Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ - Coggle Diagram
การพยาบาลเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ
การปฏิบัติในการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ
การล้างมือ Hand washing
การล้างมือแบบธรรมดา
เมื่อมือเปื้อนหรือก่อนสัมผัสผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันต่ำ
ก่อนและหลังการแจกยา
ก่อนและหลังการรับประทานอาหาร
ใช้เวลาในการฟอกสบู๋ 15 วินาที
การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล(Alcohol hand rub)
ถูให้ทั่วมือทุกซอกทุกมุมจนน้ำยาแห้ง
การล้างมือก่อนปฏิบัติการพยาบาลที่ใช้เทคนิคปราศจากเชื้อ และภายหลัง (Hygienic hand washing)เช่น การสวนปัสสาวะให้ล้างมือด้วยสบู่เหลวผสมยาทำลายเชื้อ
การล้างมือก่อนทำหัตถการ (Surgical hand washing)
การใส่ถุงมือ
ป้องกันและควบคุมเชื้อโรคจากตัวเราไปสู่ตัวผู้ป่วย จากผู้ป่วยไปสู่บุคคลอื่น
ป้องกันและควบคุมเชื้อโรคจากผู้อื่นไปสู่ผู้ป่วย
ถุงมือปลอดเชื้อ (Sterile gloves)
1) หยิบจับของปลอดเชื้อ
2) ทำหัตถการต่างๆ เช่นการผ่าตัด
3) ป้องกันการติดเชื้อไปยังผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ถุงมือสะอาดหรือชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Clean, Disposable gloves)
การใช้ผ้าปิดปาก-จมูก (mask)
การใช้ผ้าปิดปาก - จมูกจะช่วยป้องกันการได้รับเชื้อโรคจากผู้ป่วยเข้าสู่ทางเดินหายใจ
การป้องกันผู้ป่วยได้รับเชื้อจากผู้อื่นเข้าสู่ทางเดินหายใจ
การใส่เสื้อกาวน์ (Gown)
การใส่เสื้อกาวน์จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคได้
กรณีถ้าเปื้อนหรือเปียกให้เปลี่ยนทันที โดยระวังการปนเปื้อนด้านนอกของเสื้อคลุม โดยการกลับเสื้อด้านในออกทิ้งในภาชนะที่เตรียมไว้ และล้างมือให้สะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้ป่วยอื่นและสิ่งแวดล้อม
การป้องกันการติดเชื้อแบบมาตรฐาน(Standard precaution)
เป็นการระมัดระวังการแพร่กระจายเชื้อโรค
เป็นการป้องกันอันดับแรกเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ โดยระมัดระวังเลือด สารคัดหลั่ง น้ำในร่างกาย
การมีสุขาภิบาลและสุขอนามัยที่ดี (Sanitation and Hygiene)
เครื่องป้องกัน (Protection Barriers)
หลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ (Avoid Accidents)
การปฏิบัติที่ปลอดภัยจากการใช้ของมีคม
การมีสุขาภิบาลและสุขอนามัยที่ดี (Sanitation and Hygiene)
เข็มที่ใช้เจาะเลือดผู้ป่วยให้เก็บทิ้งคนเดียว
หลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ (Avoid Accidents)
ไม่ส่งของมีคมด้วยมือต่อมือ
เข็มที่ใช้เจาะเลือดผู้ป่วยให้เก็บทิ้งคนเดียว
การเย็บแผลให้ใช้ forceps หยั่งแผลเวลาเย็บ
การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
Direct Contact - การสัมผัสโดยตรง ระหว่างคนกับคน
Indirect Contact - การสัมผัสทางอ้อมโดยผ่านสิ่งแวดล้อมหรือเครื่องมือที่ไม่ปราศจากเชื้อ
Droplet Contact- การสัมผัสผ่านละอองเสมหะ ในระยะไม่เกิน 3 ฟุต เช่นคางทูม ไข้หวัดใหญ่
Contact Precautions
(การติดเชื้อที่แพร่กระจายได้จากการสัมผัส)
แยกผู้ป่วยไว้ในห้องแยกและปิดประตูทุกครั้งหลังเข้าหรือออกจากห้องผู้ป่วย
สวมถุงมือทุกครั้งเมื่อสัมผัสผู้ป่วยทั้งบุคลากรและญาติ
ล้างมือแบบ hygienic handwashing หลังถอดถุงมือและก่อนออกจากห้องแยก
Airborne Precautions
(การติดเชื้อที่แพร่กระจายทางอากาศ)
ผู้ที่จะเข้าไปในห้องผู้ป่วยหรือดูแลผู้ป่วยต้องส่ผ้าปิดปาก-จมูก ชนิด N95
ล้างมือแบบ hygienic handwashing หลังถอดถุงมือและก่อนออกจากห้องแยก
ถ้าต้องมีความจำเป็นในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกนอก ห้องให้ผู้ป่วยใส่ผ้าปิดปาก-จมูกชนิดธรรมดา
การแยกผู้ป่วย
การแยกผู้ป่วยในรายที่เป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ
การแยกผู้ป่วยในรายที่เป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินอาหาร
การแยกผู้ป่วยในรายที่เป็นโรคติดต่อทางบาดแผลและผิวหนัง
การแยกผู้ป่วยในรายที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงและติดต่อง่าย
การแยกผู้ป่วยในรายที่เป็นโรคติดต่อทางเลือด และน้ำเหลือง
การแยกผู้ป่วยในรายที่สงสัยว่าจะเป็นโรคติดต่อ
การแยกผู้ป่วยในรายที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง
การทำความสะอาดเครื่องมือเครื่องใช้
การล้าง Cleansing
วัตถุปรของการล้างเครื่องมือก่อนนำไปทำลายเชื้อ
เพื่อลดจำนวนเชื้อโรคให้เหลือปริมาณน้อยที่สุด
เพื่อเป็นการลดสิ่งปนเปื้อนที่ติดอยู่บนผิวของเครื่องมือ
ความสกปรกที่ติดแน่นบางอย่างไม่สามารถจะหลุดได้
ช่วยลดอัตราการหยิบจับอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่เป็นเบื้อต้น
ข้อควรคำนึงในการล้าง
กำจัดเลือด หนอง เมือกเเละสารคัดหลั่ง และอื่นๆ ออกก่อนทำความสะอาดเสมอ
ไม่ทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้ชำรุดเสียหายจากวิธีการทำความสะอาด
ไม่ทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้สกปรกไปมากกว่าเดิม
สารจากสบู่มีฤทธิ์เป็นด่างหากล้างไม่หมดจะช่วยเคลือบเชื้อจุลชีพได้
เครื่องใช้
อุปกรณ์ที่ใช้ในการขัดถูมีขนาดรูปร่างต่างๆกันควรใช้วัสดุที่มีความหยาบเเต่ไม่มีความคม จนเกิดรอยขีดข่วน
สารซักฟอก หรือสบู่
อุปกรณ์สวมใส่เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกกระเด็นถูกร่างกาย เช่น ถุงมือยาง เอี้ยมพลาสตอก ผ้าปิดปากจมูก เเว่นตา เป็นต้น
วิธีทำ
สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความสกปรกตามความเหมาะสม ระมัดระวังไม่ให้เปื:อนบริเวณใกล้เคียง
ล้างคราบสิ่บสกปรก และคราบสารผงซักฟอกออกให้หมดโดยใช้นํ้ำก๊อกที่ไหลชะผ่าน
เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด หรือวางผึ่งลมก่อนเก็บเข้าที่หรือแยกไปทำให้ปราศจากเชื้อ
ทำความสะอาดอุปกรณ์ขัดล้างให้สะอาด ทำให้แห้ง รวมทั้งถุงมือและอ่างน้ำ
การต้ม Boiling
ไวรัส HIV องค์การอนามัยโลกแนะนําให้ต้มเดือดนาน 20 นาที เพื่อให้มั่นใจ
การต้มเป็วิธีการทำลายเชื้อที่ดี ง่าย ประหยัด และมีประสิทธิภาพดี
การเตรียมอุปกรณ์การต้ม
หม้อต้มที่ะอาดมีฝาปิดเพื่อให้อุณหภูมิสม่ำเสมอขณะต้ม
ใส่น้ำสำหรับการต้มให้มีปริมาณมากพอ การใช้น้ำประปาจะทำให้เกิด
ตะกรันในหม้อต้ม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดคราบบนผิววัสดุที่ต้ม หรือต้องใช้เวลา ต้มนาน ความร้อนจึงจะผ่านตะกรันเข้าไปได้
การเตรียมสิ่งของที่จะต้ม
สิ่งของที่จีะต้มควรได้รับการทาํความสะอาดดีเเล้ว
แยกชนิดสิ่งของที่จะะต้ม เครื่องมือกับเครื่องแก้วไม่ต้มด้วยกันเพราะเครื่องแก้วอาจจะเเตกได้
เครื่องใช้มีคมไม่ควรต้มเพราะจะทำให้เสียความคม
ของที่ใช้กับอวัยวะสะอาด ไม่ควรต้มปนกับของที่ใช้กับอวัยวะสกปรก ถ้าเป็นไปได้ อาจจะแยกหม้อต้ม
ของที่ต้มครบเวลาแล้ว ต้องเก็บไว้ในภาชนะที่ปราศจากเชื้อหรือสะอาดมีฝาปิดมิดชิดถ้าไม่มีต้องต้มภาชนะและฝาปิดพร้อมของที่ต้มด้วย
หลักสำคัญในการต้ม
น้ำต้องท่วมของทุกชิ้นอย่างน้อย 1 นิ้ว
เครื่องมือเครื่องใช้ที่มีน้ำหนักเบาควรใช้ของที่มีน้ำหนักทับเพื่อให้จมอยู่ใต้น้ำ
ปิดฝาหม้อต้มเริ่มนับเวลาเมื่อน้ำเดือดเต็มที่
ในขณะที่ต้มต้องไม่เปิดฝาหม้อต้มเพราะจะทำให้อุณหภูมิภายในหม้อต้มลดลงและต้องไม่เพิ่มสิ่งอื่นลงไป
เมื่อครบกำหนดให้เก็บของที่ต้มแล้วลงในภาชนะที่ปราศจากเชื้อหรือสะอาดมีฝาปิดมิดชิด
การใช้สารเคมี Chemical method
Disinfectant หมายถึงสารเคมีหรือนํายาที่ใช้ทําลายจุลินทรีย์ แต่ไม่สามารถทําลายชนิดที่มีสปอร์ น้ำยานี้จะทําลายเนื้อเยื่อด้วย ฉะนั้นจะใช้กับผิวหนงั ไมีไรด้
Antiseptics หมายถึงสารเคมีที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของ จุลินทรีย์ สามารถใช้กับสิ่งมีชีวิตได้ปลอดภัย
เเกอฮอล์ Alcohols ทำลายเชื้อได้ ทำลายเชื้อได้ดีแต่ไม่ทำลายสปอร์ อาจทำให้อาจทำให้เครื่องมือโลหะเกิดสนิม
อัลดีฮัยด์ Aldehydesทำลายเชื้อแบคทีเรียไวรัสราในเวลา 10 นาที ทำลายสปอแบคทีเรียได้ใน 10 ชั่วโมง ราคาแพงแล้วใครราคาแพง ระคายเคืองผิวหนัง เดินทางเดินหายใจ ตา
ไดกัวไนด์ Diguanideสารที่ใช่คือchlorhexidine ถ้ถ้าความเข้มข้นต่ำกว่า 0.2% ไม่สามารถทำลายแบคทีเรียแกรห์มบวก เชื้อไวรัส เชื้อราและสปอของแบคทีเรียได้
ฮาโลเจน Halogens สามารถทำลายเชื้อสามารถทำลายเชื้อโรคได้ต่างกันตามความเข้มข้นของน้ำยา กลิ่นเหม็นโลหะเป็นสนิมละเหยง่ายต้องเก็บในภาชนะทึบแสงห้ามผสมกับกรดและฟอร์มาลีน
ฮัยโดเจนเปอร์ออกไซด์ Hydrogen peroxideสามารถทำลายเชื้อ สามารถทำลายเชื้อโรครวมทั้งไวรัสโดยใช้ไฮโดเจนเปอร์อ๊อกไซด์ 6% นาน 30 นาที
น้ำยาที่ฟีนอล Phenolsสามารถทำเชื้อ สามารถทำลายเชื้อเเบคทีเรีย เชื้อวัณโรค เชื้อรา ยกเว้นเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและสปอของแบคทีเรีย
Quartemary Ammonium Compounds QACsมี มีฤทธิ์ทำลายเชื้อน้อย เช่น Benzalkonium chloride เป็นส่วนประกอบใน savlon
การหยิบจับของปราศจากเชื้อ
ของที่ปราศจากเชื้อจะอยู่ในภาชนะที่มีฝาปิด หรือในห่อ เมื่อหยิบจับไปใช้ ต้องรักษาให้ปราศจากเชื้อ
วิธีการ
ใช้ปากคีบหยิบของที่ปราศจากเชื้อ
เมื่อหยิบปากคีบออกจากภาชนะที่แช่ ต้องระวังไม่ให้ปากคีบแยกออกจากกัน และป้องกันมิให้ปลายปากคีบถูกกับปากภาชนะ และรอให้น้ำยาหยดออกให้หมดสักครู่
ขณะที่ถือให้ปลายปากคีบอยู่ต่ำ เพื่อมิให้น้ำไหลไปสู่บริเวณที่ไม่ปราศจากเชื้อ ทำให้ปลายปากคีบสกปรก
ระวังมิให้ปากคีบถูกต้องกับภาชนะอื่น ๆ ที่ไม่ปราศจากเชื้อ
เมื่อใช้ปากคีบเสร็จแล้วให้จับตรงกลางด้ามให้ปลายชิดกัน แล้วใส่ลงในกระปุกตรง ๆ
การหยิบของในหม้อนึ่งในอับ
หรือการแบ่งของที่สะอาดปราศจากเชื้อ
เมื่อเปิดฝา ถ้าต้องการจะวางกับโต๊ะให้หงายฝาขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ขอบฝาสัมผัสกับโต๊ะ ถ้าถือไว้ให้คว่ำฝาลง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากอากาศตกลงไปที่ฝานั้น
ห้ามเอื้อมข้ามของ sterileที่เปิดฝาไว้และห้ามจับด้านในของฝา
ของที่หยิบออกไปแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ได้ใช้ ก็ไม่ควรนำเข้าไปเก็บในหม้อนั้นอีก
หลักพื้นฐานของภาวะปราศจากเชื้อ
ดูแลให้ของปลอดเชื้อนั้นคงความปลอดเชื้อ
1.2 การเทน้ำยาปลอดเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ 70% ให้ถือขวดน้ำยาสูงกว่าภาชนะปลอดเชื้อประมาณ 6 นิ้ว ปากขวดต้องไม่สัมผัสกับของใช้หรือภาชนะรองรับ ระวังน้ำยากระเด็นทำให้เกิดการปนเปื้อน และน้ำยาต้องไหลจากปากขวดลงภาชนะโดยไม่ไหลเปื้อนข้างขวดก่อนลงภาชนะ
1.3 หลีกเลี่ยงการทำน้ำยาหกเปื้อนผ้า ห่อของปลอดเชื้อ จะทำให้อุปกรณ์ที่อยู่ในผ้าห่อเกิดการปนเปื้อน
1.1 ปากคีบปลอดเชื้อ (Transfer forceps) ใช้สำหรับหยิบจับ เคลื่อนย้ายของปลอดเชื้อต้องสะอาดและคงความปลอดเชื้อตลอดเวลา การถือปากคีบปลอดเชื้อควรถือให้สูงกว่าระดับเอวและปลายปากคีบชี้ลงเสมอ เพราะปากคีบปลอดเชื้อที่แช่ในน้ำยาหากถือให้ปลายปากคีบชี้ขึ้น น้ำยาจะไหลจากมือมายังบริเวณที่ปลอดเชื้อ ทำให้เกิดการปนเปื้อนขณะทำงานได้
1.4 หลีกเลี่ยงการพูดคุย ไอ จาม หรือข้ามกรายของปลอดเชื้อ เพราะเชื้อโรคมีโอกาสแพร่กระจายไปตามละอองอากาศ
1.5 อุปกรณ์ทางการแพทย์ทุกชนิดที่จะสอด/ ใส่ผ่านผิวหนังเข้าไปในร่างกายผู้ป่วยจะต้องปลอดเชื้อ เช่น อุปกรณ์ที่ใช้ในการฉีดยา ผ้าปิดแผล สายสวนปัสสาวะ
1.6 การเทน้ำยาหรือวางของปลอดเชื้อไม่ควรชิดขอบด้านนอกของภาชนะหรือผ้าห่อของปลอดเชื้อ ให้วางห่างจากขอบนอกของภาชนะหรือผ้าห่อของปลอดเชื้อถัดเข้ามาประมาณ 1 นิ้ว
1.7 การเปิดห่อผ้าของปลอดเชื้อให้จับมุมบนสุดของผ้าเปิดไปทางด้านตรงกันข้ามกับผู้ทำ ต่อมาเปิด 2 มุมผ้าด้านข้าง ซ้าย-ขวาก่อน สุดท้ายจึงจับมุมผ้าด้านในสุดของห่อผ้าเปิดออกโดยไม่ข้ามกรายของปลอดเชื้อ หากเป็นห่อสำเร็จรูป ใช้มือทั้งสองข้างฉีกห่อสำเร็จรูปแยกออกจากกันโดยไม่สัมผัสด้านในของห่อปลอดเชื้อ
contamination
2.1 ใช้ปากคีบปลอดเชื้อในการหยิบของปลอดเชื้อ ไม่ใช้ปากคีบที่ไม่ปลอดเชื้อหรือผ่านการใช้งานแล้วหยิบของปลอดเชื้อ
2.2 หากหยิบจับของปลอดเชื้อด้วยมือ หรืออุปกรณ์ที่ไม่ปลอดเชื้อ จะถือว่าเครื่องมือเครื่องใช้นั้นเกิดการปนเปื้อน
2.3 การใช้ปากคีบหยิบจับของปลอดเชื้อไม่ควรใช้ปากคีบหยิบบริเวณขอบของภาชนะ หรือใช้ปากคีบเปิดผ้าห่อของปลอดเชื้อ เพราะบริเวณเหล่านี้มีโอกาสเกิดการปนเปื้อน
2.4 ของปลอดเชื้อที่มีรอยฉีกขาด รอยเปิดสัมผัสกับภายนอก
ถือว่าไม่ปลอดเชื้อ
2.5 ดูแลให้ของปลอดเชื้อสัมผัสกับอากาศน้อยที่สุด หากเปิดใช้ต้องรีบปิดทันที
2.6 ห่อของปลอดเชื้อที่เปิดใช้แล้ว แสดงว่าเกิดการปนเปื้อน ไม่นำไปรวมกับของปลอดเชื้อ
ของปลอดเชื้อต้องอยู่สูงกว่าระดับเอวและอยู่ในสายตา
3.1 การถือของปลอดเชื้อหรือบริเวณที่วางของปลอดเชื้อจะต้องอยู่สูงกว่าระดับเอวเพื่อให้แน่ใจว่าของปลอดเชื้อนั้นอยู่ในสายตา ลดโอกาสเกิดการปนเปื้อน
3.2 เมื่อเปิดของปลอดเชื้อแล้ว ไม่ละทิ้งหรือหันหลังให้ของปลอดเชื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการปนเปื้อนเกิดขึ้นจากการวางของนั้นนอกสายตา
3.3 หากผู้ปฏิบัติเกิดความสงสัย ไม่มั่นใจเกี่ยวกับความปลอดเชื้อกับของใช้นั้น ต้องเปลี่ยนของนั้นใหม่ทันที
การเปิดห่อของที่ปราศจากเชื้อ
สำรวจป้ายชื่อห่อของให้ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้ และตรวจสอบความปราศจากเชื้อ Autocave tape
ว่างห่อของบนโต๊ะที่่สะอาดสูงระดับเอว โดยใช้มุมนอกสุดของห่อของอยู่ไกลตัว
แกะเทปกาว ป้ายชื่อห่อของที่ระบุวันนึ่ง และ Autocave tape ออก
จับมุมผ้าด้านนอก ห่างขอบประมาณ 1 นิ้ว เปิดมุมแรกออกไปทางด้านตรงข้ามกับผู้เปิด
เปิดมุมผ้าด้านข้างออกทีละด้านแล้วเปิดมุมผ้าด้านในที่สุด
วิธีห่อของส่งนึ่ง
คลี่ผ้าห่อของบนโต๊ะ สูงระดับเอวให้มุมใดมุมหนึ่งอยู่ด้านผู้ห่อ
วางของไว้ที่ศูนย์กลางของผ้าห่อ
จับมุมผ้าด้านผู้ห่อ วางพาดบนของ และพับมุมกลับเล็กน้อย
ดึงผ้าให้เรียบตึง ห่อด้านซ้ายให้มิดของ ดึงให้ตึง และพับมุมเล็กน้อย
ห่อด้านขวาให้มิดของ ดึงให้ตึงพับมุมเช่นกัน เข้าเล็กน้อย
จับผ้าที่เหลือมุมสุดท้าย ดึงให้ตึงพับมุมเข้าเล็กน้อยจัดห่อให้มิดชิดไม่หลุด
ตรึงห่อของให้แน่นด้วยเทปกาว และระบุหอผู้ป่วย ชื่อสิ่งของ วันที่ส่งนึ่งและชื่อผู้ห่อของ
ติด Autoclave tape
การทำให้ปราศจากเชื้อ
วิธีทางกายภาพ
Radiation
เป็นการใช้แสงอัลตราไวโอเลตซึ่งเป็นแสงสีม่วงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสบางชนิดแต่ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสเอดส์
Dry heat or hot air sterilization
การใช้ hot air oven ลักษณะขายเตาลักษณะขายเตาอบขนมปังสามารถทำลายเชื้อโดยใช้ความร้อนแห้งที่อุณหภูมิ 165 ถึง 170 องศาเซลเซียสระยะเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงการใช้ความร้อนแห้งนี้เหมาะสำหรับเครื่องมือเครื่องใช้ที่เป็นของมีคมไม่ทำให้ของเสียคมใช้สำหรับเครื่องแก้วที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ
Steam under pressure
เป็เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และประหยัดค่าใช้จ่ายในการฆ่าเชื้อและฆ่าสปอของเชื้อ วิวิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทนความร้อนสูงไม่ได้
วิธีทางเคมี
การรใช้ก๊าซ Ethylene oxide
เป็นก๊าซที่มีคุณสมบัติทำลายเชื้อสูงสามารถทำรายได้ทั้งไวรัสแบคทีเรียรวมทั้งสปอของแบคทีเรีย มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเครื่องมือเครื่องใช้ปลุกการ์ดไว้ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสนาน 3 ชั่วโมง
การใช้ 2% Glutaradehyde
เป็นสารเคมีที่ใช้มากที่สุดในการทำให้ปราศจากเชื้อมีสิทธิ์ประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อและสปอของแบคทีเรียเป็นสารที่ไม่ทำลายยางหรือพลาสติก
การใช้ Peracetic acid
มีมีคุณสมบัติในการกัดก่อนสูงแต่ต้องทำละลายในน้ำอุ่นเครื่องมือเครื่องใช้ที่แช่ใน peracetic Acidเพื่อทำให้ปลอดเชื้อต้องใช้เวลารวดเร็วคือ35-40 นาทีที่อุณหภูมิ 50 - 55 องศาเซลเซียส
การพยาบาลเกี่ยวกับ
การป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ
อธิบายการพยาบาลเกี่ยวกับการป้องกัน และควบคุมการแพร่กระจายเชื้อได้
2.วิเคราะห์สถานการณ์เกี่ยวการพยาบาล จริยธรรมเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อได้
ปฏิบัติการพยาบาลเกี่ยวกับการป้องกัน
และควบคุมการแพร่กระจายเชื้อได้
สิ่งนำเชื้อ : เชื้อโรคแพร่กระจายได้จำเป็นต้องมีพาหนะในการนำเชื้อ
สัมผัสโดยตรงกับคน
วัตถุต่างๆ
อาหารและน้ำ
แมลงและสัตว์
อากาศ
บุคคลที่มีเชื้อโรค
ทางเข้าของเชื้อที่ทำให้เกิดโรค
เมื่อเชื้อโรคออกจากแหล่งของเชื้อโรคแล้วจะทำให้เกิดโรคได้โดยการหาทางเข้าไปในร่างกายมนุษย์ใหม่
ความไวของแต่ละบุคคลในการรับเชื้อ
อ่อนเพลีย
ภาวะโภชนาการ
ภูมิแพ้
ความเครียด
ภาวะปลอดเชื้อและเทคนิคปลอดเชื้อ
เป็นการปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่จะเกิดกับเครื่องมือเครื่องใช้และสิ่งแวดล้อม
เทคนิคปลอดเชื้อ (Aseptic Technique)
วิธีการปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่จะเกิดขึ้น
Sterile technique (Surgical asepsis)
Medical asepsis
คำศัพท์
Sterile : สิ่งของหรือเครื่องมือที่ปราศจากเชื้อโรค รวมทั้งชนิดที่มีสปอร์
Contamination : การสัมผัส ปนเปื้อนเชื้อ
Sterilization : ขบวนการทำลายเชื้อโรคทุกชนิด รวมทั้งพวกที่มีสปอร์ให้หมดสิ้นไป
Disinfection หมายถึง ขบวนการทำลายเชื้อโรคแต่ไม่สามารถทำลายชนิดที่มีสปอร์ได้ วิธีทำลายเชื้อโรคแบบนี้
เช่น การต้ม การแช่น้ำยา
Disinfectant หมายถึง สารเคมีหรือนำยาที่ใช้ทำลายจุลินทรีย์ แต่ไม่สามารถทำลายชนิดที่มีสปอร์ น้ำยานี้จะทำลายเนื้อเยื่อด้วย ฉะนั้นจะใช้กับผิวหนังไม่ได้
การฆ่าเชื้อและทำให้ปราศจากเชื้อ
semi-critical or intermediate items : เครื่องมือเครื่องใช้ที่สัมผัสเยื่อบุ ก่อนใช้ต้องสะอาดไม่มีเชื้อโรค ยกเว้นสปอร์ของแบคทีเรีย
critical items : เครื่องมือเครื่องใช้ที่สัมผัสกับเยื่อบุ ก่อนใช้ต้องทำให้ปราศจากเชื้อ
non-critical items : เครื่องมือที่สัมผัสกับผิวหนังภายนอกไม่ได้สัมผัสกับเยื่อบุต่างๆ ของร่างกาย ก่อนใช้ต้องล้างให้สะอาด