Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคจากตะกั่ว (Disease caused by lead or its toxic compound) - Coggle…
โรคจากตะกั่ว (Disease caused by lead or its toxic compound)
ตะกั่วเป็นสารโลหะที่มีสีเทาอมเงิน ตะกั่วที่ใช้ในอุตสาหกรรมจะมีสองชนิด ตะกั่วอินทรีย์ และตะกั่วอนินทรีย์ ผู้ประกอบอาชีพและงานที่เสี่ยงต่อการได้รับพิษจากสารตะกั่วได้แก่ อุตสาหกรรมผลิต แบตเตอรี่ อุตสาหกรรมผลิตแก้ว อุตสาหรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ กระเบื้องและการทำเซรามิก
ตะกั่วสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทางคือ
2.การดูดซึมจากระบบทางเดินหายใจ
3.การดูดซึมทางผิวหนัง
การดูดซึมจากระบบทางเดินอาหาร
งานที่ประกอบอาชีพสัมผัสสารตะกั่ว
ได้แก่
๑. คนงานทำเหมืองตะกั่ว
๒. คนงานโรงงานถลุงแร่ตะกั่ว
๓. คนงานโรงงานอุตสาหกรรมผลิต ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์
๔. คนงานโรงงานผลิตแบตเตอรี่
๕. คนงานโรงงานผลิตสี
๖. คนงานโรงงานชุบโลหะ
๗. คนงานโรงงานทำเครื่องปั้นดินเผา/ เซรามิก
๘. คนงานโรงงานทำเครื่องประดับโลหะ
๙. คนงานโรงงานทำลูกปืน
๑๐. คนงานบัดกรีตะกั่ว
๑๑. คนงานเรียงพิมพ์ และหล่อตัวพิมพ์
๑๒. คนงานโรงงานผลิตและบรรจุสาร กำจัดศัตรูพืช
๑๓. คนงานทา หรือพ่นสีกันสนิม และ สีทาบ้าน
๑๔. คนงานโรงงานผลิตแก้ว
๑๕. คนงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับน้ำมัน เบนซินที่ผสมสารตะกั่ว (ตะกั่วอินทรีย์) เช่น เด็ก สถานีบริการน้ำมัน ช่างซ่อมเครื่องยนต์
๑๖. อาชีพอื่นๆ เช่น ตำรวจจราจร ฯลฯ
ปัจจัย/สาเหตุที่ทำให้เกิดโรค
ซึ่งมีผลมาจากการประกอบอาชีพ
จะมีการใช้ตะกั่วในวงการอุตสาหกรรม
แบ่งเป็น ๒ ประเภท
สารประกอบอนินทรีย์ตะกั่ว
โลหะตะกั่ว ใช้ผสมในแท่งโลหะผสม หรือผงเชื่อมบัดกรีโลหะ นำมาทำเป็นแผ่นหรือท่อโลหะ ใช้ในอุตสาหกรรมเคมี เพื่อป้องกันการกัดกร่อน แผ่นกรองในอุตสาหกรรมรถยนต์ ทำลูกปืน ฉากกั้นสารกัมมันตรังสี
ออกไซด์ของตะกั่ว
ได้แก่
ตะกั่วมอนอกไซด์ (Lead monoxide) ใช้ในอุตสาหกรรมสี โดยใช้เป็นสารสีเหลือง ผสมสีทาบ้าน
ตะกั่วไดออกไซด์ (Lead dioxide) ใช้ทำเป็นขั้วอิเล็กโทรดของแบตเตอรี่รถยนต์ และเครื่องจักร
ตะกั่วออกไซด์ หรือตะกั่วแดง (Lead red oxide) ใช้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ สีทาโลหะ เพื่อกันสนิม เครื่องแก้ว ยาง และเครื่องเคลือบ
สารประกอบของเกลือตะกั่ว คุณสมบัติมีสีต่างๆ กัน จึงนิยมใช้เป็นแม่สี หรือสีผสมใน อุตสาหกรรมสี
ได้แก่
ตะกั่วเหลือง (Lead cromate) ตะกั่วขาว (Lead carbonate)
ตะกั่วซัลเฟต (Lead sulfate) ใช้ใน อุตสาหกรรมสีและหมึกพิมพ์
ตะกั่วแอซิเตต (Lead acetate) ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ครีมใส่ผม
ตะกั่วซิลิเกต (Lead silicate) ใช้ในอุตสาหกรรมกระเบื้อง และเครื่องเคลือบเซรามิก เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีผิวเรียบ เงางาม
ตะกั่วไนเทรต (Lead nitrate) ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติกและยาง
ตะกั่วอาร์ซิเนต (Lead arsenate) ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตสารป้องกัน และกำจัดศัตรูพืช
สารประกอบอินทรีย์ของตะกั่ว
เททระเอทิลเบด (Tetraethyl lead) และเททระเมทิลเลด (Tetramethyl lead) โดยใช้เป็น "สารกันน็อก" หรือสารป้องกันการกระตุกของเครื่องยนต์เวลาทำงาน โดยใช้ผสมในน้ำมันเบนซิน เพื่อให้เชื้อเพลิงมีค่าออกเทนสูงขึ้น สารนี้มีสีแดง ดังนั้นน้ำมันชนิดพิเศษทั้งหลาย จึงมีสีแดง สารประกอบอินทรีย์ของตะกั่วค่อนข้างจะเป็นพิษมากกว่าตะกั่วอนินทรีย์ เนื่องจากสามารถแพร่กระจายในอากาศได้ดี สำหรับตะกั่วที่ออกมาจากท่อไอเสียรถยนต์ จะอยู่ในรูปของตะกั่วออกไซด์ชนิดต่างๆ ซึ่งจะเป็นตะกั่วอนินทรีย์ ปัจจุบันไม่ใช้ผสมในน้ำมันเบนซินแล้ว
แนวทางในการแก้ไขของปัญหาสุขภาพ
ได้แก่
๑. เปลี่ยนการใช้น้ำมันเบนซินมาเป็นชนิดไร้สารตะกั่ว
๒. ควบคุมการปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งกำหนดให้มีปริมาณสารตะกั่วในน้ำทิ้งจากโรงงานไม่มากกว่า ๐.๒ มิลลิกรัมต่อลิตร และกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำทิ้ง ต้องมีการทำลายอย่างถูกหลักวิชาการ
๓. ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับโรคพิษตะกั่ว และการป้องกัน
๔. ควบคุมไม่ให้มีการใช้สารประกอบตะกั่ว ในการผลิตอาหาร เครื่องดื่ม ยา และเครื่องสำอาง
๕. ใช้วัสดุ หรือสารอื่นทดแทนสารตะกั่ว เช่น ใช้ท่อพีวีซี (PVC) แทนท่อตะกั่ว หรือท่อโลหะอาบตะกั่ว
อัตราการชุก :
ปี 2514 มีรายงานพิษตะกั่วในเด็กที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านขอนบางครุ เขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้เปลือกหม้อแบตเตอรี่มาเป็นเชื้อเพลิงในการเคี่ยวนํ้าตาล และมีรายงานผู้ป่วยประปราย ในปี พ.ศ. 2533 มีรายงานผู้ป่วยพิษตะกั่วจากรายงานเฝ้าระวังโรคของกองระบาดวิทยาจำนวน 8 ราย จาก 4 จังหวัด คือ กรุง เทพมหานคร 4 ราย ตาก 2 ราย นครนายก 1 รายและนครปฐม 1 ราย โดยเป็นคนงาน 1 ราย ทำไร่ 2 ราย และเด็ก 5 ราย
อุบัติการณ์ของโรคพิษตะกั่วในประเทศไทยที่มีรายงานปรากฏเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2495 โดยนายแพทย์ใช้ ยูนิพันธ์ และมีรายงานผู้ป่วยโรคพิษตะกั่วมาตลอด พ.ศ. 2507 แพทย์หญิงเยาวลักษณ์ โลหารกุล และนายแพทย์ดนัย สนิทวงศ์ ได้รายงานผู้ป่วย 2 ครอบครัว ซึ่งมีอาชีพซ่อมแบตเตอรี่ และในปีเดียวกัน นายแพทย์มุกดา ตฤษณานนท์ และคณะ ได้รายงานผู้ป่วยพิษตะกั่ว 3 ราย มีอาชีพหล่อตัวพิมพ์ มีอาการปวดท้องรุงแรง
อาการ
อาการแบบเฉียบพลัน ได้แก่คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรงเป็นพัก ๆ ( colicky pain) ความคิดสับสน การทำงานของร่างกายไม่ประสานกัน มีอาการทางสมอง เช่นชัก หรือหมดสติ
อาการแบบเรื้อรัง เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง ( colicky pain ) น้ำหนัก ลดปวดตามกล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ ข้อมือตก (wrist drop) ข้อเท้าตก อาการทางระบบประสาท