Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บททื่ 3 (หน้าที่2) การเปลี่ยนแปลงในระยะตั้งครรภ์ทางด้านสรีรวิทยาและจิตสั…
บททื่ 3 (หน้าที่2)
การเปลี่ยนแปลงในระยะตั้งครรภ์ทางด้านสรีรวิทยาและจิตสังคม
การเปลี่ยนแปลงในระยะตั้งครรภ์
ระยะของการตั้งครรภ์
มนุษย์ตั้งครรภ์นาน40±2สัปดาห์
แบ่งระยะของการตั้งครรภ์เป็น3ระยะ
ไตรมาสที่ 1
เริ่มนับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 1 ถึงสัปดาห์ที่ 13
ไตรมาสที่ 2
นับจากสัปดาห์ที่ 14 ถึงสัปดาห์ที่ 28
ไตรมาสที่ 3
นับจากสัปดาห์ที่ 29 ถึงสัปดาห์ที่ 42
การตั้งครรภ์ (Pregnancy)
การเปลี่ยนแปลงทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมเพื่อการเกิดของบุตรซึ่งเป็นพัฒนาการของมารดาและครอบครัว
การดูแลเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนของทั้งมารดา ทารกรวมถึงการส่งเสริมสุขภาพของมารดาทารกและครอบครัว
การเปลี่ยนแปลงของระบบ Hormoneในระหว่างตั้งครรภ์
ฮอร์โมนที่สร้างจากรก
Steroid Hormone : Estrogen, Progesterone
Hormone : HCG (Human Chorionic Gonadotropin), HPL (Human Placental Lactogen) progesterone + relaxin = maintained pregnancy
HCG
: (Human Chorionic Gonadotropin)
-สร้างหลังปฏิสนธิ 8-10 วัน : สร้างโดย trophoblast
-ทำให้ corpus luteum ให้ทำงานต่อไปอีก 8-10 week
-3เดือนมีปริมาณ 50,000 –100,000 IU/L 20 wk เหลือ 10,000-20,000 IU/L กระตุ้นCL สร้าง relaxin : กระดูกข้อต่อคลายตัวนุ่มขึ้นกด immune ของมารดา ที่จะ reject ต่อ fetal antigen ใช้ทดสอบการตั้งครรภ
-Luteo-placental shift corpus luteum
Estrogen
สร้างจากรกตั้งแต่6-12 wks. เพิ่มขึ้น100เท่า
บอกถึงหน้าที่ของรก สุขภาพของทารกในครรภ์
เพิ่มขนาดกล้ามเนื้อมดลูกเพิ่มปริมาณเลือดที่มาเลี้ยงมดลูกรก ทารก
กระตุ้นการท้างานของท่อน้านมต่อมน้ำนมหัวนม
เต้านมคัดตึง ขยาย
ลดการหลั่งของน้าย่อย(HCl, pepsin) ในกระเพาะอาหาร
อาหารไม่ย่อยคลื่นไส้
Progesterone
กระตุ้นท่อและต่อมน้านม-เต้านมคัดตึง
10สัปดาห์แรก สร้างจาก Corpus luteal รกเริ่มสร้างเมื่อ 7สัปดาห์
ปริมาณ เพิ่มขึ้น 10เท่ากระตุ้นเยื่อบุผนังมดลูกให้หนาตัวขึ้น เพื่อรองรับการฝังตัวของไข่
ท้าให้กล้ามเนื้อเรียบต่างๆคลายตัวเช่นมดลูกคลายตัว
ระบบทางเดินอาหาร
อิทธิพลของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนทำให้กระเพาะ อาหารและล้าไส้เคลื่อนไหวน้อยลง
อาการที่พบคือ เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย ท้องอืด คลื่นไส้อาเจียนท้องผูกและแสบร้อนยอดอก
ระบบทางเดินปัสสาวะ
การเบียดบังกระเพาะปัสสาวะของมดลูกท้าให้ปัสสาวะบ่อย
โปรเจสเตอโรนท าให้ท่อไตและท่อทางเดิน ปัสสาวะขยายตัว
เลือดไหลผ่านไตมากขึ้น 30%
การกรอง (GFR) เพิ่มขึ้น 50%
HPL
(Human Placental Lactogen)
สร้างตั้งแต่สัปดาห์ที่ 5สูงสุดในสัปดาห์ที่34
ยับยั้งการท้างานของ insulin
ลดการเผาผลาญโปรตีน
ลดการสร้างและหลั่งน้ำนม
การเผาผลาญอาหารเพิ่มขึ้น ชีพจรและหัวใจเต้นเร็ว อารมณ์แปรปรวน อ่อนเพลีย เหงื่อออก มาก ทนต่ออากาศร้อยได้น้อย
การเปลี่ยนแปลงในระบบอวัยวะสืบพันธุ์
มดลูกเปลี่ยนรูปร่างขนาดตาแหน่ง&กล้ามเนื้อมดลูก
ในไตรมาสที่1 มดลูกขยายขนาดเนื่องจากฮอร์โมนestrogen & progesteroneและมีการเพิ่มขึ้นหลอดเลือดการขยายตัวของกล้ามเนื้อและจานวนเพิ่มขึ้น
เยื่อบุมดลูกในระยะตั้งครรภ์เรียกว่าDecidua
Uterus change
รูปร่างเหมือนลูกแพร์คว่าในไตรมาสที่1
ไตรมาสที่2 รูปร่างมีลักษณะกลม(spherical or globular)
ไตรมาส 3 เนื่องจากทารกมีขนาดยาวขึ้นทาให้มดลูกรูปร่างเป็นรูปไข่(Ovoid)
ตำแหน่งของมดลูกจะสูงค่อนข้างไปทางขวาเนื่องจากมี rectosigmoid colon ทางด้านซ้าย แต่มีการขยายขนาดของ round ligaments ยึดให้มดลูกอยู่ตรงกลาง
หลัง 28 สัปดาห์การหดรัดตัวจะมากขึ้นแต่เมื่อเดินจะหยุด
ความจุปกติน้อยกว่า 10 cc จะเพิ่มขึ้น500-1000 เท่าเมื่อใกล้ครบก าหนดคลอด
ปากมดลูกนุ่ม(Goodell sign) และสีคล้าขึ้นเนื่องจากมีเลือดมาเลี้ยงมากขึ้นมีมูกอุดกั้นป้องกันเชื้อโรค
การเปลี่ยนแปลงในระบบอวัยวะสืบพันธุ์และผิวหนัง
รังไข่: Corpus luteum ท างานให้ฮอร์โมนถึงประมาณ 7-10 wk จนกระทั่งรกทาหน้าที่ได้ดีจึงหมดหน้าที่และรังไข่จะไม่มีไข่ตกตลอดการตั้งครรภ์แต่จะหลั่งRelaxin
ช่องคลอดและอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกมีเลือดมาหล่อเลี้ยงมากขึ้นมีสีคล้าม่วง(Chadwick sign) ตรวจพบได้เมื่อ6-8 wkมีเนื้อเยื่ออ่อนนุ่มยืดขยายได้ดีเพื่อเตรียมการส าหรับการยืดขยายขณะคลอด
PH เป็นกรดเพิ่มขึ้น(3.5-6) ปกติ (PH 4-7) (จากผลของ estrogen)
กล้ามเนื้อท่อนาไข่มีการขยายโตขึ้นมีเลือดมาเลี้ยงเพิ่มขึ้นและการเคลื่อนไหวลดลง
เต้านม (Breast change)
ขยายขนาดใหญ่ขึ้นไวต่อการสัมผัสเนื่องจากการกระตุ้นของ estrogen & progesterone มี venous congestion และอาจพบ striae gravidarum
การหลั่งน้านมแท้ยังไม่เกิดในระยะตั้งครรภ์เนื่องจากการยับยั้งของestrogen
ระบบผิวหนัง เอ็น และกล้ามเนื้อ
1.สีผิวเข้มขึ้น
2.ผิวหนังคล้ำขึ้นเช่น หลัง คอ หน้าอก ใต้รักแร้ หัวนม ขาหนีบ
3.Chloasma gravidarum
4.Linea nigra
5.Striae gravidarum
6.อาจพบรอยแตกลายที่อื่น เช่น เต้านม ต้นขา
การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง
1.Angiomas or vascular spider
พบได้บริเวณ คอ อก หน้าและแขนในช่วงเดือนที่5และจะหายไปหลังคลอดเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของestrogen
2.Palmar erythema
ฝ่ามือมีจุดสีแดงทั่วฝ่ามือเกิดจากการเพิ่มขึ้นของestrogen
3.Gum hypertrophy
(epulis or gingival granuloma gravidarum) มีเหงือกบวมโตระหว่างตั้งครรภ์พบได้ในช่วงเดือนที่3 และหายไปหลังคลอด
กระดูกและกล้ามเนื้
1.การเกิด Lordosisเพื่อให้มีการbalance การทรงตัว ท าให้จุดที่ลงน้าหนัก(gravity) เปลี่ยนไปทำให้เกิดอาการปวดหลัง เดินลำบาก
2.มีการหย่อน (slight relaxation) ของข้อต่อเชิงกรานเนื่องจากestrogen & relaxinทำให้เดินลำบาก ปวดได้
3.อาจพบการแยกของ symphysis pubis ได้