Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 1 มโนทัศเกี่ยวกับการพยาบาลผู้สูงอายุ - Coggle Diagram
บทที่ 1
มโนทัศเกี่ยวกับการพยาบาลผู้สูงอายุ
ความหมายผู้สูงอายุ
• ในการประชุมสมัชชาโลกเรื่องผู้สูงอายุที่กรุงเวียนนากำหนดว่าผู้สูงอายุหมายถึงผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปทั้งชายและหญิง
• องค์การอนามัยโลก WHO ให้ความหมายว่า ผู้สูงอายุหมายถึง ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
• ประเทศไทยให้ความหมายเช่นเดียวกับการประชุมสมัชชาโลกที่กรุงเวียนนา คือ ผู้สูงอายุ หมายถึงผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีสัญชาติไทย (พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546) อีกทั้งยังกำหนดให้เป็นเกณฑ์ในการเกษียณอายุของข้าราชการไทย
• ประเทศสหรัฐอเมริกาให้ความหมายว่า ผู้สูงอายุ หมายถึง ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
ประเภทของผู้สูงอายุ
1.ฮอลล์ (Hall, 1976) ได้แบ่งการสูงอายุของบุคคล
ออกเป็น 4 ประเภท คือ
1) การสูงอายุตามวัย (Choronological Aging) หมายถึง
การสูงอายุตามปีปฏิทินโดยการนับจากปีที่เกิดเป็นต้นไป
2) การสูงอายุตามสภาพร่างกาย (Biological Aging)
เป็นการพิจารณาการสูงอายุจากสภาพร่างกายและสรีระของบุคคลที่เปลี่ยนไปเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้นการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายลดน้อยลงเป็นผลมาจากความเสื่อมโทรมซึ่งเป็นไปตามอายุขัยของแต่ละบุคคล
3) การสูงอายุตามสภาพจิตใจ (Psychological Aging)
เป็นการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่การรับรู้แนวความคิดความจำการเรียนรู้เชาว์ปัญญาและลักษณะบุคลิกภาพ
4) การสูงอายุตามสภาพสังคม (Sociological Aging)
เป็นการเปลี่ยนแปลงในบทบาทหน้าที่สถานภาพของบุคคลในระบบสังคม
American nurse association
ผู้สูงอายุวัยต้น (young old) อายุ 65 – 74 ปี
ผู้สูงอายุวัยกลาง (old-old) อายุ 75 – 84 ปี
ผู้สูงอายุวัยปลาย (the very old) อายุ 85 ปีขึ้นไป
สถาบันเวชศาสตร์ผู้สูงอายุไทย
วัยสูงอายุตอนต้น (young old) อายุ 60-69 ปี
วัยสูงอายุตอนกลาง (medium old) อายุ 70-79 ปี
วัยสูงอายุมาก (old-old) อายุ 80 ปีหรือมากกว่า
2.องค์การอนามัยโลก (WHO)
ผู้สูงอายุ (Elderly) มีอายุระหว่าง 60 -74 ปี
คนชรา (Old) มีอายุระหว่าง 75 -90 ปี
คนชรามาก (Very Old) มีอายุ 90 ปีขึ้นไป
นักวิชาการบางท่านจึงใช้เกณฑ์ความสามารถของผู้สูงอายุแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1) กลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองได้ดี
2) กลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองได้บ้าง
3) กลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพมีความพิการ
แบ่งกลุ่มผู้สูงอายุตามการจำแนกความช่วยเหลือที่สังคมควรจัดให้กับผู้สูงอายุ
1) กลุ่มติดสังคมคือกลุ่มที่ช่วยเหลือตัวเองได้ช่วยเหลือผู้อื่นและสังคมชุมชนได้
2) กลุ่มติดบ้านคือกลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองได้อาจมีโรคเรื้อรังพึ่งพาตนเองได้บ้างอยู่ในบ้านทำกิจวัตรประจำวันได้ไม่สามารถไปมาได้อิสระออกนอกบ้านจึงต้องพึ่งพา
3) กลุ่มติดเตียงกลุ่มที่ช่วยตนเองไม่ได้เจ็บป่วยพิการหรือทุพพลภาพ
การจัดแบ่งผู้สูงอายุตามการมีโรค (Miller, 2004; สถาบันเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ, 2548)
1) ผู้สูงอายุที่แข็งแรง (healthy elderly)
2) ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง (frailty หรือ frailelderly)
แบ่งตามมิติของการให้บริการสุขภาพ
(สถาบันเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ, 2548)
1) ผู้สูงอายุสุขภาพดี (healthy / well elderly)
อันรวมถึงผู้สูงอายุที่มีอิสระไม่ต้องพึ่งพา
2) ผู้สูงอายุมีโรคเรื้อรังและ / หรือมีภาวะทุพพลภาพ (disability elderly)
3) ผู้สูงอายุหง่อม / งอม / บอบบาง (frail elderly) อยู่กึ่งกลางผู้สูงอายุที่มีโรคและแข็งแรง
ระดับสังคมสูงอายุ
1.ระดับการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Ageing society)
สังคมมีสัดส่วนของประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 10% หรือ อายุ65 ปีขึ้นไปของประชากรโดยรวมทั้งประเทศ
2.ระดับสังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ (Complete Aged society)
สังคมที่มีสัดส่วนของประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% หรือประชากรอายุ 65 ปีมากกว่า 14% ของประชากรโดยรวมทั้งประเทศ
3.ระดับสังคมอุดมไปด้วยผู้สูงอายุ (Super-aged society)
สังคมที่มีสัดส่วนของประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ของประชากร
โดยรวมทั้งประเทศ
ผลกระทบ
การที่จำนวนประชากรวัยทำงานจะลดลง ส่งผลให้ผลผลิตรวมของประเทศลดลงคนวัยแรงงานต้องรับผิดชอบต่อภาระการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นส่งผลต่อการออมในระดับครัวเรือน
การลงทุน ทำให้ผลิตภาพของแรงงานโดยเฉลี่ย
ลดลง
สิ่งสำคัญที่สุดคือประเทศที่เข้าสู่สังครสูงอายุต้องประสบปัญหาค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขเพิ่มสูงขึ้น
การเปลี่ยนแปลงในองค์ประกอบของประชากร
1.องค์ประกอบด้านเพศหญิงสูงอายุมากกว่าชายสูงอายุโดยเฉพาะในกลุ่ม old-old D
2.องค์ประกอบด้านสถานภาพสมรส ผู้สูงอายุโสด หย่า แยก มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุหญิงจะโสด หย่า แยก มากกว่าผู้สูงอายุชาย
3.องค์ประกอบด้านการศึกษาผู้สูงอายุในอนาคตจะมีระดับการศึกษาสูงมากขึ้น
องค์ประกอบด้านบทบาทต่อสังคม ในอนาคตผู้สูงอายุ และครอบครัวต่างยังคงคาดหวังว่าผู้สูงอายุยังคงดำรงบทบาทหน้าที่ที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อสังคมและครอบครัว
เจตคติต่อการดูแลผู้สูงอายุ
1.Ageism ทัศนคติที่ไม่ดีต่อความชรา
2.ความกตัญญูกตเวทิตา
3.ความเชื่อในพุทธศาสนา (เกิด แก่ เจ็บ ตาย)
4.การเคารพในความเป็นบุคคลของผู้สูงอายุ
5.ยอมรับช่วงชีวิตนี้ของผู้สูงอายุ
6.มีความตั้งใจจริงที่จะจัดบริการให้
7.เอาใจใส่ต่อความผาสุกของผู้สูงอายุ
ระลึกเสมอว่าผู้สูงอายุบางคนพร้อมที่จะตายอย่าง สมศักดิ์ศรี
9.ยอบรับความสามารถและความจำกัดของผู้สูงอายุ
10.ศึกษาหาความรู้ ที่จะช่วยส่งเสริมให้ความสารถในการปฏิบัติต่อผู้สูงอายุ
บทบาทของพยาบาลในการดูแลผู้สูงอายุ
1.บทบาทผู้บำบัดรักษา (healer)
2.บบทบาทผู้ปฏิบัติ (implementer)
3.บทบาทผู้ให้การศึกษา (Educator)
4.บทบาทนักวิจัย (researcher)
5.บทบาทเป็นผู้ให้คำปรึกษา(consultant)
6.บทบาทผู้พิทักษ์สิทธิ์ (advocate)
7.บทบาทผู้คิดค้นสิ่งใหม่ (innovator)
บทบาทของผู้ดูแล
บทบาทผู้ดูแลหลัก
บทบาทผู้ดูแลรอง
3.บทบาทของ อผส.
บทบาทของครอบครัว
1.การให้การเกื้อหนุนในรูปแบบต่างๆ
2.ด้านร่างกาย
3.ด้านสังคม
4.ด้านจิตใจ
5.ด้านจิตวิญญาณ