นิทานชีวิต

เซลล์ประสาท(Neuron)

เซลล์ประสาทจำแนกตามหน้าที่

เซลล์ประสาทประสานงาน เป็นตัวเชื่อมโยงกระแสประสาทระหว่างเซลล์รับความรู้สึกกับสมอง ไขสันหลัง และเซลล์ประสาทสั่งการ

เซลล์ประสาทรับความรู้สึก รับความรู้สึกจากอวัยวะสัมผัส

เซลล์ประสาทสั่งการ รับคำสั่งจากสมองหรือไขสันหลัง เพื่อควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกาย

ความหมายของเซลล์ประสาท

เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของระบบประสาท เซลล์ประสาทมีเยื่อหุ้มเซลล์ ไซโทพลาสซึมและนิวเคลียสเหมือนเซลล์อื่นๆ แต่มีรูปร่างลักษณะแตกต่างอกกไป เซลล์ประสาทประกอบด้วยตัวเซลล์ยประสาทที่มี 2 แบบคือ

เดนไดรต์ (Dendrite) ทำหน้าที่นำกระแสประสาทเข้าสู่ตัวเซลล์

แอกซอน (Axon) ทำหน้าที่นำกระแสประสาทออกจากตัวเซลล์ไปยังเซลล์ประสาทอื่นๆ


รูปร่างและขนาดของเซลล์ประสาท

รูปร่างของเซลล์ประสาท จะมีความสัมพันธ์กับหน้าที่ โดยรูปร่างจะบ่งถึงการติดต่อกับเซลล์ประสาทอื่นๆ และมีอิทธิพลต่อทิศทางที่จะก่อให้เกิดการส่งต่อของข้อมูล เซลล์ประสาทมีรูปร่างหลายแบบ และประกอบด้วย ส่วนของตัวเซลล์ เรียกว่า soma หรือ cell body และแขนงที่ยื่นออกไป (processes) ได้แก่ dendrite และ axon

กระดูก (Bone)

หน้าที่ของกระดูก

ค้ำจุนโครงสร้างของร่างกายและทำหน้าที่รองรับอวัยวะต่าง ๆ

ป้องกันอวัยวะภายในร่างกายที่สำคัญ

เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อและเอ็นที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหว

ผลิตเม็ดเลือดชนิดต่าง ๆ และยังเป็นแหล่งสำรองของแคลเซียมที่สำคัญ

กระดูก เป็นส่วนที่แข็งแรงและทนทานที่สุด ซึ่งกระดูกแต่ละท่อนถูกเชื่อมต่อกันด้วยเอ็นหรือพังผืดตรงบริเวณข้อต่อ ทำให้กระดูกมีความยืดหยุ่นและสามารถสนับสนุนการเคลื่อนไหวไปมาของร่างกายได้อย่างอิสระ

ร่างกายขอมนุษย์ ระบบโครงกระดูกผ่านการวิวัฒนาการมาอย่างสลับซับซ้อน จากในระยะตัวอ่อน (Embryo) หรือในร่างกายของทารกแรกเกิดที่มีจำนวนกระดูกอยู่มากถึง 350 ชิ้นซึ่งในภายหลังกระดูกแต่ละชิ้นจะเชื่อมต่อกัน เพื่อรองรับร่างกายที่เจริญเติบโตขึ้น จนกระทั่งถึงวัยผู้ใหญ่ ร่างกายของเราจะเหลือจำนวนกระดูกรวมกันทั้งหมด 206 ชิ้นเท่านั้น ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ

กระดูกแกน (Axial Skeleton) หมายถึง กระดูกที่เป็นแกนกลางของลำตัวมีอยู่ทั้งหมด 80

กระดูกรยางค์ (Appendicular Skeleton) หมายถึง กระดูกนอกเหนือไปจากบริเวณลำตัวมีอยู่ทั้งหมด 126 ชิ้น

กล้ามเนื้อและไขมัน (Muscle and fat)

click to edit

กล้ามเนื้อ (Muscle) เป็นเนื้อเยื่อที่หดตัวได้ในร่างกาย เปลี่ยนแปลงมาจากเมโซเดิร์ม (mesoderm) ของชั้นเนื้อเยื่อในตัวอ่อน และเป็นระบบหนึ่งของร่างกายที่สำคัญต่อการเคลื่อนไหวทั้งหมดของร่างกาย

หน้าที่ของกล้ามเนื้อ

คงรูปร่างท่าทางของร่างกาย (Maintain Body Posture)

ยึดข้อต่อไว้ด้วยกัน (Stabilize Joints)

ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหว (Provide Movement) โดยการเปลี่ยนพลังงานที่ได้จากสารอาหารมาเป็นพลังงานกล(Mechanical Energy)หรือพลังงานที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว

รักษาระดับอุณหภูมิของร่างกาย(Maintain Body Temperature) โดยผลิตความร้อนออกมาตามที่ร่างกายต้องการ

ประเภทของกล้ามเนื้อ

กล้ามเนื้อเรียบ (Smooth Muscle)

กล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiac Muscle)

กล้ามเนื้อลาย (Skeletal Muscle)

ไขมันคือ แหล่งพลังงานสำรอง ที่เกิดจากการรวมตัวกันของเซลล์ไขมัน เรียกว่า เนื้อเยื่อไขมันที่มีเซลล์ไขมันรวมตัวกันจนเป็นเนื้อเยื่อ

สมอง (Brain)

สมองของมนุษย์เป็นที่อยู่ของเซลล์จำนวนนับแสนล้านเซลล์ ในแต่ละเซลล์จ่างก็มีการเชื่อมต่อโยงใยกัน จนกระทั่งถูกถักทอกลายเป็นร่างแหขนาดใหญ่ซึ่งมีความสลับซับซ้อน ต่อมาเมื่อเกิดการรับรู้ข้อมูลหรือได้รับการกระตุ้นจากภายนอก เซลล์สมองก็จะส่งข้อมูลออกมาในรูปแบบกระแสไฟฟ้า

ส่วนต่างๆของสมอง

สมองส่วนหน้า – Forebrain
เป็นส่วนขนาดใหญ่ที่สุด มีความหยักเยอะมากที่สุด สามารถแบ่งได้อีกหลายส่วน เช่น… Cerebrum มีหน้าที่เกี่ยวกับการรับรู้ข้อมูล รวมทั้งการเรียนรู้ประมวลผลทางประสาทสัมผัส เช่น การมองเห็น , ภาษา , การสื่อสาร , การคิด ,ส่วนของความทรงจำ เป็นต้น

สมองส่วนกลาง – Midbrain
ส่วนนี้ใช้ในการรับ – ส่ง กระแสประสาทระหว่างสมองส่วนหน้าและ
สมองส่วนท้าย อีกทั้งยังทำหน้าที่เกี่ยวกับการมองเห็น,การเคลื่อนไหวของลูกตา และการได้ยิน

สมองส่วนท้าย – Hindbrain
ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่…

Cerebellum ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัว รวมทั้งควบคุมกล้ามเนื้อในยามเคลื่อนไหว

Pons ทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น การเคี้ยวอาหาร , การหลั่งของของเหลว , การเคลื่อนไหวใบหน้า ซึ่งมีผลกระทบมาจากการสัมผัสและความเจ็บปวด , ควบคุมการหายใจ และอื่นอีกมากมาย

Medulla สำหรับในส่วนนี้อยู่บริเวณท้ายสุด ติดอยู่กับไขสันหลัง โดยจัดเป็นเส้นทางในการเดินทางของกระแสประสาท พร้อมควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น การหายใจ , การเต้นของหัวใจ , การย่อยอาหาร รวมทั้งการยืดและหดตัวของเส้นเลือด เป็นต้น