Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สถานการณ์กลุ่มที่ 5 ภาวะkernicterus :star:, ศิรประภา รักจักร์, ลีลาวดี…
สถานการณ์กลุ่มที่ 5
ภาวะkernicterus :star:
สถานการณ์
ทารกเพศหญิง อายุ 1 เดือนประวัติการคลอด มารดา GA 35+2 wks น้ำหนักแรกคลอด 1295 กรัม แรกคลอดมีตาเหลือง ตัวเหลือง อุจจาระสีซีด อาการแรกรับ 2 สัปดาห์ก่อนมา รพ ดูดนมได้น้อย จากทุก 3 ชม ได้ 2 ออนซ์ ลดลงเหลือ 1 ออนซ์ มีซีด ซึม อาเจียน ตัวเกร็ง หลังแอ่น ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบ WBC 4,500 cells/mm3 Hb11 g/dl Hct 36 % Plt 85,000 cells/mm3 เจาะน้ำไขสันหลัง พบ blast 50%
ภาวะตัวเหลือง เป็นปัญหาสขุภาพของทารกแรกเกิดหลังคลอดที่พบบ่อยในประเทศสหรัฐอเมริกามีสถิติการเกิด ภาวะตัวเหลืองร้อยละ 60-70 ในทารกแรกเกิดคลอดครบกำหนด และร้อยละ 80 ในทารกแรกเกิดคลอดก่อนกำหนดสำหรับประเทศไทย ภาวะตัวเหลืองพบร้อยละ 50 ของปัญหาสุขภาพในทารกแรกเกิดทั้งหมด
ปัญหาการพยาบาล
A2 : เสี่ยงต่อการได้รับสารน้ำและสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจากการดูดกลืนนมไม่ดี
การพยาบาล
สนับสนุนให้ทารกได้กินนมแม่อย่างเต็มที่
ประเมินอาการผิดปกติของทารก เช่นการดูดกลืนนมของทารก อาเจียน
ดูแลทารกให้ได้รับสารน้ำและสารอาหารอย่างเหมาะสม ถูกต้องตามวิธี
จัดท่าให้ทารกอยู่ในท่าศีรษะสูงทั้งขณะและหลังให้นม เพื่อป้องกันการอาเจียน
บันทึกการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักตัวของทารกทุกวันจนกว่าจะปกติ
บันทึกปริมาณน้ำเข้าและออกจากร่างกาย
A3 : เสี่ยงเลือดออกอวัยวะต่างๆ
ในร่างกายเนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำ
การพยาบาล
สังเกตจุดเลือดออกหรือจุดจ้ำเลือดตามผิวหนัง สีของปัสสาวะอุจจาระ
แนะนำให้หลีกเลี่ยงการกระทบกระแทกกับสิ่งต่างๆ
วัดสัญญาณชีพทุกๆ 4 ชั่วโมง
ทำหัตถการต่างๆด้วยความระมัดระวัง
A1 :มีภาวะ Kernicterusเนื่องจากเนื้อเยื่อสมองถูกทำลายจากบิลิรูบิน
การพยาบาล
เปลี่ยนเลือดดีและเร็วสุด :<3:
ก่อนเปลี่ยนเลือด
NPO 1ชั่วโมงก่อน
อุ่นเลือดให้มีT37 ํ c
ระหว่างการเปลี่ยนเลือด
ให้ความอบอุ่น(ป้องกันการใช้ATP)
ทุก100 ml ให้ฉีด Calciumglocunage IVช้าๆและนับHRด้วย
บันทึกปริมาณเลือดที่ดูดออกและใส่เข้า
หลังเปลี่ยนเลือด
NPO 6 hr
V/S การติดเชื้อ เลือดออกที่สะดือ
ระดับบิลิรูบิน
ปกติลดลงร้อยละ 50-55 จากเดิม
ลด>0.5มก./ดล ./ชม. นาน10-12hr รายงานแพทย์
การส่องไฟ :flashlight:
ห่างจากแสงไฟประมาณ 45-50cm
พลิกตะแคงตัวq 2hr
ดูดนมบ่อยๆ ทุก 2-3 hr
ปิดตาทารก
วัดอุณหภูมิทุก 4-6 ชั่วโมง
วัดระดับ bilirubin เป็นระยะๆ
ระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น ออกผื่น ถ่ายเหลว ไข้ ท้องอืด
เป้าหมายของการรักษาคือการลดปริมาณของบิลิรูบิน :star:
A4 : อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากการเปลี่ยนถ่ายเลือด
การพยาบาล
2.เจาะเลือดผู้ป่วย 5-10 ml.เพื่อหาหมู่เลือด
3.บันทึกอุณหภมิก่อนทำ ขณะทำและหลังทำ
1.NPO 3-4 ชั่วโมงก่อนทำการดูด gastric content ออก
4.บันทึกv/s ก่อนทำ ขณะทำ หลังทำและsuction เมื่อมีเสมหะ
5.บันทึกระยะเวลาและจำนวนเลือดที่ดูดออกและนำเข้า
6.สังเกตอาการผิดปกติ เช่น หนาวสั่น กระตุกตัวเกร็ง
พยาธิสภาพ
ภาวะการมีบิลิรูบินคั่งในสมอง (Kernicterus หรือ Bilirubin encephalopathy) :!!:
บิลิรูบินที่ละลายในไขมันในเลือดสูงมากเกินปริมาณที่อัลบูมินจะจับด้วยได้ จึงทําให้มีบิลิรูบินผ่านตัวกั้นระหว่างเลือดกับสมอง (Blood Brain Barrie, BBB) เข้าสู่สมอง เข้าไปย้อมเนื้อสมองของทารก เกิดเป็นพิษของบิลิรูบินต่อเนื้อสมอง ทําให้เซลล์สมองส่วนนั้นๆ เสียไปอย่างถาวร
ช่อผกา โกฎธิ
สาเหตุ
1.ระดับบิลิรูบินในเลือดสูง>20-25 mg/dl
2.ทารกแรกเกิดปกติอัลบูมินในเลือดสามารถจับกับบิลิรูบินได้เพียงร้อยละ 50-90
3.ภาวะขาดออกซิเจนหรือภาวะกรดในร่างกายอาจช่วยทําให้บิลิรูบินผ่านเข้าเซลล์ได้ง่ายขึ้น
การซักประวัติ
การซักประวัติครอบครัวมีโรคเม็ดเลือดแดงแตกง่าย การติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์
ประเมินจากคะแนน Apgar score
ตรวจร่างกาย อาจพบอาการเหลืองเริ่มที่บริเวณใบหน้า จากนั้นเห็นได้ที่แขน ขา ลำตัว
ตรวจระดับบิลิรูบิน
ตรวจDirect Coombs' test
ตรวจCBC
Peripheral blood smear
ตรวจReticulocyte count เพื่อสนับสนุนว่ามีภาวะเม้ดเลือดแดงแตก
ปิยะดา ธัญญะ
การตรวจร่างกาย
จากการสังเกต
ดูดนมได้น้อย
ซีด
ซึม
อาเจียน
ตัวเกร็ง
หลังแอ่น
จากห้องปฏิบัติการ
WBC 4,500 cells/mm3
Hb 11 g/dl
Hct 36%
Plt 85,000 cell/mm3
เจาะน้ำไขสันหลัง : blast 50%
ศิรประภา รักจักร์
ลีลาวดี ลิลิต
ปิยะดา ธัญญะ
ธัญญารัตน์ ตาคะเล
ช่อผกา โกฎธิ
ศิรประภา รักจักร์
ธัญญารัตน์ ตาคะเล