสี่ยงต่อภาวะชัก เนื่องจากความดันโลหิตสูง
        
        การพยาบาล
        
        1.ประเมินอาการของภาวะชักได้แก่ หน้ามืด ตาพร่ามัว ปวดศรีษะ กระสับกระส่าย จุกแน่นลิ้นปี่
        
        2ประเมินสัญญาณชีพ วัดความดันโลหิตทุก 2 hr If > 160/90 notify
        
        3ดูแลให้หญิงตั้งครรภ์นอนพักในท่านอนตะแคงซ้าย เพื่อลดการกดทับของเส้นเลือด Inferior Vena Cava
        
        4.ดูแลให้ได้รับ10% MgSO4 4 gm iv. Push by syringe pump ตามด้วยให้ 50% MgSO4 iv. drip 1.5 gm./hr.
        
        5.ดูแลให้ได้รับ O2 Mask c bag 10 L/min
        
        6.เจาะเลือดและติดตามส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ CBC,PT,PTT,LFT,PLT,G/M และ UA เพื่อการวินิจฉัยและประเมินความรุนแรงของโรค
        
        7.ติดตามและบันทึกสารน้ำเข้าออกจากร่างกาย
        
        8ติดตามอาการบวมของร่างกาย
        
        9.เตรียมอุปกรณ์และทีมช่วยเหลือเพื่อให้ช่วยเหลือได้ทันท่วงที
        
        S: มารดาบอกว่า ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว
        O:BP : 170/100 mmHg
        โปรตีนในปัสสาวะ 3+
        
        หลอดเลือดในสมองหดรัดตัว มีการทำลาย
        ของ Endothelial Cell ในสมอง
        
        ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว
        
        การแผ่ขยายของ Cell Cytotrophoblast
        เข้าไปในหลอดเลือดแดง เกิดขึ้นไม่สมบูรณ์
        
        มีการฝังตัวของรกระดับตื้น
        ( ขาดความยืดหยุ่นและแรงต้านสูง )
        
        การไหลเวียนเข้าสู่เนื้อรกและทารกในครรภ์น้อยลง
        
        เลือดเข้าไปในชั้น Decidua Basalis
        เกิดมีแรงดันของของเหลว
        
        Decidua Basalisค่อยๆปริ/ แยกออกจากผนังมดลูก
        
        1 more item...
        
        เสี่ยงต่อภาวะ Fetal Distress เนื่องจากมารดามีภาวะความดันโลหิตสูง
        
        การพยาบาล
        
        7 more items...
        
        S: มารดาบอกว่า ปวดศรึษะ ตาพร่ามัว
        
        O :FHS 145 bpm ฺ
        BP 170/100 mmHG ,
        โปรตีนในปัสสาวะ 3+
        
        เกิดการถูกทําลายของ endothelial cell
        
        ทําให้เม็ดเลือดแดงและเกล็ด
        เลือดถูกทําลายมากขึ้น
        
        เม็ดเลือดแดงแตกและปริมาณเกล็ดเลือดลดลง
        
        HELLP syndrome
        
        H:Hemolysis of red blood cell
        EL:Elevated liver enzymes
        LP:Low platelete count
        
        1 more item...
        
        Glomerulus Cell และ Capillary loops
        เกิดการขยายและหดรัดตัว
        
        การไหลผ่านของหลอดเลือดในไตลดลง
        
        ทําให้
        creatinine และ uric acid เพิ่มขึ้น
        
        โปรตีนในปัสสาวะ 3+
        
        1 more item...