Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงหรือแทรกซอ้นทางนริเวชกรรมและศัลยกรรม …
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงหรือแทรกซอ้นทางนริเวชกรรมและศัลยกรรม
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่ได้รับการผ่าตัด
การพยาบาลก่อนผ่าตัด
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก ทุก 1-2 ชั่วโมง
ประเมินสุขภาพทารกในครรภ์ด้วยการ On EFM
ฟัง FHS ทุก 1-2 ชั่วโมง
เตรียมผิวหนังบริเวณที่จะผ่าตัด
ดูแลให้งดอาหารและน้ําทางปาก
ดูแลให้ได้รับสารน้ําทางหลอดเลือดดําตามแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับการใส่สายสวนปัสสาวะ
การพยาบาลขณะผ่าตัด
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนตามแผนการรักษา
ประเมินสุขภาพทารกในครรภ์โดยการติดเครื่อง EFM ระหว่างการผ่าตัด
จัดท่าในการผ่าตัด หากเป็นไปได้ควรจัดท่านอนหงายศีรษะสูงเล็กน้อย กึ่งตะแคงซ้าย
การพยาบาลขณะอยู่โรงพยาบาล
ให้ความรู้เกี่ยวกับ กระบวนการและวิธีการผ่าตัด
เพื่อลดความกลัวเกี่ยวกับการสูญเสียบุตร
การดูแลหลังการผ่าตัด
เฝ้าระวังภาวะ preterm labor
ประเมินและบันทึก FHS โดยการติดเครื่อง EFM อย่างต่อเนื่อง
ให้การพยาบาลเหมือนผู้ป่วยหลังผ่าตัดทั่วไป
ดูแลให้ได้รับยา tocolysis
การประเมินทางการพยาบาล
การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การประเมินสุขภาพทารกในครรภ์ การฟังเสียง FHR
การตรวจร่างกาย
การประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
การซักประวัติ
การพยาบาลเมื่อจําหน่ายกลับบ้าน
ฝึกปฏิบัติอย่างใกลช้ ิด และถูกต้องก่อนกลับบ้าน โดยให้ครอบคลุมเกี่ยวกับ การดูแลแผลผ่าตัด การรับประทานอาหาร
การบาดเจ็บระหว่างการตั้งครรภ์ (Trauma during pregnancy)
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
เสี่ยงต่อการแท้ง มดลูกหดรัดตัวก่อนกําหนด คลอดก่อนกําหนด รกลอกตัว ก่อนกําหนด มดลูกแตก ทารกในครรภ์ได้รับบาดเจ็บ ทารกตายในครรภ์ ทารกตายคลอด
พยาธิวิทยา
การได้รับการบาดเจ็บที่ศีรษะของมารดา จะทําให้มีการฉีกขาดของหลอด เลือดดํา ซึ่งเป็นสาเหตุสําคัญของการตายของมารดาทําให้มีการเสียชีวิตของทารกในครรภ
การตกเลือดในช่องท้องและอวัยวะสืบพันธุ์
ชนิดของการบาดเจ็บที่พบระหว่างการตั้งครรภ์
อุบัติการณ์ของปัญหาความรุนแรงกับสตรีที่สูงขึ้น
อุบัติเหตุเกี่ยวกับยานยนต์ เช่น การเกิดรถชน มอเตอร์ไซด์ล้ม
อุบัติการณ์
พบร้อยละ 7 ของการตั้งครรภ์ และพบภาวะแทรกซ้อนคือการบาดเจ็บทางร่างกาย
ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis)
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์
เจ็บครรภ์คลอดก่อนกําหนด และคลอดก่อนกําหนด
การประเมินและการวินิจฉัย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตรวจพบเม็ดเลือดขาวสูง
การตรวจพิเศษ เช่น การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สู
การซักประวัติ ตรวจร่างกายจากอาการและอาการแสดง
อาการและอาการแสดง
เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อาการปวดอาจจะเพียงเล็กน้อยหรือมากก็ได้
มีอาการ ปวดตื้อๆ ตลอดเวลาหรืออาจปวดมากเป็นพักๆ
ท้องผูก หรือท้องเสียก็ได้ มีอาการกดเจ็บ และ ท้องแข็ง มีไข้ อาจสูงถึง 38.3 องศาเซลเซียส
ไส้ติ่งอาจแตกทะลุทําให้เกิดภาวะ เยื่อบุช่องท้องอักเสบ (peritonitis) และอาจเกิดเป็นก้อนถุงหนองได้
แนวทางการรักษา
ควรวินิจฉัยแยกโรคไส้ติ่งอักเสบอักเสบขณะตั้งครรภ์ออกจากอาการของโรคอื่น
หากอาการไม่รุนแรงอาจพิจารณาทําการผ่าตัดlaparotomyเพื่อทําlaparoscopic
ให้ยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก
พิจารณาการผ่าตัดทางหน้าท้อง เพื่อทํา appendectomy สําหรับสตรีตั้งครรภ์ไตรมาสที่3
ให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษา
สาเหตุและพยาธิสภาพ
ไส้ติ่งอักเสบเกิดจากมีภาวะอุดกั้นของรูไส้ติ่ง
เนื้อเยื่อต่อมน้ําเหลือง ที่ผนังไส้ติ่งที่หนาตัวขึ้นตามการอักเสบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกาย
ถุงน้ําดีอักเสบเฉียบพลัน (Acute Cholecystitis)
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์
เสี่ยงต่อการแท้ง มดลูกหดรัดตัวก่อนกําหนด
คลอดก่อนกําหนด
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกายพบ colicky sign และปวดมากบริเวณ right-upper quadrant or epigastrium
การตรวทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจความเข้มข้นของเลือด CBC
ตรวจ U/A อาจพบการเพิ่มขึ้นของ WBC
การตรวจพิเศษอื่นๆ เช่น Radiographic diagnostic
อาการและอาการแสดง
มีอาการปวดท้องที่เป็นพักๆ สลับหนักและเบา
คลื่นไส้อาเจียน โดยเฉพาะ ภายหลังการรับประทานอาหารที่มีไขมัน
มีไข้ และตัวเหลืองขณะตั้งครรภ์
การรักษา
ให้งดอาหารและน้ํา
ดูแลให้ได้รับสารน้ําทางหลอดเลือดดํา
การทํา Laparoscopic for cholecystectomy
ดูแลให้ใส่สาย Nasogastric suctioning
Analgesia;morphine
ให้ยาปฏิชีวนะกลุ่มbroad-spectrum
ยาระงับการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
ให้ยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก
สาเหตุและพยาธิสภาพ
ทําให้เกิดแรงดันและกดเบียดทําให้การไหลเวียน และระบายของถุงน้ําดี
ทําให้ muscle tone และความยืดหยุ่นในถุงน้ําดีลดลง มีการหนาตัวของท่อ น้ําดี เมื่อมีการกดทับเป็นเวลานาน
การเพิ่มขนาดของมดลูก
ถุงน้ํารังไข่ (Ovarian tumor)
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์
มดลูกหดรัดตัวก่อนกําหนด
คลอดก่อนกําหนด
เสี่ยงต่อการแท้ง
คลอดยาก
การวินิจฉัย
การซักประวัติเกี่ยวกับอาการและอาการแสดง
การตรวจพิเศษ เช่น การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
อาการและอาการแสดง
ปวดบริเวณปีกมดลูกและรังไข่
มีภาวะ ท้องมานน้ํา
คลอดยาก
การรักษา
การผ่าตัดโดยการส่องกล้องจุลทรรศน์
ส่งชิ้นเนื้อที่ผ่าตัดออกมาเพื่อตรวจสอบทางพยาธิวิทยา
เจาะเลือดส่งตรวจค่ามะเร็ง CA-125
4.การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องร่วมกับนําก้อนเนื้องอกออก
รับยาเคมีบําบัด ให้งด breast feeding
สาเหตุและพยาธิสรีรภาพ
มีการโตของ cystic corpus luteum ขณะตั้งครรภ์
เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก (Uteri tumor)
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกายคลําพบขนาดของมดลูกโตกว่าอายุครรภ์
การซักประวัติ มีเลือดออกทางช่องคลอด มีอาการปวดท้องที่ ไมส่ัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูก
การตรวจพิเศษ เช่น การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
ระยะคลอด
คลอดยาก และมีโอกาสผ่าตัดคลอดคลอดทางหน้าท้อง
ระยะต้ังครรภ์
แท้ง คลอดก่อนกําหนด รกลอกตัวก่อนกําหนด และอาการปวดท้องรุนแรง
ระยะหลังคลอด
การหดรัดตัวกล้ามเนื้อมดลูกภายหลังคลอดไม่ดี ตกเลือดหลังคลอดและอาจได้รับการตัดมดมูกได้
อาการและอาการแสดง
ไม่ค่อยแสดงอาการ
อาจพบภาวะเลือดออกขณะตั้งครรภ์ได้
การรักษา
ชิ้นเนื้อที่ได้จากการผ่าตัดให้นําส่งตรวจพยาธิวิทยา
พิจารณาผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องเมื่อเข้าสู่ระยะ คลอด
การผ่าตัดด้วยกล้องจุลทรรศน์
Myoma Uteri
ก้อนของกล้ามเนื้อที่จับตัวเป็นก้อนกลมๆ
Adenomyosis
เนื้องอกที่หนาตัวโดยรวมทั้งหมด
ภาวะลําไส้อุดกั้น (Bowel obstruction)
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกายมีอาการปวดเมื่อคลําทางหน้าท้อง
การซักประวัติเกี่ยวกับอาการและอาการแสดง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการเช่นWBC,electrolyte,X-Ray,MRIเป็นต้น
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
ภาวะไม่สมดุลของสารน้ําและอิเล็กโตร ลัยท์ ปัญหาเกี่ยวกับไต ภาวะปริมาตรเลือดต่ำจากการเสียเลือด ช็อก และเสียชีวิต
ผลกระทบต่อทารกในครรภ์
เสี่ยงต่อการแท้ง คลอดก่อนกําหนด คลอดน้ําหนักตัวน้อย ทารกในครรภ์อยู่ในภาวะคับขัน ทารกเสียชีวิตในครรภ์
อาการและอาการแสดง
ปวดเกร็งแน่นท้อง
อาเจียน
ท้องผูก
ปวดเสียด ปวดบิดเป็นพัก ๆ
การรักษา
ใส่สาย Nasogastric tube
ให้สารน้ําทางหลอดเลือดดํา
ให้งดอาหารและน้ํา
ให้ยาปฏิชีวนะ
ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจทางรกในครรภ
ให้ออกซิเจน 4 lit/min
พิจารณาการผ่าตัดโดยการส่องกล้องจุลทรรศ
ดูแลภาวะท้องผูก หลังการผ่าตัด
ติด ตามการเกิดซ้ําของภาวะลําไส้อุดกั้นได้อีก
ติดตามและป้องกันภาวะลําไส้ตาย ภายหลังการผ่าตัด
พยาธิสภาพ
การบิดของลําไส้
การตีบ ก้อน เนื้องอก หรือไส้เลื่อน
เกิดจากการอุดตันของลําไส้จากพังผืด
การช่วยฟื้นคืนชีพในสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้น
การตอบสนองขั้นต่อมา(Subsequentresponders)
2.3 การเตรียมพร้อมเพื่อผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องกรณีฉุกเฉิน
1 ภายหลังการช่วยฟื้นคืนชีพไปแล้วเป็นเวลา 4 นาที และไม่พบสัญญาณชีพปรากฏ ให้ทําการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องทันที
2 ตั้งเป้าหมายให้คลอดภายใน 5 นาที นับจากเวลาที่เริ่มช่วยฟื้นคืนชีพ
2.2 การปฏิบัติการพยาบาลทางสูติศาสตร์
2 ถอด internal และ external fetal monitors ออกก่อน (หากมี)
1 นวดหัวใจด้วยมือ
2.1 การปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือมารดา
5.ดูแลและประเมินให้กระบวนการ CPR มีคุณภาพ
6.ให้ IV fluid เหนือ diaphargm
4.ดูแลให้ได้รับการติด Monitor waveform capnography
7.ประเมินภาวะ Hypovolemia และดูแลให้ได้รับสารน้ําทางหลอดเลือดดํา
3.ดูแลให้ได้รับ 100% oxygen ทางท่อทางเดินหายใจ
8.ดูแลและจัดการให้ท่อทางเดินหายใจโล่ง ไม่อุดกั้น
2.ดูแลให้ได้รับชนิดยา ขนาด ปริมาณและวิถีทางที่ให้ยาให้ถูกต้อง
9 กรณีที่สตรีตั้งครรภ์ได้รับ MgSo4 ทางหลอดเลือดดํา ให้ทําการหยุดทันที
1.ดูแลและช่วยเหลือในการช็อคไฟฟ้าทันที
ค้นหาและดูแลรักษาปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น
1.4 Uterine atony
1.5 Cardiac disease
1.3 Anesthetic complications
1.6 Hypertension/preeclampsia/eclampsia
1.2 Embolism: coronary/pulmonary/amniotic fluid embolism
1.7 Other: differential diagnosis of standard guidelines, accident, abuse
1.1 Bleeding/DIC/accident
1.8 Placenta abruptio/previa
1.9 Sepsis
การตอบสนองขั้นแรก(Firstresponder)
บันทึกเวลาที่เริ่มเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น
จัดท่านอน supine
แจ้ง maternal cardiac arrest team
เริ่มทําการ chest compressions วางมือไว้เหนือกระดูก sternum