Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงของระบบต่อมไร้ท่อและฮอร์โมน - Coggle Diagram
การเปลี่ยนแปลงของระบบต่อมไร้ท่อและฮอร์โมน
1 รก (placenta)
1.1 Human chorionic gonadotropin : HCG สร้างโดย cytotrophoblast ของ chorionic villi
ฮอร์โมนนี้จะขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะ จึงใช้ในการตรวจสอบการตั้งครรภ์
กระตุ้นการเจริญเติบโตของคอร์ปัสลูเที่ยม ที่ทำหน้าที่สร้างเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน
1.2 เอสโตรเจน
มีหลายตัวที่ถูกขับออกทางปัสสาวะ คือ estriol
หากรกมีสภาพดี ทารกมีสุขภาพดี esrtiol ก็จะมีปริมาณสูง
ผลต่อการเปลี่ยนแปลงในหญิงตั้งครรภ์
กระตุ้นให้มีการสะสม melanin pigment ทำให้สีผิวเข้มขึ้น
อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกใหญ่ขึ้น เต้านมใหญ่ขึ้น
เพิ่มขนาดกล้ามเนื้อมดลูกและปริมาณของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงมดลูก
เพิ่มจำนวน fibrinogen ทำให้เลือดแข็งตัวเร็วขึ้น
ลดการหลั่งของน้ำย่อย ทำให้อาหารอาหารไม่ย่อย และลดการดูดซึมไขมัน
กระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
กระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำลาย ทำให้มีน้ำลายเพิ่มขึ้น
กระตุ้นการสร้างสารคัดหลั่งในช่องคลอด
อารมณ์แปรปรวนได้ง่ายและมีอารมณ์ทางเพศเพิ่มขึ้น
1.3 โปรเจสเตอโรน
ผลต่อการเปลี่ยนแปลงในหญิงตั้งครรภ์
ผนังมดลูกหนา รองรับการฝังตัว
ทำให้กล้ามเนื้อเรียบคลายตัว ลำไส้เคลื่อนไหวน้อยลงเกิดอาการคลื่นไส้ แน่นท้อง ท้องผูกได้ง่าย
มีการเจริญเติบโตของต่อมและท่อน้ำนม ทำให้เต้านมคัดตึง
มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยง่ายกว่าปกติ
อุณหภูมิของร่างกายจะสูงขึ้น ทำให้รู้สึกร้อน เหงื่ออกง่าย
1.4 ฮิวแมน พาเซนตา แลคโตรเจน (human placental lactogen :HPL
หน้าที่ของฮอร์โมน HPL
ยับยั้งการทำงานของอินซูลิน เพื่อนำกลูโคสไปสูทารกในครรภ์
กระตุ้นการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
ลดการเผาผลาญโปรตีนในนมมารดา
ลดการสร้างและการหลั่งน้ำนม
2 ต่อมธัยรอยด์ (thyroid gland)
T3 และ T4 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ free T3 และ T4 กลับสู่ระดับปกติในไตรมาสที่สอง
มีอารมณ์หงุดหงิด มีหัวใจเต้นเร็วและชีพจรเร็วขึ้น เหงื่อออกง่าย
3 ต่อมพาราธัยรอยด์ (parathyroid gland)
ต่อมพาราธัยรอยด์จะโตขึ้นเล็กน้อย ฮอร์โมนจากพาราธัยรอยด์เพิ่มขึ้นสูงเกือบสองเท่าในสัปดาห์ที่ 15-35
ทำให้การดูดซึมแคลเซียมในลำไส้ดีขึ้นเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของทารกในครรภ์
4 ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง (pituitary gland)
4.1 ต่อมใต้สมองส่วนหน้า
โปรแลกตินฮอร์โมน (prolactin hormone)
เพื่อช่วยให้มีการพัฒนาการของเต้านมในระยะตั้งครรภ์ เตรียมสำหรับการสร้างน้ำนม
โกรทฮอร์โมน (growth hormone)
มีผลต่อเมตาบอลิซึมของโปรตีน คาร์โบเดรต และไขมันจะลดลงในระหว่างการตั้งครรภ์
4.2 ต่อมใต้สมองส่วนหลัง
ฮอร์โมน oxytocin และ vasopressin
oxytocin จะกระตุ้นการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก และการหลั่งน้ำนม
vasopressin ทำให้เส้นเลือดหดรัดตัวซึ่งจะทำให้ความดันโลหิตสูง และมีบทบาทในการปรับสมดุลน้ำในร่างกาย
5 ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต (adrenals gland)
หลั่ง aldosterone เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยควบคุมระดับโซเดียมและช่วยเพิ่มปริมาณเลือด
Estrogen ทำให้ระดับ cortisol ในกระแสเลือดเพิ่มขึ้น ทำหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมัน ช่วยในการสังเคราะห์น้ำตาล
6 ฮอร์โมนจากตับอ่อน (pancreas)
สร้าง insulin เพิ่มขึ้น แต่จะทำหน้าที่ลดลง สตรีมีครรภ์ที่มีแนวโน้มจะเป็นเบาหวานได้ง่าย