Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่2 แนวคิดและทฤษฎีการสูงอายุ (Theories of aging) - Coggle Diagram
บทที่2 แนวคิดและทฤษฎีการสูงอายุ
(Theories of aging)
ความหมาย ความสูงอายุ (meaning of aging)
เป็นความต่อเนื่องของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่สิ่งมีชีวิตยังอยู่ในครรภ์ของมารดาจนกระทั่งถึงแก่ชีวิต
เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและหน้าที่ของมนุษย์และสัตว์ที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ตามกาลเวลา
เป็นความเสื่อม (detrimental)ที่เกิดขึ้นจากปัจจัยภายใน (intrinsic) ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง (progressive) มีลักษณะเป็นสากลไม่มีผู้ใดหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทฤษฎีการสูงอายุ
จากการศึกษาศาสตร์ทางการสูงอายุทำให้เชื่อได้ว่า กระบวนการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของคนเรามีอยู่ 2 ระยะ
คือระยะแรกเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 40 ปี ซึ่งมีลักษณะเป็นไปในทางเจริญงอกงาม (Growth) เมื่อพ้นวัยผู้ใหญ่
ระยะที่ 2 (หลังอายุ 40 ปีขึ้นไป) ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่เสื่อมโทรม และไม่ปรากฏความเจริญงอกงาม
กระบวนการชราของมนุษย์ให้ชัดเจนที่สุด ประกอบด้วยทฤษฎี 3 กลุ่ม ได้แก่
ทฤษฎีทางชีววิทยา (Biological Theory)
ทฤษฎีด้านพันธุกรรม (Genetic Theory)
ทฤษฎีวิวัฒนาการ (Evolution theory) หรือ ทฤษฎีเซลล์ (Cell Theory) ร่วมกันอธิบายว่าสิ่งมีชีวิตต่างก็มีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการตลอดเวลา
ทฤษฎีนาฬิกาชีวิต (Biological clock) หรือ ทฤษฎีการถูก
กำหนดอธิบายว่าอายุขัยของคนถูกกำหนดไว้
แล้วโดยรหัสทางพันธุกรรม (Gene)ถ้าบรรพบุรุษมีอายุยืน ลูกหลานก็
มีอายุยืนยาวตามไปด้วย
ทฤษฎีการกลายพันธ์(Somatic Mutation Theory) เกิดจากการได้รับรังสี รังสีทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของDNA ทีละเล็ก ทีละน้อยเป็นประจำ จนเกิดการเปลี่ยนแปลง DNA
ทฤษฎีอวัยวะ (Organ Theory)
ทฤษฎีความเสื่อมโทรม (Wear and Tear Theory)ทฤษฎีนี้เปรียบเทียบสิ่งมีชีวิตคล้ายกับเครื่องจักร เมื่อมีการใช้งานนานๆ ก็จะเกิดความผิดปกติขึ้นแต่มนุษย์ต่างจากเครื่องจักรเพราะมนุษย์สามารถซ่อมแซมตนเองได้
ทฤษฎีระบบประสาท และต่อมไร้ท่อ (Neuroendocrine
Theory ) เมื่อเข้าสู่ วัยชรา การทำงานของระบบประสาทจะลดลง
Reflex ต่างๆ จะเชื่องช้า ความจำจะเสื่อมลง ต่อมไร้ท่อทำงานลดลง
ทฤษฎีภูมิคุ้มกัน (Immunological Theory) เชื่อว่าเมื่ออายุมากขึ้น การสร้าง สารภูมิคุ้มกัน ตามปกติจะลดลง เพราะอวัยวะที่มีส่วนช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต่างๆเช่น ในกระดูก ต่อมไธมัส,ระบบ
น้ำเหลือง,ตับ และม้ามเสื่อมสภาพ
ทฤษฎีสรีรวิทยา (Physiological Theory)
ทฤษฎีความเครียดและการปรับตัว (Stress
Adaptation Theory)ความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน มีผลทำให้
Cell ตายบุคคลเมื่อเผชิญกับความเครียดบ่อยๆ จะทำให้เข้าสู่
วัยชราได้เร็วขึ้น
ทฤษฎีสะสมของเสีย (Waste Product Accumulation , Accumulative Theory)ทฤษฎีนี้เชื่อว่าความสูงอายุเป็นผลมาจากการสะสมสารที่เป็นอันตรายต่อเซลล์ที่เรียกว่าไลโปฟัสซิน Lipofuscin หรือ รงควัตถุไขมัน fatty pigment รงควัตถุชรา age pigment
ทฤษฎีอนุมูลอิสระ (Free Radical Theory)อนุมูลอิสระ Radical คือ หมู่ปริมาณซึ่งจับกลุ่มอยู่และแสดงปฏิกิริยาทางเคมีเสมือนเป็นปริมาณเดียว เช่น แอมโมเนีย (NH4) ไบคาร์บอเนต (HCO3) ฯลฯ
ทฤษฎีการเชื่อมไขว้ (Cross link Theory on cross link
of collagen T.)
เชื่อว่า เมื่อชรา สาร Fibrous Protein (ประกอบด้วยอีลาสติน และคอลลาเจน) จะเพิ่มขึ้น และจับตัวกันมากขึ้นทำให้ collagen Fiber หดตัวขาดความยืดหยุ่นและจับกันไม่เป็นระเบียบ มีผลให้ cell ตาย และเสียหน้าที่
ทฤษฎีทางจิตวิทยา (Psychological Theory)
ทฤษฎีบุคลิกภาพ (Personality Theory) กล่าวว่า ผู้สูงอายุจะมีความสุขหรือความทุกข์นั้นขึ้นอยู่กับภูมิหลังและการพัฒนาจิตใจของบุคคลนั้นถ้าพัฒนามาด้วยความมั่นคงอบอุ่นถ้อยทีถ้อยอาศัย เห็นใจผู้อื่น ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีก็มักจะเป็นผู้สูงอายุที่มีความสุขอยู่รวมกับบุตรหลานได้อย่างมีความสุข
ทฤษฎีของอิริคสัน (Erikson's Epigenetic Theory) หรือทฤษฎีPsychosocial Developmental Stage ของอิริคสัน อธิบายถึงการพัฒนาของคนซึ่งแบ่งได้เป็น 8 ระยะ
3) ความคิดริเริ่มแย้งกับความรู้สึกผิด อายุระหว่าง 3 - 6 ปี
4) เอาการเอางานแย้งกับความมีปมด้อย อายุระหว่าง 6-12 ปี
2) ความเป็นตัวของตัวเองแย้งกับความละอายใจและไม่แน่ใจ อายุระหว่าง 18 เดือน - 3 ปี
5) การพบอัตลักษณะแห่งตนเองแย้งกับการไม่เข้าใจตนเอง อายุช่วง 12 - 20 ปี
1) ไว้วางใจแย้งกับความสงสัยน้ำใจผู้อื่น วัยทารก - อายุ 18 เดือน
6) ความสนิทเสน่หาร่วมมือร่วมใจแย้งกับความเปล่าเปลี่ยว อายุช่วง 20 - 40 ปี
7) ขั้นการบำรุงส่งเสริมแย้งกับความพะวงหลงเฉพาะตน อายุช่วง 40 - 50 ปี
8) ขั้นความมั่นคงทางใจแย้งกับความสิ้นหวัง อายุ 60 ปีขึ้นไป
ทฤษฎีของเพค (Peck’s Theory)
แบ่งผู้สูงอายุเป็น 2 กลุ่ม คือ ผู้สูงอายุวัยต้น อายุ 56 - 75 ปี และผู้สูงอายุตอนปลาย อายุ 75 ปีขึ้นไปซึ่งทั้ง 2 กลุ่มมีความแตกต่างกันทั้งทางกายภาพ และทางจิตสังคมซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตสังคมของผู้สูงอายุ 3 ลักษณะ คือ
2) Body transcendence and body preoccupationเป็นความรู้สึกที่ผู้สูงอายุยอมรับว่าสภาพร่างกายของตนถดถอยลง
3) Ego transcendence and Ego preoccupation เป็นความรู้สึกที่ยอมรับกฎเกณฑ์และการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ
1) Ego differentiation and work-role preoccupation เป็นความรู้สึกเกี่ยวกับงานที่ทำอยู่
ทฤษฎีทางสังคมวิทยา (Sociological Theory)
ทฤษฎีกิจกรรม ( Activity Theory ) ได้อธิบายถึงสถานภาพทางสังคมของผู้สูงอายุเมื่อบุคคลมีอายุมากขึ้น สถานภาพ และบทบาททางสังคมจะลดลง
ทฤษฎีแยกตนเองหรือทฤษฎีการถอยห่าง (Disengagement Theory) ปัจจัยที่มีผลต่อการถ่อยห่างของผู้สูงอายุ ได้แก่ กระบวน การชราที่มีความแตกต่างกันของแต่ละบุคคล
ทฤษฎีความต่อเนื่อง (Continuity Theory) การดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุที่ประสบความสำเร็จนั้น ขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพและแบบแผนชีวิตของแต่ละช่วงวัยที่ผ่านมาและมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เข้ามาร่วมอธิบาย
ทฤษฎีบทบาท (Role Theory) กล่าวว่า เมื่อบุคคลเข้าสู่วัยสูงอายุจะปรับบทบาทและสภาพต่าง ๆ หลายอย่างที่ไม่ใช่บทบาทเดิมของตนมาก่อน เช่น การละทิ้งบทบาททางสังคมและความสัมพันธ์ซึ่งเป็นไปแบบวัยผู้ใหญ่
แนวคิดพฤฒพลัง (ACTIVE AGEING)
หมายถึง
การสูงวัยอย่างมีพลัง ซึ่งได้แก่การเป็นผู้สูงอายุที่ประกอบด้วยกระบวนการ (process) ที่เหมาะสม (optimization) นำไปสู่สุขภาพ (health) การมีส่วนร่วม (participation) และหลักประกัน (security)ในอันที่จะเสริมสร้างคุณภาพชีวิต (to enhance Quality of life)
เมื่อสูงวัย (older age)
ลักษณะภาวะพฤฒพลังผู้สูงอายุไทย (Active Ageing Attribution)
การที่ผู้สูงอายุไม่อยู่นิ่งทำกิจกรรมตลอดเวลา
การมีสุขภาวะดี คือ การที่ผู้สูงอายุสามารถดูแลตนเองให้มีสุขภาพกาย ใจ สังคมและจิตวิญญาณ ได้เหมาะสมกับวัย
กรอบแนวคิดพฤฒพลัง
ตัวกำหนด ได้แก่
ระบบบริการสุขภาพ และ ระบบบริการทางสังคม
ตัวกำหนดทางพฤติกรรม ได้แก่ พฤติกรรมสุขภาพของ
ผู้สูงอายุ ประกอบด้วย กิจกรรมทางกาย ความจำ ความฉลาดทางการคิด
การเรียนรู้เร็ว ที่อยู่อาศัย การหกล้ม
แนวคิดผู้สูงอายุสุขภาพดี (Healthy Ageing)
ความหมาย“ผู้สูงอายุสุขภาพดี มิได้หมายถึงการเป็นผู้สูงอายุที่ปราศจากโรค แต่หมายรวมถึงการที่ผู้สูงอายุสามารถใช้ร่างกายด้าสรีรวิทยา จิตใจ สังคม
ปัจจัยกำหนดการเป็นผู้สูงอายุสุขภาพดี
วัฒนธรรม
จิตวิญญาณ
สิ่งแวดล้อม
ชีววิทยา
สังคม
จิตวิทยา