Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การรักษาพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉินที่พบบ่อยทางอายุรกรรม, จุฑาภณ์ นครไพร…
การรักษาพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉินที่พบบ่อยทางอายุรกรรม
หมดสติ เป็นลม ชัก ช็อก
หมดสติ (Unconscious) หมายถึงภาวะที่ร่างกายไม่รับรู้หรือตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่สมองส่วนกลางหรือส่วนทาลามัสถูกทำลาย
ประเภทของการหมดสติ
หมดสติ แต่มีการหายใจ
หมดสติพร้อมกับหายใจขัดหรือหยุดหายใจ
การตรวจผู้ป่วยหมดสติหรือหมดความ
รู้สึก
การตรวจลูกตา : ใช้สำลี/ ชายผ้าเขี่ยที่ตาขาวหรือขนตา
ตรวจดูลักษณะและขนาดรูม่านตาม่านตาหดเล็กลงเท่ากัน หมดสติขั้นไม่รุนแรงม่านตาไม่หดเลย หมดสติขั้นรุนแรง ม่านตา 2 ข้างขนาดไม่เท่ากัน ก้อนเลือดออกในสมอง
การประเมิน GCS
การช่วยเหลือและการรักษาพยาบาล
เบื้องต้น
ประเมินหาสาเหตุของการหมดสติ เช่น
ตรวจระดับน้ำตาล < 70 mg/dl ให้ 50%
glucose IV. หมดสติร่วมกับกินสารพิษ
ภายใน 1 ชั่วโมง สวนล้างท้องด้วย NSS500 ml. (ยกเว้นมีข้อห้าม)
ให้ออกซิเจน และสารน้ำตามข้อบ่งชี้
จัดท่านอนตะแคงกึ่งคว่ำ
งดน้ำและอาหารทางปาก
คลายเสื้อผ้า และสิ่งรัดตัวให้หลวม
ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
ส่งต่อสถานพยาบาลที่มีความพร้อม
ช็อค (Shock)
คือสภาวะที่มีการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายไม่เพียงพอ (inadequate tissue perfusion)ทำให้การนำสารต่างๆที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของ cell และการกำจัดของเสียออกจาก cell ไม่เพียงพอ ทำให้ cell ถูกทำลายและตายไป ถ้าทิ้งไว้นานอวัยวะต่างๆในร่างกายจะเป็นอันตรายและผู้ป่วยจะเสียชีวิตได้
สาเหตุหลักของภาวะช็อค
ภาวะที่มี poor tissueperfusion ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะกล่าวคือ 1) ภาวะที่เกิดจาก low perfusionpressure
2) ภาวะที่เกิดจาก low cellularoxygen
1) ภาวะที่เกิดจาก low perfusionpressure ขึ้นอยู่กับ MAP = CO x TPR CO = SV x HR
2) ภาวะที่เกิดจาก low cellular oxygenซึ่งขึ้นอยู่กับ - ปริมาณ hemoglobin ในร่างกาย
การใช้ออกซิเจนในระดับเซลล์(Oxygen consumption )
ภาวะช็อกจากการอุดกั้นนอกหัวใจ (Obstructive
Shock)
ภาวะช็อกจากโรคหัวใจ (Cardiogenic Shock)
ภาวะช็อกจากปริมาณเลือดลดลง (Distributive
Shock)
การจำแนกประเภทของช็อค
Hypovolemic shock
Septic shock
Cardiogenic shock
Neurogenic shock
Endocrinic shock
Anaphylactic shock
อาการ
กระสับกระส่าย ซีด
หนาว กระหายน้ำ อ่อนเพลีย
คลื่นไส้ อาเจียน
ชีพจรเบา เร็ว ความดันโลหิตตก
หายใจเร็วถี่ขึ้น ไม่สม่ำเสมอ
มือเท้าเย็น เหงื่อออก ปัสสาวะน้อย
หมดสติ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออาจเสียชีวิต
การช่วยเหลือและการรักษา
เบื้องต้น
ประเมินความรู้สึกตัว CABs ตรวจวัดสัญญาณชีพ
ให้ผู้ป่วยนอนราบและยกปลายเท้าสูงกว่าลำตัว 10-20 นิ้ว
ให้ออกซิเจนและให้ความอบอุ่น
ให้สารน้ำทดแทนทางหลอดเลือดดำ(isotonic solution) เช่น NSS หรือ LactatedRinger’s solution
ให้งดน้ำและอาหารทางปาก
ใส่สายสวนปัสสาวะค้างไว้เพื่อดูปริมาณปัสสาวะ
หาสาเหตุของอาการช็อกและแก้ไข
ชัก (Seizure)
Seizure
อาการที่มีการเปลี่ยนพฤติกรรมที่เกิดขึ้นชั่วขณะเนื่องจากมีความผิดปกติในสมอง แบ่งเป็นConvulsive (มีกล้ามเนื้อเกร็งหรือกระตุก) และNon-convulsive seizure (ไม่มีกล้ามเนื้อเกร็งหรือกระตุก)
Epilepsy
หมายถึงโรคลมชัก คือ Seizureเกิดซ้ำตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป
Convulsion
คืออาการที่มีการหดตัวของกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นนอกเหนืออำนาจจิตใจ ซึ่งแสดงออกแบบเกร็ง(tonic) หรือกระตุก(clonic) ก็ได้
Status epilepticus
คืออาการชักตั้งแต่ 2 ครั้งติดกันในเวลาอันสั้น ระหว่างหยุดชักผู้ป่วยไม่ฟื้นคืนสติ หรือชักต่อเนื่องนานเกิน 30 นาที
สาเหตุของการชัก
ไม่ทราบสาเหตุ
รอยโรคของสมองโดยตรง
ความผิดปกติทางชีวเคมี
เหตุกระตุ้นให้เกิดอาการชัก
อาการเหน็ดเหนื่อยทางร่างกาย อดนอน
ความเครียดทางอารมณ์และร่างกายดื่มน้ำมากเกินไป ท้องผูก
กินยากระตุ้นประสาท การหยุดยากดประสาททันทีทันใด
สิ่งแวดล้อมบางอย่าง
หายใจหอบซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีของเซลล์ประสาท ก็ทำให้เกิดอาการชักได้
ชนิดของการชัก
การชักบางส่วน (Focal or Partial Seizure)
เป็นอาการชักที่เกิดขึ้นเฉพาะที่ไม่มีอาการหมดสติ แต่อาการแสดงออก ทางการเคลื่อนไหวผิดปกติ
อาการชักทั่วไป (Generalized seizure)
ระยะมีอาการเตือน (aura) เช่น การได้กลิ่นแปลกๆ มองเห็นภาพผิดปกติ
ระยะที่ 2 หมดสติทันทีทันใดแล้วมีอาการเกร็ง(Tonic phase) ของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายทันที ถ้าผู้ป่วยยืนหรือนั่งอยู่จะล้มลงและร้อง อาจหยุดหายใจ
ระยะที่ 3 ชัก (Clonic phase) มีกล้ามเนื้อกระตุกเป็นจังหวะ(กระตุก แล้วก็คลาย) ที่แขนขา กลั้นปัสสาวะ อุจจาระไม่อยู่ อาจกัดริมฝีปาก ลิ้น หายใจกระตุก
การช่วยเหลือและการรักษา
เบื้องต้น
ประเมินความรู้สึกตัว CABs
ดูแลระบบหายใจ ให้ออกซิเจน ทำทางเดินหายใจให้โล่ง ป้องกันสิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ ถ้ามีเสมหะ เศษอาหาร หรือฟันปลอมให้เอาออก (ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ในการกดลิ้น)
นอนในที่ปลอดภัย นอนตะแคงหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อป้องกันการสูดสำลักและลิ้นตกอุดทางเดินหายใจ
การรักษา
-ขณะชักให้ Diazepam (Valium) 10 มก.เข้าเส้นช้าๆ เนื่องจากยานี้กดการหายใจ ต้องสังเกตจังหวะและอัตราการหายใจอย่างใกล้ชิด
ให้ Phenytoin (Dilantin) 500 ม.ก. หยดให้ทางเส้นเลือดดำช้าๆ นาทีละ 50 ม.ก. ยานี้กดการเต้นของหัวใจจึงต้องสังเกตการเต้นของหัวใจด้วย
-ให้ Phenobarb ขนาด 15-50 ม.ก. (เด็ก) และ50-100 ม.ก. (ผู้ใหญ่) กินวันละ 2-3 ครั้ง เพื่อควบคุมอาการชักในระยะยาว ยานี้ใช้ได้ผลดี
จุฑาภณ์ นครไพร 611410066-1