Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การแพร่กระจายเชื้อ, รายชื่อ นางสาวสิริญา สกุลอารีย์มิตร เลขที่71…

- - - - ทางเดินหายใจ
      - ทางเดินอาหาร
      - ทางเดินปัสสาวะ
      - ผิวหนัง
      - เลือด
      - อวัยวะสืบพันธู์
    - - เช่นคน ดิน สัตว์ต่างๆ
    - - เชื้อโรคต่างๆในสัตว์ หรืออากาศ
- - - - 1.1ปากคีบปลอดเชื้อ (Transfer forceps) ใช้สำหรับหยิบจับ การถือปากคีบปลอดเชื้อควรถือให้สูงกว่าระดับเอวและปลายปากคีบชี้ลงเสมอ
      - 1.2การเทน้ำยาปลอดเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ 70% ให้ถือปากขวดน้ำยาสูงกว่าภาชนะปลอดเชื้อประมาณ 6 นิ้ว
      - 1.3หลีกเลี่ยงการทำน้ำยาหกเปื้นผ้า ห่อของปลอดเชื้อ
      - 1.4หลีกเลี่ยงการพูดคุย ไอ จาม หรือข้ามกรายของปลอดเชื้อ
      - 1.5อุปกรณ์ทางการแพทย์ทุกชนิดที่จะสอด/ใส่ผ่านผิวหนังเข้าร่างกายผู้ป่วยจะต้องปลอดเชื้อ
      - 1.6การเทน้ำยาหรือวางของปลอดเชื้อไม่ควรชิดขอบด้านนอกของภาชนะหรือผ้าห่อของปลอดเชื้อ ให้วางห่างจากขอบนอกของภาชนะหรือผ้าห่อของปลอดภัยเชื้อถัดเจ้าประมาณ 1 นิ้ว
      - 1.7การเปิดห่อผ้าของปลอดเชื้อให้จับมุมบนสุดของผ้าเปิดไปทางด้านตรงกันข้ามกับผู้ทำต่อมาเปิด 2 มุมผ้าด้านข้าง ซ้าย-ขวาก่อน สุดท้ายจึงจับมุมผ้าด้านในสุดของห่อผ้าเปิดออกโดยไม่ข้ามกรายของปลอดเชื้อ หากเป็นห่อสำเร็จรูป ใช้มือทั้งสองข้างฉีกห่อสำเร็จรูปแยกออกจากกันโดยไม่สัมผัสด้านในของห่อปลอดเชื้อ
  - - - 2.1ใช้ปากคีบปลอดเชื้อในการหยิบของปลอดเชื้อ
      - 2.2หากหยิบจับของปลอดเชื้อด้วยมือ หรออุปกรณ์ที่ไม่ปลอดเชื้อ จะถือว่าเกิดการปนเปื้อน
      - 2.3การใข้ปากคีบหยิบจับของปลอดเชื้อ ไม่ควรใช้ปากคีบหยิบบริเวณขอบของภาชนะ เพราะเกิดการปนเปื้อน
      - 2.4ของปลอดเชื้อที่มีรอยฉีกขาด ถือว่าไม่ปลอดเชื้อ
      - 2.5ดูแลให้ของปลอดเชื้อสัมผัสกับอากาศน้อยที่สุด
      - 2.6ห่อของปลอดเชื้อที่เปิดใช้แล้ว แสดงว่าเกิดการปนเปื้อน
    - - 3.1การถือหรือวางของปลอดเชื้อต้องอยู่สูงกว่าเอว
        เพื่อให้แน่ใจว่าของปลอดเชื้ออยู่ในสายตา
      - 3.2เมื่อเปิดของปลอดเชื้อแล้ว ไม่ละทิ้งหรือหันหลังให้ของปลอดเชื้อ เพือให้มันใจว่าไม่มีการปนเปื้อน
      - 3.3หากสงสัย ไม่มั่นใจเกี่ยวกับความปลอดเชื้อ
        ต้องเปลี่ยนใหม่ทันที
  - - - 1.สำรวจป้ายชื่อของห่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้ ตรวจสอบความปราศจากเชื้อ จาก Autoclave tape
      - 2.วางห่อของบนโต๊ะที่สะอาดสูงระดับเอว
      - 3.แกะเทปป้ายชื่อห่อของที่ระบุวันที่นึ่งและ Autocave tape ออก
      - 4.จับมุมผ้าด้านนอก ห่างขอบ1นิ้ว เปิดมุนแรกออกไปด้านตรงข้ามกับผู้เปิด
      - 5.เปิดมุมผ้าด้านข้างทีละด้านแล้วเปิดมุมผ้าด้านในสุด
  - - - การล้างมือแบบธรรมดา
        (Normal หรือ Social hand washing)
        
        เป็นการล้างมือเพื่อนสุขภาพอนามัย
        เช่น ก่อนและหลังการแจกยา
        
        ล้างมือตามขั้นตอนด้วยสบู่ก้อนหรือสบู่เหลว อย่างน้อย 15 วินาที
    - - แอลกอออล์เจล มีน้ำยา alcohol 70% หรือ alcohol 70% ผสม chlorhexidine 0.5%
      - สามารถกำจัดเชื้อโรคออกจากมือทั้งแบคทีเรียแกรมบวกแกรมลบ เชื้อรา เชื้อที่ดื้อยา และไวรัส
      - ใช้เวลาประมาณ 15-25 วินาที แต่การฆ่าเชื้อไวรัส 30 วินาที
    - - การล้างมือภายหลังการสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อหรือสิ่งปนเปื้อน เช่นกระโถนถ่าย
        
        ก่อนและหลังทำกิจกรรมที่ต้องใช้เทคนิคปราศจากเชื้อ เช่น การสวนปัสสาวะให้ล้างมือด้วยสบู่เหลวผสมทำยาทำลายเชื้อ เช่น คลอเฮ็กซิดีน กลูโคเนต 4 %(chlorhexidine gluconate 4%)
      - ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 30 วินาที
        ล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วซับให้แห้งด้วยผ้าแห้งที่สะอาด
    - - เป็นการล้างมือเพื่อทำหัตถการ การทำคลอดที่ต้องป้องกันการติดเชื้อ
        
        ล้างมือด้วยสบู่เหลวทำลายเชื้อ เช่น chlorhexidine 4% และใช้แปรงที่ปราศจากเชื้อแปรงมือและเล็บในครั้งแรกของวัน นานอย่างน้อย 5 นาที และครั้งต่อไปฟอกนาน 3-5 นาที และซับด้วยผ้าแห้งปราศจากเชื้อ
- - - - ใช้ผ้าปิดปาก จมูก สวมเเว่นตา
        
        สวมเสื้อคลุม
- - - - หม้อต้มมีฝาปิด เพื่อให้อุณหภูมิสม่ำเสมอขณะต้ม
      - ใส่น้ำให้มีปริมาณมากพอ อาจจะทำให้เกิด
        คราบบนผิววัสดุที่ต้ม
    - - แยกของที่จะต้มเครื่องมือกับเครื่องแก้วไม่ต้มด้วยกัน
      - เครื่องใช้มีคมไม่ควรต้ม
      - ของใช้ที่สะอาดแล้วไม่ควรต้มปนกับ
        ของที่ใช้กับอวัยวะสกปรก
      - ต้มครบเวลาแล้วต้องเก็บไว้ในภาชนะที่ปราศจากเชื้อ
    - - ปิดฝาหม้อต้ม เริ่มนับเวลาเดือดเต็มที่
      - ไม่เพิ่มสิ่งของอื่นลงไป เมื่อทำของที่ต้มอยู่
        ไม่ครบ 15-20 นาที
      - เครื่องมือที่มีน้ำหนักเบาควรใช้ของที่มีน้ำหนักทับ
      - ครบกำหนดแล้วให้เก็บของที่ต้มแล้วลง
        ในภาชนะที่ปราศจากเชื้อ
      - น้ำต้องท่วมของอย่างน้อย 1 นิ้ว
  - - - สารเคมีหรือน้ำยาที่ใช้ทำลายจุลินทรีย์
        แต่ไม่ทำลายชนิดที่มีสปอร์
    - - สารเคมียับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
        ใช้กับสิ่งมีชีวิตได้ปลอดภัย
  - - - 2.เพื่อเป็นการลดสิ่งปนเปื้อนที่ติดอยู่บนผิวของเครื่องมือ
      - ความสกปรกที่ติดแน่นบางอย่างไม่สามาถหลุดออกได้
      - ลดจำนวนเชื้อโรคบนเครื่องมือ
    - - 1.กำจัดเลือด หนองออกก่อนทำความสะอาดเสมอ
      - 2.ไม่ทำอุปกรณ์ชำรุด เสียหาย
      - 3.ไม่ทำอุปกรณ์เครื่องใช้สกปรกมากกว่าเดิม
    - - สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความสปรกตามความเหมาะสม
        
        คราบเลือดหรือสารคัดหลั่งควรเช็ดด้วยน้ำเกลือหรือน้ำร้อนหากไม่หบุดให้ล้างด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
        
        อุปกรณ์ที่มีข้อห้ามในการล้าง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำยา
        ทำความสะอาดบิดหมาดๆ
        
        ถ้ามีคราบลาสเตอร์ให้เช็ดด้วยเบนซินตามด้วยเเอลกฮอล์
        
        บริเวณที่ไม่สามารถเช็ดได้ใช้ก้านยาวพันสำลี
        ชุบทำความสะอาดเช็ดส่วนนั้น
      - 2.ล้างคราบสกปรกและคราบผงซักฟอกออกให้หมด
      - 3.เช็ดด้วยผ้าให้แห้ง
      - 4.ทำความสะอาดอุปกรณ์ให้สะอาดและทำให้แห้ง
- - - - สามารถทำลายเชื้อโรคใช้ความร้อนเเห้งที่อุณหภูมิอ
        165-170 องศสเซลเซียส ระยะอย่างน้อย 3 ชม. เหมาะกับเครื่องมือเครื่องใช้ที่เป็นของมีคม ไม่ทำให้ของเสียคม
    - - วีธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุด
      - ภาชนะที่ทำด้วยสเเตนเลส ไม่เหมาะกับเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทนความร้อนสูงไม่ได้
    - - การใช้แสงอัลตราไวโอเลต แสงสีม่วงฆ่าเเบคทีเรียได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสเอดส์
      - ดังนั้นในกรณีเชื้อวัณโรคเมื่อถูก
        แสงแดดจะถูกทำลายภาย 1-2 ชม.
  - - - Glutaradehyde เช่น Cidex เป็นสารเคมีที่ใช้มากที่สุด
      - ทำลายเชื้อและสปอร์ของแบคทีเรีย
        เป็นสารที่ไม่ทำลายยางหรือพลาสติก
    - - acetic acid กับ hydrogen peroxide กัดกร่อนสูง
        แต่ต้องทำลายในน้ำอุ่นเครื่องมือเครื่องใช้แช่
      - เพื่อทำให้ปลอดเชื้อจะต้องใช้เวลารวดเร็วคือ 35-40นาที ที่อุณหภูมิ 50-55 องศสเซลเซียส
    - - ก๊าซที่มีคุณสมบัติทำลายเชื้อสูง สามารถทำลายได้ทั้งไวรัส แบคทีเรียและสปอร์ของแบคทีเรีย
      - ใช้อบก๊าซไว้ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส นาน 3 ชม.
- - - - สวมถุงมือชนิดใช้เเละทิ้งหลังสัมผัสผู้ป่วย
        
        ล้างมือแบบ hygienic handwashing หลังถอดถุงมือเเละออกจากห้องผู้ป่วย
        
        ให้ผู้ป่วยใส่ผ้าปิดปาก-จมู เวลาไอ จาม เเละตลอดเวลายกเว้นตอนรับประทานอาหารเเละแปรฟัน
        
        ถ้าจะต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยให้ผู้ป่วยใ่ผ้าปิดปาก-จมูกชนิดธรรมดา
- - - - ผู้ป่วยโรคติดต่อทางบาดเเผลเเละผิวหลัง
        
        ผู้ป่วยเป็รโรคติดต่อร้ายเเรงเเละต่อต่อง่าย
        
        ผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่อทางเลือดเเละน้ำเหลือง
        
        ผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโณคติดต่อ
        
        ผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง