Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ - Coggle Diagram
การพยาบาลเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ
วิธีการแพร่กระจายเชื้อ
CommonVehicle transmossion เป็นการแพร่กระจายเชื้อ จากการมีเชื้อปนเปื้อนในเลือด อาหาร ยา น้ำ
Air bone transmission เป็นการแพร่กระจายโดยการสูดหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในอากาศเข้าไป
Vectorborne transmossion เป็นการแพร่เชื้อโดยแมลง หรือสัตว์นำโรค
Contact transmission
1.Direct contact แพร่เชื้อจากคนสู่คน (person-to-person spread)
2.Indirect contact เป็นการสัมผัสสิ่งของ อุปกรณ์การแพทย์ที่มีการปนเปื้อนอยู่เข้าร่างกายโดยผ่านตัวกลาง
3.Droplet spread เกิดจากการสัมผัสกับละอองน้ำลาย น้ำมูก
การทำความสะอาดเครื่องมือเครื่องใช้
การล้าง (Cleansing)
เป็นขั้นแรกที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำลายเชื้อในขั้นต่อไป
ช่วยลดอันตรายในการหยิบจับอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่เป็นเบื้องต้นก่อนจะนำไปทำลายเชื้อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
เพื่อลดจำนวนเชื้อโรคบนเครื่องมือให้เหลือปริมาณน้อยที่สุดช่วย
การต้ม (Boiling)
การต้มเป็นวิธีการทำลายเชื้อที่ดี ง่าย ประหยัด และมีประสิทธิภาพดี การต้มเดือดนาน10 นาที จะสามารถทำลายเชื้อได้ยกเว้นสปอร์
แต่สาหรับเชื้อโรคที่อันตราย เช่น ไวรัส HIV องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ต้มเดือดนาน20 นาที เพื่อให้มั่นใจ ดังนั้นการต้มเดือดที่มีประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ ควรจะต้มเดือดนาน20 นาทีขึ้นไปและน้ำต้องท่วมของที่ต้องการต้ม
เครื่องใช้ที่ไม่ควรต้มได้แก่ เครื่องใช้ที่ทำมาจากยาง และของมีคมเพราะจะทำให้เสื่อมคุณภาพและเสียคม
หลักสาคัญในการต้ม
น้ำต้องท่วมของทุกชิ้นอย่างน้อย 1 นิ้ว
เครื่องมือเครื่องใช้ที่มีน้ำหนักเบา ควรใช้ของที่มีน้ำหนักทับเพื่อให้จมอยู่ใต้น้ำ
ในขณะต้มต้องไม่เปิดฝาหม้อต้ม เพราะจะทำให้อุณหภูมิภายในหม้อต้มลดลง
น้ำยาที่ใช้ในการทำลายเชื้อ
แอลกอฮอล์ (Alcohols)
ทำลายเชื้อได้ดีแต่ไม่ทำลายสปอร์
อาจทำให้เครื่องมือโลหะเกิดสนิม
อัลดีฮัยด์ (Aldehydes)
ทำลายเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส รา ในเวลา 10 นาที
ราคาแพง
ระคายเคืองผิวหนัง
ฮาโลเจน (Halogens)
ทำลายเชื้อโรคได้ต่างกัน
ตามความเข้มข้นของน้ำยา
กลิ่นเหม็น โลหะเป็นสนิม ระเหยง่าย
ต้องเก็บในภาชนะทึบแสง
ฮัยโดเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide)
ทำลายเชื้อโรค และไวรัส
โดยใช้ Hydrogen peroxide 6% 30 นาที
ไดกัวไนด์ (Diguanide)
สารที่ใช้คือ chlorhexidine
ถ้าความเข้มข้นต่ำกว่า 0.2% ไม่สามารถทำลายเเบคทีเรียแกรมบวก เชื้อไวรัสได้
น้ายาที่ฟีนอล
ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เชื้อวัณโรค
เชื้อรา ยกเว้นเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และสปอร์ของแบคทีเรีย
ไม่ควรใช้กับทารกแรกเกิด บริเวณที่เตรียมอาหาร
Quartemary
Ammonium Compounds (QACs)
มีฤทธิ์ทาลายเชื้อน้อย
การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
การติดเชื้อที่แพร่กระจายได้จากการสัมผัส
(Contact Precautions)
แยกผู้ป่วยไว้ในห้องแยกและปิดประตูทุกครั้ง
หลังเข้าหรือออกจากห้องผู้ป่วย
สวมถุงมือทุกครั้งเมื่อสัมผัสผู้ป่วยทั้งบุคลากรและญาติ
ล้างมือแบบ hygienic handwashing
หลังถอดถุงมือและก่อนออกจากห้องแยก
การติดเชื้อที่แพร่กระจายได้ทางละอองในอากาศ
(Droplet Precautions)
แยกผู้ป่วยไว้ในห้องแยกและปิดประตูทุกครั้งหลังเข้า
หรือออกจากห้องผู้ป่วย
ให้ผู้ป่วยใช้ผ้าหรือกระดาษปิดปาก-จมูกเวลาไอ จาม และใส่ผ้าปิดปาก จมูก ชนิดธรรมดาตลอดเวลา ยกเว้นเวลารับประทานอาหารและแปรงฟัน
สวมถุงมือชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง ทุกครั้งที่สัมผัสผู้ป่วย
ผู้ที่จะเข้าไปในห้องผู้ป่วยหรือดูแลผู้ป่วยต้องใส่ ผ้าปิดปาก-จมูก ชนิด N 95
การติดเชื้อที่แพร่กระจายทางอากาศ
(Airborne Precautions)
แยกผู้ป่วยไว้ในห้องแยกพิเศษ และปิดประตูทุกคครั้ง หลังเข้าหรือออกจากห้องผู้ป่วย
ล้างมือแบบ hygienic handwashing หลังถอดถุงมือและก่อนออกจากห้องแยก
สวมถุงมือชนิดใช้ครั้ง เดียวทิ้ง ทุกครั้งที่สัมผัสผู้ป่วย
ถ้าต้องมีความจาเป็นในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกนอก ห้องให้ผู้ป่วยใส่ผ้าปิดปาก-จมูกชนิดธรรมดา
การทำให้ปราศจากเชื้อ
วิธีทางกายภาพ
Radiation
เป็นการใช้แสงอัลตราไวโอเลตสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และไวรัสบางชนิด แต่ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสเอดส์
เชื้อวัณโรคเมื่อถูกแสงแดดจะถูกทำลายภายใน 1-2 ชั่วโมง
Dry heat or hot air sterilization
การใช้ Hot air ovenสามารถทาลายเชื้อโดยใช้ความร้อนแห้งที่อุณหภูมิ 165-170 องศาเซลเซียส ระยะเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
การใช้ความร้อนแห้งนี้เหมาะสาหรับเครื่องมือเครื่องใช้ที่เป็นของมีคม ไม่ทำให้ของเสียคม ใช้สาหรับเครื่องแก้วที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ
ไม่เหมาะที่จะให้กับเครื่องผ้าและยาง
Steam under pressure
เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เชื่อถือได้ และประหยัดค่าใช้จ่ายในการฆ่าเชื้อ
ไม่เหมาะสาหรับเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทนความร้อนสูงไม่ได้อุณหภูมิที่ใช้ในการทำให้ปราศจากเชื้ออยู่ระหว่าง 121-123 องศาเซลเซียส ภายใต้ความดัน 15-17 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว โดยใช้เวลานาน 15-45 นาที
วิธีทางเคมี
การใช้ก๊าซ Ethylene oxide
มีคุณสมบัติทำลายเชื้อสูง สามารถทำลายได้ทั้งไวรัส แบคทีเรียรวมทั้งสปอร์ของแบคทีเรีย
เหมาะกับเครื่องมือเครื่องใช้ที่ไม่สามารถทนความร้อนและความชื้นได้ เช่นพลาสติกโพลีแอทธีลิน
ประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเครื่องมือเครื่องใช้อบก๊าซไว้ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส นาน 3 ชั่วโมง
การใช้ 2 % Glutaradehyde
Cidexเป็นสารเคมีที่ใช้มากที่สุดมีประสิทธิภาพมากในการทาลายเชื้อและสปอร์ของแบคทีเรีย เป็นสารที่ไม่ทำลายยางหรือพลาสติก
เช่น เครื่องมือที่มีเลนส์ เครื่องมือทางทันตกรรม เครื่องช่วยหายใจ และเครื่องมือที่มีคม
การใช้ Peracetic acid
เป็นส่วนผสมระหว่าง acetic acid กับ hydrogen peroxide มีคุณสมบัติในการกัดกร่อนสูง
ต้องใช้เวลารวดเร็วคือ 35-40 นาที ที่อุณหภูมิ 50-55 องศาเซลเซียส
จะต้องล้างน้ำยาออกให้หมดและทำให้แห้งด้วยความระมัดระวังเพื่อให้เครื่องมือเครื่องใช้นั้นเกิดการปนเปื้อน
การปฏิบัติในการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ
การล้างมือ (Hand)
การล้างมือแบบธรรมดา(Normal NormalหรือSocial hand washing)
เป็นการล้างมือเพื่อสุขภาพอนามัยทั่วไป เช่น เมื่อมือเปื้อนหรือก่อนสัมผัสผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันตje
ล้างด้วยสบู่ก้อนหรือสบู่เหลว ใช้เวลาในการฟอกมืออย่างน้อย15 วินาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล(Alcohol hand
ในกรณีรีบด่วน ไม่สะดวกในการล้างมือด้วยน้า และมือไม่ปนเปื้อนสิ่งสกปรกให้ทำความสะอาดมือด้วย แอลกอฮอล์เจล 70% ถูให้ทั่วมือทุกซอกทุกมุมจนน้ำยาแห้งใช้เวลาประมาณ 15-25วินาที
การใส่ถุงมือ (Glove)
ถุงมือปลอดเชื้อ (Sterile)
ทำหัตถการต่างๆ เช่นการผ่าตัด
ป้องกันการติดเชื้อไปยังผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
หยิบจับของปลอดเชื้อ
ถุงมือสะอาดหรือชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Disposable gloves)
ป้องกันสิ่งสกปรกสัมผัสมือ เช่น เมื่อมีโอกาสสัมผัสเลือด สารคัดหลั่ง อุจจาระ
เมื่อต้องการเคลื่อนย้ายเครื่องมือเครื่องใช้ของผู้ป่วยที่ผ่านการใช้งานแล้วหรือระหว่างให้การพยาบาล
การใช้ผ้าปิดปาก จมูก (Mask)
ช่วยป้องกันการได้รับเชื้อโรคจากผู้ป่วยเข้าสู่ทางเดินหายใจ และเป็นการป้องกันผู้ป่วยได้รับเชื้อจากผู้อื่นเข้าสู่ทางเดินหายใจตลอดจนสามารถป้องกันฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศได้ด้วย
ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังใช้
หากเป็นชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้งให้หันขอบที่มีลวดไว้ด้านบน ควรสวมให้กระชับใบหน้า
หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสผ้าปิดปากและจมูกขณะที่สวมใส่
การใส่เสื้อกาวน์ (Gown)
ช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ เสื้อกาวน์ โดยทั่วไปจะเปิดด้านหลังและมีเชือกสาหรับผูกที่คอและเอว เสื้อควรจะใหญ่และยาวเล็กน้อยเพียงพอที่จะคลุมชุดเครื่องแบบได้มิดชิด แขนยาว ควรเปลี่ยนเสื้อกาวน์ทุกเวร
การแยกผู้ป่วยจำแนกออกเป็น 7แบบ
การแยกผู้ป่วยในรายที่เป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินอาหาร
การแยกผู้ป่วยในรายที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง
การแยกผู้ป่วยในรายที่สงสัยว่าจะเป็นโรคติดต่อ
การแยกผู้ป่วยในรายที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงและติดต่อง่าย
การแยกผู้ป่วยในรายที่เป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ
การแยกผู้ป่วยในรายที่เป็นโรคติดต่อทางบาดแผลและผิวหนัง
การแยกผู้ป่วยในรายที่เป็นโรคติดต่อทางเลือด และน้าเหลือง
ภาวะปลอดเชื้อและเทคนิคปลอดเชื้อ
เทคนิคปลอดเชื้อ (Aseptic technique)
การกีดกั้นเชื้อชนิดไม่เคร่งครัด (Medical as epsis)
เทคนิคการทาให้สะอาด(Clean technique)
การแยกผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่อด้วยวิธีการแยกเฉพาะ (Isolation technique)
การกีดกั้นเชื้อชนิดเคร่งครัด (Surgical asepsis)
การใช้ปากคีบที่ทำให้ไร้เชื้อหยิบเครื่องมือเครื่องใช้ที่สะอาดปราศจากเชื้อ
เทคนิคการทำให้สะอาด การใส่ถุงมือ เสื้อคลุมที่นึ่งแล้ว
เทคนิคปราศจากเชื้อ (Sterile technique)
เครื่องมือเครื่องใช้ปราศจากเชื้อ (sterile)