Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ :silhouettes:,…

- - - - เมื่อเชื้อโรคออกจากแหล่งเชื้อโรคจะเกิดโรคได้ก็ต่อเมื่อหาทางเข้าไปในร่างกายมนุษย์ใหม่ เช่น ทางแผล
    - - การติดเชื้อไวอาจเกิดจาก ความเครียด ภาวะโภชนาการ ความอ่อนเพลีย ภูมิแพ้
    - - เชื้อโรคแพร่กระจายได้จะต้องมัพาหนะนำเชื้อ เช่น อากาศ อาหาร น้ำ คน สัตว์ วัตถุ บุคคลที่มีเชื้อโรค
    - - เชื้อโรคต่างๆ
    - - เป็นที่ที่ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตและมีการขยายตัว คือ คน สัตว์ สิ่งแวดล้อม
    - - เชื้อโรคจะสามารถแพร่ไปยังบุคคลอื่นต้องออกจากแหล่งของมันก่อน เช่น เลือด ทางเดินหายใจ/ทางเดินปัสสาวะ ผิวหนัง อวัยวะสืบพันธ์ุ
  - - - ได้รับเชื้อในขณะที่ผู้ป่วยได้รีบการตรวจหรือได้รับการพยาบาล
      - การติดเชื้อของบุคลากรจากการปฏิบัติงาน
- - - - การปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่เกิดกับเครื่องมือเครื่องใช้และสิ่งแวดล้อม
      - เช่น
        
        Medical asepsis:การกีดกันเชื้อแบบธรรมดาทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น การล้างมือ 7 ขั้นตอน การสวมMask
    - - วิธีการปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่เกิดกับเครื่องมือเครื่องใช้และสิ่งแวดล้อม
      - เช่น
        
        sterile technique
  - - - เครื่องมือเครื่องใช้ที่สัมผัสกับเยื่อบุก่อนใช้ต้องทำให้ปราศจากเชื้อ
    - - เครื่องมือเครื่องใช้ที่สัมผัสเยื่อบุก่อนใช้ต้องสะอาดไม่มีเชื้อโรค ยกเว้นสปอร์ของแบคทีเรีย
    - - เครื่องมือที่สัมผัสกับผิวหนังภายนอกไม่ได้สัมผัสกับเยื่อบุต่างๆของร่างกายก่อนใช้ต้องล้างให้สะอาด
- - - - 1.เพื่อลดจำนวนเชื้อโรคบนเครื่องมือให้เหลือปริมาณน้อยที่สุด
      - 2.เพื่อเป็นการลดสิ่งปนเปื้อนที่ติดอยู่บนผิวของเครื่องมือ
      - 3.ความสกปรกที่ติดแน่นบางอย่างไม่สามารถลดลงได้จากการฆ่าเชื้อ
      - 4.ช่วยลดอันตรายในการหยิบจับอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่เป็นเบื้องต้น
    - - 1.กำจัดหนอง เมือก สารคัดหลั่ง ก่อนทำความสะอาดเสมอ
      - 2.ไม่ทำให้อุปกรณ์ ชำรุดหรือเสียหาย
      - 3.ไม่ทำให้อุปกรณ์สกปรกกว่าเดิม
      - 4.สบู่มีฤทธิ์เป็นด่าง หากล้างไม่หมดจะช่วยเคลือบเชื้อจุลชีพไว้
    - - 2.สารซักฟอก หรือสบู่
      - 3.อุปกรณ์สวมใส่เพื่อป้องกันเชื้อโรค
        
        ถุงมือยาง
        
        เอี๊ยมพลาสติก
        
        ผ้าปิดจมูก
        
        แว่นตา
      - 1.อุปกรณ์ช่วยขัดถู มีความหยาบแต่ไม่มีความคม
    - - 1.สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความสกปรกตามความเหมาะสม ระมัดระวังไม่ให้เปื้อนบริเวณใกล้เคียง
        
        อุปกรณ์ที่มีข้อห้ามในการใช้น้ำล้าง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดบิดหมาดๆ
        
        บริเวณที่ไม่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ เช่น เป็นรูเล็กๆ ให้ใช้ไม้ก้านยาวพันสำลีชุบน้ำยา ทำความสะอาดเช็ดในส่วนนั้น
        
        คาบเลือดหรือสารคัดหลั่งติดเเน่น ควรเช็ดล้างด้วยน้ำเกลือหรือน้ำร้อน หากไม่หลุดให้ล้างออกด้วย ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
        
        สำรวจคราบลาสเตอร์ หากมีให้เช็ดด้วยเบนซินแล้วตามด้วยแอลกอฮอลล์
      - 2.ล้างคราบสิ่งสกปรก และคราบสารผงซักฟอก ออกให้หมดโดยใช้น้ำก๊อกที่ไหลชะผ่าน
      - 3.เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด หรือวางผึ่งลมก่อนเก็บเข้าที่ หรือแยกไปทำความสะอาดเชื้อ
      - 4.ทำความสะอาดอุปกรณ์ขัดล้างให้สะอาด ทำให้แห้ง รวมถึงถุงมือและอ่างน้ำ
  - - - เครื่องใช้ที่เป็นโลหะ หรือเครื่องแก้วทุกชนิด
      - เครื่องเคลือบ
    - - ของมีคม
      - เครื่องใช้ที่ทำมาจากยาง
    - - หม้อต้มที่สะอาดมีฝาปิด เพื่อให้อุณหภูมิสม่ำเสมอขณะต้ม
      - ใส่น้ำสำหรับการต้มให้มีปริมาณมากพอ การใช้น้ำประปาทำให้เกิดตะกรันในหม้อต้ม ต้องใช้เวลาต้มนาน ความร้อนจึงจะผ่านตะกรันเข้าไปได้
    - - แยกชนิดสิ่งของที่จะต้ม เครื่องมือกับเครื่องแก้วต้องไม่ต้มด้วยกัน
      - สิ่งของที่จะต้ม ควรจะได้รับการทำความสะอาดดีแล้ว
      - เครื่องใช้มีคมไม่ควรต้ม เพราะจะทำให้เสียคม
      - ของที่ใช้กับอวัยวะสะอาด ไม่ควรต้มปนกับของที่ใช้กับอวัยวะสกปรก ให้แยกหม้อต้ม
      - ของที่ต้มครบเวลาแล้ว จะต้องเก็บไว้ในภาชนะที่ปราศจากเชื้อหรือสะอาดมีฝาปิดที่มิดชิด ถ้าหากไม่มีต้องต้มภาชนะและฝาปิดพร้อมของที่ต้มด้วย
    - - เครื่องมือเครื่องใช้ที่มีน้ำหนักเบา ควรใช้ของที่มีน้ำหนักทับเพื่อให้จมอยู่ใต้น้ำ
      - ปิดฝาหม้อต้ม เริ่มนับเวลาเมื่อน้ำเดือดเต็มที่
      - ในขณะต้มต้องไม่เปิดฝาหม้อต้ม เพราะจะทำให้อุณหภูมิภายในหม้อต้มลดลง และไม่ควรใส่สิ่งของเพิ่มขณะต้ม
      - น้ำต้องท่วมของทุกชิ้นอย่างน้อย1นิ้ว
      - เมื่อครบกำหนดให้เก็บของที่ต้มแล้วลงในภาชนะที่ปราศจากเชื้อหรือสะอาดมีฝาปิดมิดชิด
  - - - สารเคมีที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ สามารถใช้กับสิ่งมีชีวิตได้ปลอดภัย
    - - สารเคมีหรือนำยาที่ใช้ทำลายจุลินทรีย์แต่ไม่สามารถใช้ทำลายชนิดที่มีสปอร์ และยานี้จะทำลายเนื้อเยื่อด้วย
- - - - ใช้แสงอันตราไวโอเลตแสงสีม่วง มีในแสงแดด ไม่มีฤทธิ์ฆ่าไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสเอดส์ ถ้าโดนแสงแดดจะทำลายใน 1-2ชั่วโมง
    - - ใช้ความร้อนแห้งในอุณหภูมิ 165-170 องศาเซลเซียส 3 ชั่วโมง เหมาะสำหรับของมีคม เครื่องแก้ว
    - - มีประสิทธิภาพมากสุด ประหยัด ไม่เหมาะกัยสแตนเลส ใช้อุณหภูมิ 121-123 องศาเซลเซียส 15-45 นาที
  - - - ทำลายเชื้อสูง ไม่ทนความร้อนความชื้น เหมาะกับพลาสติก มีประสิทธิ์ภาพสูงสุดเมื่ออุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส 3 ชั่วโมง
    - - ทำลายเชื้อสปอร์ของแบทที่เรีย ไม่ทำลายยางหรือพลาสติก เช่น Cidex
    - - ผสมระหว่าง acetic acid กับ hydrogen peroxide แช่กล้องส่องตรวจต่างๆ
- - - - ล้างแบบทั่วไป อย่างน้อย 15 วินาที
        มี 7 ขั้นตอน
        1.ฝ่ามือถูกัน
        2.ฝ่ามือถูหลังมือ และนิ้วถูซอกนิ้ว
        3.ฝ่ามือถูฝ่ามือ และนิ้วถูซอกนิ้ว
        4.หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ
        5.ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ
        6.ปลายนิ้วถูขวางฝ่ามือ
        7.ถูรอบข้อมือ
    - - น้ำยาalcohol 70% หรือ alcohol 705 ผสม chlorhexidine 0.5% ถูทุกซอกทุกมุมจนน้ำยาแห้ง ประมาณ 15-25 วินาที่
    - - ฟอกเหมือนการล้างมือธรรมดา ไม่น้อยกว่า 30 วินาที
    - - ใช้ chlorhexidine 4% และใช้แปลงมือและเล็บ ฟอกมือและแขนจนถึงข้อศอก อย่างน้อย 5 นาที ล้างครั้งต่อไปฟอกมือ 3-5 นาที
  - - - 1.หยิบของปลอดเชื้อ
        2.ทำหัตถการต่างๆ
        3.ป้องกันการติดเชื้อ
    - - 1.ป้องกันสิ่งสกปรกสัมผัสมือ
        2.เคลื่อนย้ายเครื่องมือเครื่องใช้ของผู้ป่วย
- - - - -ห้ามเอื้อมข้ามของ sterile ที่เปิดฝาไว้และห้ามจับด้านในของฝา
        
        -ของที่หยิบออกไปแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ได้ใช้ ก็ไม่ควรนำเข้าไปเก็บในหม้อนั้นอีก
- - - - 2.2 หากหยิบจับของปลอดเชื้อด้วยมือ หรืออุปกรณ์ที่ไม่ปลอดเชื้อ จะถือว่าเครื่องมือเครื่องใช้นั้นเกิดการปนเปื้อน
        
        2.3 การใช้ปากคีบหยิบจับของปลอดเชื้อไม่ควรใช้ปากคีบหยิบบริเวณขอบของภาชนะ
        
        2.4 ของปลอดเชื้อที่มีรอยฉีกขาด รอยเปิดสัมผัสกับภายนอก ถือว่าไม่ปลอดเชื้อ
        
        2.5 ดูแลให้ของปลอดเชื้อสัมผัสกับอากาศน้อยที่สุด หากเปิดใช้ต้องรีบปิดทันที
        
        2.6 ห่อของปลอดเชื้อที่เปิดใช้แล้ว แสดงว่าเกิดการปนเปื้อน ไม่นำไปรวมกับของปลอดเชื้อ
- - - - 2.วางห่อของบนโต๊ะที่สะอาดสูงระดับเอว โดยให้มุมนอกสุดของห่อของอยู่ไกลตัว
        
        3.แกะเทปกาว ป้ายชื่อห่อของที่ระบุวันนึ่ง และ Autoclave tape ออก
        
        จับมุมผ้าด้านนอก ห่างขอบประมาณ 1 นิ้ว เปิดมุมแรกออกไปทางด้านตรงข้ามกับผู้เปิด
        
        5.เปิดมุมผ้าด้านข้างออกทีละด้าน แล้วเปิดมุมผ้าด้านในที่สุด
- - - - เพิ่มการใช้ Contact precaution.
      - ล้างมือแบบ hygienic handwashing
      - สวมถุงมือทุกครั้งเมื่อสัมผัสผู้ป่วยทั้งบุคลากรและญาติ
    - - เพิ่มการใช้ Droplet precaution.
      - แยกผู้ป่วยไว้ในห้องแยกและปิดประตูทุกครั้งหลังเข้าหรือออก
      - ใส่ ผ้าปิดปาก-จมูก ชนิด N95
      - สวมถุงมือชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง
      - ล้างมือแบบ hygienic handwashing
      - ให้ผู้ป่วยใช้ผ้าหรือกระดาษปิดปาก-จมูกเวลาไอ จาม และใส่ผ้าปิดปาก-จมูก ชนิดธรรมดาตลอดเวลา
    - - เพิ่มการใช้ Airborne precaution.
      - ล้างมือแบบ hygienic handwashing
      - ผู้ที่จะเข้าไปในห้องผู้ป่วยต้องใส่ผ้าปิดปาก-จมูก ชนิด N95
      - ให้ผู้ป่วยใส่ผ้าปิดปาก-จมูกชนิดธรรมดา
  - - - :check:เข็มที่ใช้แล้วให้ตนเองเป็นผู้เก็บทิ้ง
        
        :check:ใช้ forceps หยั่งแผลเวลาเย็บ
        
        :check:ใช้ forceps ในการปลดหลอดแก้วออกจากสายยาง
        
        :check:one hand technique