ผู้ป่วยหญิง อายุ1ปี 11เดือน
DX. Bronchiolitis with Asthma
ผู้ป่วยหญิง อายุ1ปี 11เดือน
DX. Bronchiolitis with Asthma
พยาธิสภาพ
click to edit
เชื้อไวรัสจะแบ่งตัวที่ชั้น mucosa ของหลอดลมฝอย ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลมฝอย
มีผลต่อ epithelial cell ทำให้ขนโบกพัดบวมและสูญเสียหน้าที่ ซึ่งการติดเชื้อ RSV ทำให้ cell
membrane sที่ติดเชื้อกับ cell membrane ที่ติดกับ epithelial cel รวมกัน กลไกนี้ทำให้ bronchiole
mucosa บวม และทางเดินหายใจเต็มไปด้วย mucus กับ exudate ผนังของ bronchi กับ bronchiole
เต็มไปด้วยเซลล์ที่มีการอักเสบ และอาจเกิด peribronchiolar infection เมื่อ epithelial cell ตาย
จะหลุดลอกออก เกิดการอุดตันของทางเดินหายใจส่วนล่าง การที่เยื่อบุทางเดินหายใจบวม มี
สิ่งคัดหลั่งเพิ่มขึ้นและหลอดลมมีการหดเกร็ง (bronchospasm) การที่ทางเดินหายใจเล็กๆอุดตัน
เวลาหายใจเข้าอากาศจะยังพอเข้าไปได้บ้างเพราะขณะหายใจเข้าผนังทรวงอกความดันเป็นลบ
ทำให้หลอดลมฝอยขยายขึ้นเล็กน้อย แต่เวลาหายใจออกจะหายใจลำบากเพราะมีมูกเหนียว และ
ความดันในทรวงอกเป็นบวก หลอดลมฝอยที่ขนาดรูแคบอยู่แล้วจะยิ่งแคบมากขึ้น ทำให้หายใจออก
ไม่สะดวก การระบายอากาศและการแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง ในระยะแรกจะขาดออกซิเจน เมื่อ
อาการรุนแรงจะเกิดการคั่งคาร์บอนไดออกไซด์
สาเหตุ
click to edit
เกิดจากเชื้อไวรัสมากกว่าร้อยละ 50 ของผู้ป่วยหลอดลมฝอยอักเสบที่ต้องเข้ารับการรักษา
ในโรงพยาบาลเกิดจากเชื้อ RSV นอกจากนั้นเกิดจากเชื้ออื่นๆ ได้แก่ infuenza virus, parainfluenzo
virus, rhinovirus, adenovirus ส่วนเชื้อ mycoplasma มักพบเฉพาะในเด็กโต
click to edit
หลอดลมฝ่อยจักเสบ (Bronchiolitis)หลอดลมฝอยอักเสบ เป็นการอักเสบของหลอดลมฝอย (bronchiole) พบได้บ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี พบบ่อยที่สุดในเด็กอายุ 6 เดือน และมีเด็กหลายคนที่อาจกลายเป็นโรคหืดในเวลาต่อมา(Pillter, 2010 : 1170) อาการจะรุนแรงในเด็กขวบปีแรก เนื่องจากทางเดินหายใจของเด็กมีขนาดเล็กกว่าทางเดินหายใจของเด็กโตและผู้ใหญ่มาก เมื่อเกิดการอักเสบของทางเดินหายใจส่วนปลายทำให้มีแรงต้านในทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น เกิดการอุดตันได้ง่าย และติดเชื้อแบคที่เรียซ้ำซ้อนได้ง่าย
อาการและอาการแสดง
click to edit
อาการมักเริ่มด้วยมีน้ำมูกไหล มีไข้ต่ำๆ คล้ายไข้หวัด อาจมีอาการไอนำมาก่อนประมาณ
2-3 วัน หลังจากนั้นจะเริ่มหายใจเร็ว หอบลึกแรงอย่างเฉียบพลันและไอมากขึ้น หายใจลำบาก
ทั้งขณะหายใจเข้าและหายใจออก เชื้อไวรัสทำให้เกิดเยื่อมูกที่หลอดลมฝอย ทำให้ทางเดินหายใจ
เล็กๆบวมและอุดตัน เสียงหายใจเข้าเบาลง ช่วงหายใจออกจะยาวกว่าปกติและได้ยินเสียง
กรอบแกรบแบบละเอียด เด็กจะสามารถนำอากาศเข้าสู่ทางเดินหายใจได้ แต่จะหายใจออก
ลำบากเพราะมีมูกอุดตัน ทำให้อากาศค้างในปอด การตรวจร่างกายพบว่าทรวงอกจะขยายใหญ่กว่า
ปกติเนื่องจากมีลมค้างอยู่ในถุงลม เคาะปอดได้ยินเสียงโปร่ง ฟังปอดได้ยินเสียงหวีดและเสียง
กรอบแกรบได้ทั่วไปในปอด ในรายที่อาการไม่รุนแรงอาการจะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ส่วนรายที่
เป็นรุนแรงจะมีอาการอ่อนเพลีย หายใจเร็ว (tachypnea) มีการดึงรั้งอย่างชัดเจน (retraction)
อย่างชัดเจน
จากกรณีศึกษา มีไข้สูง 38 องศาหอบเหนื่อย ไอ มีเสมหะ ฟังเสียงปอด พบเสียง wheezing ทั้งสองข้าง
การวินิจฉัยโรค
จากกรณีศึกษา การตรวจพิเศษ chest X-ray พบ atelectasis in both lungs
การรักษา
1.1 ให้ออกซิเจนที่มีความชื้นสูง ในรายที่มีอาการรุนแรงมากและเกิดภาวะหายใจ
ล้มเหลว พิจารณาใช้เครื่องช่วยหายใจหรือช่วยหายใจด้วยแรงดันบวก (CPAP)
click to edit
1.2 ให้ยาละลายเสมหะ และอาจให้ยาขยายหลอดลม เนื่องจากหลอดลมฝอยอักเสบแยกจากโรคหืดได้ยาก ถ้าตอบสนองต่อยาขยายหลอดลม น่าจะเป็นโรคหืดมากกว่าหลอดลมฝอย อักเสบ หรือมีภาวะทั้งสองอย่างร่วมกันอยู่
1.3 ดูแลให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ อาจดูแลให้ได้รับน้ำทางหลอดเลือดดำในระยะที่
ยังมีอาการรุนแรง
กรณีดังกล่าวต้องให้โดยเร็วที่สุด โดยให้ในรูปของฝอยละอองยาติดต่อกันเป็นระยะเวลาน
12-20 ชั่วโมงต่อวัน วันละครั้งเป็นเวลาประมาณ 3-5 วัน
จากกรณีศึกษา
1.1 ให้ออกซิเจนที่มีความชื้นสูงHeated huridified high
flow nasal cannula(HHHFNC) FIOW 18 LPMFi02 0.3
1.2 berodual 0.3 ml + NSS
3ml NB q 6 hr-Salbutamo 0.3ml + NSS 3ml NB q 6 hr
1.3 5% DN/2 1000ml v rate 40ml/hr
3.-Ampicillin 375 g v q 6 hr
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
1.มีภาวะเนื้อเยื่อของร่างกายพร่องออกซิเจนเนื่องจากหลอดลมมีการคั้งค้างของเสมหะ
กิจกรรมและเหตุผลทางการพยาบาล
2.ร่างกายเสียสมดุลของน้าและอิเล็กโทรไลต์ เนื่องจากระบบย่อยอาหารถูกรบกวนและ ระคายเคือง
กิจกรรมและเหตุผลทางการพยาบาล
4.ให้การพยาบาลด้วยความนุ่มนวล เพื่อลดการใช้พลังงานของผู้ป่วยเนื่องจากผู้ป่วยอาจ เกิดภาวะขาดน้า จากการหายใจเร็วในระยะแรก
5.ติดตามผลการตรวจอิเล็กโทรไลต์รายงายแพทย์ทันทีเมื่อผิดปกติ
3.อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากระบบหายใจล้มเหลว เนื่องจากมีการคั่งของเสมหะในหลอดลม
กิจกรรมและเหตุผลทางการพยาบาล
cc ไอหอบเหนื่อย 2 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล
PI 3 วันก่อนมาโรงพยาบาลมีอาการไอมีเสมหะอาเจียนเป็นเศษอาหารและนม 1-2 ครั้งต่อวันเข้ารับการรักษาที่รพ. สตใกล้บ้านได้ยาแก้ไอและยาลดไข้มารับประทาน
1วันก่อนมาโรงพยาบาลมีอาการไอมีเสมหะรับประทานอาหารและนมได้น้อยอาเจียนหลังรับประทานอาหารและนมรับการรักษาที่โรงพยาบาลวารินแพทย์ให้ยาไปรับประทานที่บ้าน 2ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาลมีอาการไอหอบเหนื่อยมากขึ้นจึงกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งตรวจพบมีไข้ 38 องศา ชีพจร 150 ครั้งต่อนาที อัตราการหายใจ 42 ครั้งต่อนาที ไม่สม่ำเสมอฟังเสียงปอดได้ยินเสียง wheezing both lungs Spo2 89%