Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
งานเเก้ บทที่1 เลขที่30 :star:ม.5/10, image, image, image, image, image,…
งานเเก้ บทที่1 เลขที่30 :star:ม.5/10
การสืบพันธุ์ของพืช :check:
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
การสืบพันธุ์ของพืดอก
การสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ :pen:
:black_flag:
แบ่งเซลล์แบบไมโอซิสได้ 4 ไมโครสปอร์ (microspore) แต่ละเซลล์มีโครโมโซมเท่ากับ n
3.หลังจากนั้นนิวเคลียสของไมโครสปอร์จะแบ่งแบบไมโทซิส ได้ 2 นิวเคลียส คือ เจเนอเรทิฟนิวเคลียส (generativenucleus) และทิวบ์นิวเคลียส (tube nucleus) เรียกเซลล์ในระยะนี้ว่า ละอองเรณู(pollen grain)หรือแกมีโทไฟต์เพศผู้ (male gametophyte)
1.การสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ของพืชดอกจะเกิดขึ้นภายใน อับเรณู (anther) โดยมีไมโครสปอร์มาเทอร์เซลล์ (microspore mother cell)
4.เมื่อเรณูตกบนยอดเกสรเพศเมีย ทวบ์เซลล์จะงอกหลอดเรณูู เเละเจเนเรทิฟเซลล์เเบ่งเซลล์เเบบไม่โทซสได้เซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ หรือ สเปิร์ม 2 เซลล์
การปฎิสนธิ :pen:
เป็นการปฎิสนธิคุ่
ขั้นตอนการปฎิสนธิ:fire:
2.หลอดเรณูเข้าไปในออวุลผ่านช่องไมโครไพพล์
3.หลอดเรณูเข้าไปในซินเนอร์จิดสเปิรืมนิวเคลียสเข้าไปในไซโทพล่สซึมของซินเนอร์จิด จากนั่นซินเนอร์จิดจะสลาย
1.หลอดเรณูงอกลงไปในก้านเกสรตัวเมีย
4.สเปิร์มนิวเคลียสปปฎิสนธิกับเซลล์ไข่ได้เป็นไซโกต สเปิร์มนิวเคลียสปฎสนธิกับโพลาร์นิวคลีไอได้เป้นเอนโดสเปิร์มนิวเคลียส
การสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย :pen:
:red_cross:
นิวเคลียสมีการจัดกลุ่มเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 นิวเคลียส กลุ่มหนึ่งอยู่ทางด้านไมโครไพล์ (Micropyle) อีกกลุ่มอยู่ด้านตรงข้ามไมโครไพล์ นิวเคลียสอันหนึ่งจากกลุ่มด้านไมโครไพล์ และอีกอันหนึ่งจากกลุ่มที่อยู่ด้านตรงข้ามไมโครไพล์ จะเคลื่อนที่มาอยู่ตรงกลาง ดังนั้นนิวเคลียสในเมกะสปอร์แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่อยู่ตรงข้าม ไมโครไพล์ มี 3 นิวเคลียส เรียกว่า แอนติโพดอล (Antipodal)
กลุ่มที่อยู่ตรงกลางมี 2 นิวเคลียส เรียกว่า โพลานิวเคลียส (Polar nucleus)
กลุ่มที่อยู่ทางด้านไมโครไพล์มี 3 นิวเคลียส นิวเคลียสอันตรงกลางมีขนาดใหญ่ที่สุดเรียกว่า เซลล์ไข่ (Egg cell) และอีก 2 เซลล์ที่อยู่ด้านข้างเซลล์ไข่เรียกว่า ซินเนอร์จิด (Synergids)
นิวเคลียสแต่ละอันและโพลานิวเคลียสทั้งสอง จะมีเยื่อหุ้มทำให้เมกะสปอร์ ประกอบด้วย 7 เซลล์แต่มี 8 นิวเคลียส เมกะสปอร์ระยะนี้เรียกว่า ถุงเอมบริโอ (Embryo sac) หรือ แกมีโทไฟท์เพศเมีย (Female gametophyte)
3 เซลล์สลายไป เหลือเพียง 1 เซลล์ มีการเจริญเติบโตโดยการขยายขนาดและแบ่งนิวเคลีสแบบ Mitosis 3 ครั้ง ทำให้ได้เซลล์ที่มี 8 นิวเคลียส
เมกะสปอร์มาเทอร์เซลล์ซึ่งมีโครโมโซมเป็นดิพลอยด์ (2n) แบ่งเซลล์แบบ Meiosis ได้เซลล์ใหม่ 4 เซลล์เรียงเป็นแถวจากบนลงล่างโดยมีจำนวนโครโมโซมเป็นแฮพลอยด์ (n) เรียกแต่ละเซลล์ว่าเมกะสปอร์ (Megaspore)
การเกิดผลเเละเมล็ด :pen:
โดยออวุล กลายเป็น เมล็ด
ผนังรังไข่ กลายเป็น ผนังผล
ผนังผล มี3 ชั้น
ผนังชั้นกลาง (Mesocarp)
ผนังชั้นนี้มักนุ่ม เช่น มะม่วง มะละกอ ผลบางชนิดมีผนังชั้นกลางเป็นเส้นใยเหนียว เช่น มะพร้าว ตาล จาก
ผนังชั้นนอก (Exocarp)
ชั้นผิวนอกสุดของผล ชั้นนี้ในผลบางชนิดมีผิวชั้นนอกบางหรืออ่อนเช่น ผลองุ่น ชมพู่ มะม่วง ผลบางชนิดผิวชั้นนอกแข็งและเหนียว เช่นมะพร้าว ฟักทอง
ผนังชั้นใน (Endocarp)
ผนังชั้นใน มีทั้งอ่อนนุ่มเช่น ส้ม และมีลักษณะแข็งเช่น มะม่วง มะพร้าว
โครงสร้างดอก :<3:
กลีบดอก (petal)
*เป็นส่วนที่อยู่ถัดจากกลีบเลี้ยงเข้ามากลีบดอกมักมีสีสันสวยงาม บางชนิดมีกลิ่นหอมเนื่องจากมีต่อมกลิ่นอยู่ด้วยและที่โคนกลีบดอกมักมีต่อมน้ำหวาน ช่วยในการล่อแมลง
เกสรตัวผู้ (stamen)
*เป็นส่วนที่จำเป็นต่อการสืบพันธุ์ ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้
กลีบเลี้ยง (sepal)
เป็นส่วนของดอกที่อยู่นอกสุด มีสีเขียว เหมือนใบ กลีบเลี้ยงทำหน้าที่ห่อหุ้ม และป้องกันอันตรายให้แก่ส่วนของดอกที่อยู่ภายใน
เกสรตัวเมีย (pistil)
*เป็นชั้นที่อยู่ในสุดเปลี่ยนแปลงมาจากใบเพื่อทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย จึงเป็นอวัยวะสำคัญต่อการสืบพันธุ์
วัฏจักรชีวิตแบบสลับ :warning:
คือในช่วงชีวิตของพืชต้นหนึ่งจะมีระยะในช่วงชีวิตที่แตกต่างกันเป็น 2 ระยะสลับกัน คือ ระยะสปอโรไฟต์ (sporophyte) และ ระยะแกมีโทไฟต์ (gametophyte)
เฟิร์น
เฟิร์นเมื่อสร้างสปอร์โรไฟต์โตเต็มที่จะมีโครงสร้างสร้าง
สปอร์ เมื่อมีการกระจายสปอร์จะหลุดออกจากสปอร์โรไฟต์
ประเภทของดอก :<3:
จำแนกตามลักษณะของเพศ
ดอกสมบูรณ์เพศ
ดอกที่มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน
ดอกไม่สมบูรณ์เพศ
ในดอกจะมีเพียงเกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ตำเเหน่งของรังไข่เป็นเกณฑ์
รังไข่เหนือวงกลีบ (superior ovary)
รังไข่ที่อยู่เหนือส่วนอื่นๆของดอก
หรือผนังรังไข่ไม่เชื่อมกับส่วนอื่นๆ ของดอก
รังไข่กึ่งใต้วงกลีบ (half-inferior ovary)
รังไข่ที่ส่วนหนึ่งฝังอยู่ในฐานดอก
รังไข่ใต้วงกลีบ (inferior ovary)
รังไข่ที่อยู่ใต้ส่วนอื่นๆของดอก และผนังรังไข่ติดรวมอยู่กับส่วนอื่นๆ ของดอก
จำแนกตามส่วนประกอบของดอก
ดอกสมบูรณ์ (Complete flower)
ดอกที่มีส่วนประกอบของดอกครบทั้ง 4 ส่วนในดอกเดียวกัน
ดอกไม่สมบูรณ์ (Incomplete flower)
ดอกที่มีส่วนประกอบของดอกไม่ครบทั้ง 4 ส่วน
ชนิดของผล :<3:
ผลเดี่ยว ( simple fruit )
ผลที่เกิดมาจากรังไข่อันเดียวในดอกเดียวกัน ดอกอาจเป็นดอกเดี่ยวหรือดอกช่อก็ได้ โดยลักษณะของดอกเดี่ยวที่จะกลายเป็นผลเดี่ยวนั้น จะ ต้องเป็นดอก 1 ดอก และมีรังไข่ 1 อัน
ผลกลุ่ม ( aggregate fruit )
ผลที่เกิดจากรังไข่หลายรังไข่หรือกลุ่มของรังไข่ ในดอกเดียวกันของดอกเดี่ยว รังไข่แต่ละอันก็จะกลายเปนผลย่อยหนึ่งผล
ผลรวม ( multiple fruit )
ผลที่เกิดจากรังไข่ ของดอกแต่ละดอกของ ดอกช่อซึ่งเชื่อมรวมกันแน่น รังไข่เหล่านี้จะกลายเป็นผลย่อย ๆ เชื่อมรวมกันแน่นจนคล้ายเป็นผลเดี่ยวโดยลักษณะของดอกที่จะกลายเป็นผลรวมนั้น จะเป็นดอกช่อที่มีรังไข่ของดอกย่อย แต่ละดอกมาเชื่อมรวมกัน