Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 3 กระบวนการเปลี่ยนแปลงในวัยสูงอายุ - Coggle Diagram
บทที่ 3
กระบวนการเปลี่ยนแปลงในวัยสูงอายุ
1.ปัจจัยที่ผลต่อการเปลี่ยนแปลง
ของผู้สูงอายุ
1.1 ปัจจัยภายใน : สุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพประสบการณ์ชีวิตความเชื่อและวัฒนธรรม
1.2 ปัจจัยภายนอก: การศึกษาเศรษฐานะและการเกษียณการทำงานปัญหาที่พบในผู้สูงอายุ
1) ปัญหาทางด้านสุขภาพกายผู้สูงอายุมักจะมีปัญหาด้านสุขภาพเสื่อมโทรมมีโรคภัยต่าง ๆ เบียดเบียนทั้งโรคทางกายและทางสมองผู้มีอายุเกิน 65 ปีมักมีการเปลี่ยนแปลงทางสมองคือโรคสมองเสื่อมโรคหลงลืมโรคซึมเศร้า
2) ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจผู้สูงอายุที่มีฐานะไม่ดีไม่มีลูกหลานดูแลอุปการะเลี้ยงดูอาจจะไม่มีรายได้หรือรายได้ไม่เพียงพอสำหรับการเลี้ยงชีพอาจจะไม่มีที่อยู่อาศัยทำให้ได้รับความลำบาก
1.3 ปัญหาทางด้านความรู้ ผู้สูงอายุไม่มีโอกาสได้รับความรู้เพื่อการพัฒนาตนเองให้เหมาะสม กับวัยและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปและเพื่อให้เข้ากันได้กับเยาวชนรุ่นใหม่
1.4 ปัญหาทางด้านสังคม ผู้สูงอายุอาจจะไม่ได้รับการยกย่องจากสังคมเหมือนเดิม โดยเฉพาะผู้ที่เคยเป็นข้าราชการตำแหน่งสูงซึ่งเคยมีอำนาจและบริวารแวดล้อม เมื่อเกษียณอายุราชการอาจเสียดาย อำนาจและตำแหน่งที่เสียไป เยาวชนและหนุ่มสาวหลายคนมีทัศนคติไม่ดีต่อผู้สูงอายุเห็นคนรุ่นเก่าล้าสมัย พูดไม่รู้เรื่องและไม่มีประโยชน์
1.5 ปัญหาทางด้านจิตใจ ผู้สูงอายุจะไม่ได้รับความเอาใจใส่และความอบอุ่นจากลูกหลานอย่างเพียงพอ ทำให้รู้สึกว้าเหว่ อ้างว้างและอาจจะมีความวิตกกังวลต่าง ๆ เช่น กังวลว่าจะถูกลูกหลานและญาติพี่น้องทอดทิ้ง กังวลในเรื่องความตาย ผู้สูงอายุมักมีอารมณ์เปลี่ยนแปลง เช่น เศร้า เฉยเมย เอาแต่ใจตนเอง ผู้สูงอายุบางคนก็ยังมีความต้องการความสุขทางโลกีย์ซึ่งไม่เหมาะสมกับวัยของตนทำให้ได้รับ ความผิดหวัง
1.6 ปัญหาเกี่ยวกับครอบครัวปัญหา ผู้สูงอายุที่น่าเป็นห่วง คือ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ในอดีตจะเป็นครอบครัวใหญ่ที่ เรียกว่า ครอบครัวขยาย ทำให้มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น และเกิดความอบอุ่นระหว่างพ่อแม่และลูกหลาน ในปัจจุบันครอบครัวคนไทย โดยเฉพาะในเขตเมืองจะเป็นครอบครัวเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ ลูกหลานจะมาทางานในเขตเมืองทิ้งพ่อแม่ให้เฝ้าบ้าน ทำให้ผู้สูงอายุอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ได้รับการดูแลและได้รับความอบอุ่นดัง เช่น อดีตที่ผ่านมา
1.7 ปัญหาค่านิยมที่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันความเปลี่ยนแปลงจากภาวะทางด้านเศรษฐกิจและสังคมทำให้เยาวชนมีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ ครูอาจารย์น้อยลง ผู้สูงอายุไม่ได้รับการดูแลต้องอาศัยสถานสงเคราะห์ คนชรา ในอนาคตเมื่อประเทศไทยเป็นประเทศอุตสาหกรรมแบบใหม่ สังคมไทยอาจกลายเป็นสังคมตะวันตก คือ ต่างคนต่างอยู่ ไม่มีการเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ไม่มีการทดแทนบุญคุณ บุตรหลานโตขึ้นก็จะไม่เลี้ยงดูพ่อแม่เมื่อแก่ชรา
2.การเปลี่ยนแปลงในวัยสูงอายุ
2.1 การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย
2.1.1 ระบบผิวหนังผิวหนังบางลงทั้งชั้น dermis, epidermis และ hypodermis เซลล์ผิวหนังลดลงความยืดหยุ่นของผิวหนังไม่ดีผิวหนังเหี่ยวและมีรอยย่นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวหนังมีระยะเวลายาวนานขึ้นกระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ผู้สูงอายุมีการฟื้นหายของแผลช้าลง
2.1.2 ระบบประสาทและประสาทสัมผัส
ระบบประสาทผู้สูงอายุมีทั้ง 3 ระบบ
1.โดยระบบประสาทส่วนกลางนั้น มีขนาดและจำนวนนิวรอน(Neurons)ลดลง
2.ด้านระบบประสาทส่วนปลายทั้งการสั่งการ (Motor) รับความรู้สึก (Sensory) และตอบสนอง (Reflexes) ลดจำนวนลงประสาทรับความรู้สึก (Sensory receptors) เกิดการเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพการทำงานของสมองน้อยลง
ระบบประสาทอัตโนมัติมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใน Basal ganglia ทำให้การตอบสนองของระบบประสาทอัตโนมัติช้าลง
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 2
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะพลัดตกหกล้มหรืออุบัติเหตุเนื่องจากการมองเห็นลดลง
0: ตรวจร่างกายพบลานสายตาแคบกล้ามเนื้อลูกตาเสื่อมความไวในการมองภาพลดลง
S: มองเห็นภาพไม่ชัดเวลาขับรถหรือช่วงกลางคืน
เป้าหมายการพยาบาล : ปลอดภัยจากอุบัติเหตุภายในบ้านการพลัดตกหกล้มหรือรถยนต์
เกณฑ์การประเมินผล : ไม่มีอุบัติเหตุพลัดตกหกล้มหรือรถยนต์, สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินการมองเห็นผู้สูงอายุจะมีรูม่านตาขนาดเล็กลงปฏิกิริยาต่อแสงลดลงแยกสีได้ยากขึ้นมองเห็นภาพระยะใกล้ไม่ชัดดังนั้นจะต้องมีการประเมินการมองเห็นของผู้สูงอายุโดยการประเมินการมองเห็นสามารถใช้เครื่องมือในการประเมินทั่วไปคือ snellen chart / E-chart
ประเมินความเสี่ยงต่อการหกล้มซึ่งเป็นการประเมินที่สำคัญเพื่อที่จะใช้เป็นตัวคัดกรองว่าผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการหกล้มหรือไม่โดยเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินความเสี่ยงเช่นเครื่องมือประเมินความเสี่ยงต่อการหกล้มสำหรับผู้สูงอายุไทยในชุมชน (Thai-FRAT) ประกอบด้วย 6 ปัจจัย ได้แก่ ประวัติการหกล้มการทรงตัวบกพร่องเพศหญิงการใช้ยาบางประเภทการมองเห็นบกพร่องและการอาศัยอยู่ในบ้านทรงไทยมีคะแนนอยู่ในช่วง 0-11 คะแนนถ้ามีคะแนนอยู่ในช่วง 4-11 คะแนนแสดงว่ามีความเสี่ยงต่อการหกล้มโดยในการทดสอบคุณภาพของเครื่องมือจะพบว่าเครื่องมือนี้สามารถทำนายการหกล้มที่เกิดขึ้นภายใน 6 เดือนหลังจากติดตามกลุ่มตัวอย่างเป็นระยะเวลา 2 ปี 22
ปรับโดยเริ่มจากพื้นบ้านที่จะต้องปรับพื้นลื่นให้มีความหยาบเพื่อป้องกันการลื่นล้มและมีสัญลักษณ์แสดงพื้นต่างระดับโดยสีของสัญลักษณ์จะต้องเป็นสีที่ผู้สูงอายุมองเห็นชัดเจนคือสีแดงเขียวเหลืองจัดบ้านและอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้านให้เป็นระเบียบไม่กีดขวางทางเดินโดยเฉพาะบันไดมีแสงสว่างเพียงพอโดยเฉพาะบริเวณที่ผู้สูงอายุต้องใช้และอาจปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการทำกิจกรรมให้ช้าลงหรือถ้าไม่ได้อาจจะต้องจัดให้มีแสงสว่างบริเวณที่ผู้สูงอายุทำกิจกรรม
2.1.3 ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูกจำนวนและขนาดเส้นใยของกล้ามเนื้อลดลงกำลังการหดตัวของกล้ามเนื้อลดลงการเคลื่อนไหวในลักษณะต่างๆไม่คล่องตัวกระดูกมีน้ำหนักลดลงเพราะแคลเซียมสลายออกจากกระดูกมากขึ้นทำให้กระดูกเปราะและหักง่าย
2.1.4 ระบบการไหลเวียนเลือด
ระบบการไหลเวียนเลือดขนาดของหัวใจอาจโตขึ้นผนังหัวใจห้องล่างซ้ายหนาขึ้นลิ้นหัวใจแข็งและหนาขึ้นมีแคลเซียมมาเกาะมากขึ้นทำให้เกิดภาวะลิ้นหัวใจรั่วและตีบได้ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจลดลงกำลังการหดตัวและอัตราการเต้นของหัวใจลดลง
2.1.5 ระบบทางเดินหายใจ
ความยืดหยุ่นของเนื้อปอดลดลงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจลดลงผนังทรวงอกแข็งขึ้นขยายตัวได้น้อยลงเยื่อหุ้มปอดแห้งการขยายและการหดตัวของปอดลดลงทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 3
อาจเกิดภาวะร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอเนื่องจากประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและปอดลดลงจากร่างกายเสื่อมสภาพ
เป้าหมายการพยาบาล : ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ
เกณฑ์การประเมินผล
สัญญาณชีพปกติโดยเฉพาะชีพจรอยู่ในช่วงระหว่าง 60-80 ครั้ง / นาทีคลำได้ชัดเจนสม่ำเสมอฟังเสียงหัวใจไม่มี murmur
ระดับออกซิเจนในเลือดเท่ากับร้อยละ 95 โดยไม่ได้ให้ออกซิเจน
อัตราการหายใจ 16 – 20 ครั้ง / นาที 4. เลือดไปเลี้ยงบริเวณอวัยวะส่วนปลายได้ดี Capillary refill time ไม่เกิน 2 วินาที
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินสภาพการทำงานของหัวใจโดยการตรวจหาเสียงการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติเช่น murmur ติดตามการทำงานของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG
สังเกตอาการที่แสดงว่าเลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ ได้แก่ หน้ามืดเป็นลมใจสั่นเหนื่อยง่าย
ดูแลการพักผ่อนอย่างเพียงพอโดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมจัดท่าให้ผู้สูงอายุนอนศีรษะสูงหรือท่า Fowler เพื่อให้กระบังลมหย่อนตัวและปอดสามารถจะขยายตัวได้ดี
ฝึกการหายใจแบบ deep breathing excercise โดยการกระตุ้นการหายใจลึก ๆ ยาว ๆ เพื่อส่งเสริมให้ปอดขยายตัวได้มากที่สุดส่งผลให้การแลกเปลี่ยนก๊าซดีขึ้น
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนตามแผนการรักษาหากมี O2 sat น้อยกว่า 95%
วัดความดันโลหิตในท่านั่งและท่านอนไม่ควรแตกต่างกันเกิน 10 มม. ปรอทและก่อนวัดความดันโลหิตไม่ควรดื่มกาแฟหรือสูบบุหรี่
บันทึกปริมาณน้ำดื่มและน้ำปัสสาวะในรอบ 24 ชั่วโมงเพื่อดูสมดุลน้ำและอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย
8.ชั่งน้ำหนักทุกวันเพื่อประเมินภาวะบวม
ประเมินลักษณะผิวหนังบริเวณส่วนปลายเช่นเขียวคล้ำคลำชีพจรในส่วนที่ต่ำกว่าว่ามีการตีบตันอุณหภูมิร่างกายมีลักษณะเย็น 10. การรับประทานอาหารสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือด ได้แก่ อาหารอ่อนย่อยง่ายรสจืดไขมันน้อยมีเส้นใยอาหารควรรับประทานทีละน้อย แต่บ่อยครั้งหลีกเลี่ยงอาหารที่มีก๊าซเช่นถั่วกะหล่ำปลีน้ำอัดลมเพราะจะทำให้หายใจไม่สะดวกและหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมมากเช่นแฮมเบคอนอาหารตากแห้งเป็นต้น
2.1.6 ระบบทางเดินอาหาร
ระบบทางเดินอาหารฟันของผู้สูงอายุเคลือบฟันจะมีสีคล้ำขึ้นและบางลงแตกงายเหงือกหุ้มคอฟนรนลงไปเซลล์สร้างฟันลดลงฟันผุง่ายขึ้นส่วนใหญ่ของผู้สูงอายุจึงไม่ค่อยมีฟันต้องใส่ฟันปลอมทำให้การเคี้ยวอาหารไม่สะดวกต้องรับประทานอาหารอ่อนและย่อยง่ายทำให้เกิดภาวะขาดอาหาร
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 1
เสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการเนื่องจากการทำงานของระบบทางเดินอาหารลดลง
0: ตรวจพบฟัน 5 ซี่ขย้อนอาหารหรือสำลักอาหารบ่อยๆใช้แบบประเมิน MNA พบคะแนนมีความเสี่ยงต่อการเกิดทุพโภชนาการ
S : ผู้สูงอายุบ่นว่า“ รู้สึกอยากอาหารลดลง”“ ฟันไม่มีเคี้ยวอาหารลำบาก”“ รับประทานอาหารไม่อร่อย”
เป้าหมายการพยาบาล : ไม่เกิดภาวะทุพโภชนาการ
เกณฑ์การประเมินผล :
มีฟันเคี้ยวอาหารได้ไม่มีอาการขย้อนอาหารสำลักอาหาร
BMI อยู่ในเกณฑ์ปกติ 18.5-24.9
Albumin ในร่างกายอยู่ในค่าปกติ 3.5 – 5 g / dL
กิจกรรมการพยาบาล
เลือกอาหารที่ผู้สูงอายุพอรับประทานได้กลิ่น / รสไม่จัดเช่นขนมปังกรอบให้เป็นอาหารว่าง
เครื่องดื่มควรเป็นชนิดให้พลังงานเช่นนมน้ำเต้าหู้น้ำผลไม้น้ำหวานหลีกเลี่ยงอาหารมันและทอดแบ่งมื้ออาหารเป็น 5-6 มื้อโดยเพิ่มมื้อสายและเย็น
เตรียมอาหารให้สุกอ่อนนุ่มเช่นนั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นึ่งหรือตุ้นผักหรือผลไม้อาจปั่นบดให้ละเอียดหลีกเลี่ยงอาหารแห้งเช่นข้าวเหนียวขนมปังกรอบให้อาหารเสริมทางการแพทย์หรือไอศครีม
กรณีที่มีภาวะปากแห้งลิ้นแห้งเลือกอาหารอ่อนเช่นโจ๊กข้าวต้มหลีกเลี่ยงอาหารแห้งใช้น้ำเกลือกลั้วปากและคอ
2.1.7 ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์
น้ำหนักและขนาดของไตลดลง การไหลเวียนเลือดในไตลดลงอัตราการกรองของไตลดลง ขนาดของกระเพาะปัสสาวะลดลงกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะอ่อนกำลังลง
2.1.8 ระบบต่อมไร้ท่อ
ต่อมไทรอยด์มีพังผืดมาจับสะสมอยู่มากทำให้การทำงานของต่อมลดลงทำงานของฮอร์โมนจะเพิ่มขึ้นในวัยสูงอายุเพราะระดับเอสโตรเจนซึ่งออกฤทธิ์ต้านการทำงานของฮอร์โมนพาราธัยรอยด์มีระดับลดลงส่วนตับอ่อนมีการหลั่งอินซูลินลดลงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกายมีการตอบสนองต่ออินซูลินลดน้อยลงเป็นผลทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดผู้สูงอายุสูงขึ้น
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 4
อาจเกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงเนื่องจากการตอบสนองระหว่างจากประสิทธิภาพการทำงานของตับอ่อนและตัวรับอินซูลินมีประสิทธิภาพลดลง
เป้าหมายการพยาบาล : ไม่เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและภาวะแทรกซ้อนเช่นช้อคแผลหายช้า
เกณฑ์การประเมินผล
ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ระหว่าง 90 – 110 mg%
ประเมินพฤติกรรมในการจัดการตนเองเกี่ยวกับโรคเบาหวาน
ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน
กิจกรรมการพยาบาล
สังเกตอาการระดับน้ำตาลในเลือดสูง ได้แก่ เหงื่อออกตัวเย็นสับสนระดับการรู้สึกตัวลดลงแนะนำผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มีกากใยน้อย แต่ควรรับประทานอาหารเช่นข้าวกล้องขนมปังที่มีธัญพืช จำกัด ผลไม้รสหวานเช่นทุเรียนลำไยรับประทานอาหารให้ตรงเวลา
แนะนำผู้สูงอายุเกี่ยวกับการบริหารยาลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด
3.แนะนำเกี่ยวกับการดูแลเท้าและการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจทำให้เกิดบาดแผล
4.แนะนำให้ผู้สูงอายุมาตรวจร่างกายและระดับน้ำตาลในเลือดตามแพทย์นัด
2.2 การเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจ
การเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจที่สำคัญของผู้สูงอายุ คือ อารมณ์ ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ พฤติกรรม และการปรับตัวของผู้สูงอายุ โดยมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ปัจจัยภายนอกหรือสิ่งแวดล้อม เช่น การสูญเสียคนรัก การเปลี่ยนแปลงทางสังคม ปัจจัยภายใน เช่น บุคลิกภาพส่วนตัวโรคประจำตัวหรือการเจ็บป่วย การเปลี่ยนแปลงอายุประสบการณ์สูญเสียทางร่างกายและการเข้าใกล้ความตาย ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผู้สูงอายุเกิดผลกระทบต่ออารมณ์ ได้แก่ เกิดความเศร้าโศกรู้สึกผิดรู้สึกโดดเดี่ยว ซึมเศร้าวิตกกังวล รู้สึกอ่อนแอและขาดคนช่วยเหลือและเกิดความรุนแรงทางอารมณ์ ซึ่งนำมาสู่การเกิดปัญหาภาวะทางอารมณ์ที่สำคัญ คือ ภาวะซึมเศร้า
2.3 การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม
การเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ในชีวิตที่เกิดขึ้นทำให้ผู้สูงอายุเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม ซึ่งอาจมีผลทำให้ผู้สูงอายุค่อย ๆ ถดถอยออกจากสังคม เนื่องจากต้องการลดบทบาทของตนเองให้น้อยลง หรืออาจจะเกิดจากแรงกดดันจากสังคม การสูญเสียคู่ชีวิต การเกษียณอายุ งานที่ลดลง การเข้าร่วมกิจกรรมหรือการถอยห่างออกจากกิจกรรมของผู้สูงอายุ จะได้รับอิทธิพลมาจากการดำรงชีวิตในอดีต และภาวะเศรษฐกิจสังคมมากกว่าปัจจัยภายในหรือจากสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตามแนวคิดของทฤษฎีการถดถอยจากสังคม แต่อย่างไรก็ตามผู้สูงอายุจะมีความสุขมากถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิม และพบว่าผู้สูงอายุจะพอใจมากถ้าได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีและยังได้รับการยอมรับจากบุคคลอื่นเหมือนเดิม