Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 1 มโนทัศน์เกี่ยวกับการพยาบาลผู้สูงอายุ - Coggle Diagram
หน่วยที่ 1 มโนทัศน์เกี่ยวกับการพยาบาลผู้สูงอายุ
ความหมายผู้สูงอายุ
ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
บางประเทศ อาจนิยามผู้สูงอายุตามอายุกำหนดให้เกษียณงาน (อายุ 50 หรือ 60หรือ 65 ปี) หรือนิยามตามสภาพของร่างกาย โดยผู้หญิงสูงอายุอยู่ในช่วง 45-55 ปี ส่วนชายสูง อายุ อยู่ในช่วง 55-75 ปี
ประเทศไทย
คือผู้สูงอายุผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีสัญชาติไทย
ประเทศสหรัฐอเมริกา
คือ ผู้สูงอายุผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
ประเภทผู้สูงอายุ
แบ่งการสูงอายุของบุคคลออกเป็น 4 ประเภท คือ
การสูงอายุตามสภาพร่างกาย (Biological Aging)
เป็นการพิจารณาการสูงอายุจากสภาพร่างกายและสรีระของบุคคลที่เปลี่ยนไป เมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น เนื่องจากประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกายลดน้อยลง เป็นผลมาจากความเสื่อมโทรม
การสูงอายุตามสภาพจิตใจ (Psychological Aging)
เป็นการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่ การรับรู้ แนวความคิด ความจำ การเรียนรู้ เชาว์ปัญญา และลักษณะบุคลิกภาพ
การสูงอายุตามวัย (Choronological Aging)
คือการสูงอายุตามปีปฏิทินโดยการนับจากปีที่เกิดเป็นต้นไป และบอกได้ทันทีว่า ใครมีอายุมากน้อยเพียงใด
การสูงอายุตามสภาพสังคม (Sociological Aging)
เป็นการเปลี่ยนแปลงในบทบาทหน้าที่สถานภาพของบุคคลในระบบสังคม รวมทั้งความคาดหวังของสังคมต่อบุคคลนั้น
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แบ่งเกณฑ์อายุตามสภาพของการมีอายุเพิ่มขึ้น
คนชรา (Old) มีอายุระหว่าง 75 –90 ปี
คนชรามาก (Very Old) มีอายุ 90 ปีขึ้นไป
ผู้สูงอายุ (Elderly) มีอายุระหว่าง 60 –74 ปี
American nurse association ได้แบ่งผู้สูงอายุออกเป็น 3 ช่วง
ผู้สูงอายุวัยต้น (young old) อายุ 65 – 74 ปี
ผู้สูงอายุวัยกลาง (old-old) อายุ 75 – 84 ปี
ผู้สูงอายุวัยปลาย (the very old) อายุ 85 ปีขึ้นไป
สถาบันเวชศาสตร์ผู้สูงอายุไทย แบ่งกลุ่มวัยเป็น 3 กลุ่ม
วัยสูงอายุตอนต้น (young old) อายุ 60-69 ปี
วัยสูงอายุตอนกลาง (medium old) อายุ 70-79 ปี
วัยสูงอายุมาก (old-old) อายุ 80 ปีหรือมากกว่า
นักวิชาการบางท่านจึงใช้เกณฑ์ความสามารถของผู้สูงอายุแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองได้ดี
กลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองได้บ้าง
กลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ มีความพิการ
แบ่งตามการพึ่งพาผู้สูงอายุ
ไม่ต้องพึ่งพาเลย (totally independence)
พึ่งพาบางส่วน (partially dependence)
พึ่งพาทั้งหมด (totally dependence)
ติดเตียง (bed ridden)
การจัดแบ่งผู้สูงอายุตามการมีโรค สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม
ผู้สูงอายุที่แข็งแรง (healthy elderly)
ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง (frailty หรือ frail elderly)
แบ่งกลุ่มผู้สูงอายุตามการจำแนกความช่วยเหลือที่สังคมควรจัดให้กับผู้สูงอายุ
1) กลุ่มติดสังคม คือ กลุ่มที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ช่วยเหลือผู้อื่นและสังคม ชุมชนได้
2) กลุ่มติดบ้าน คือ กลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองได้ อาจมีโรคเรื้อรัง พึ่งพาตนเองได้บ้าง อยู่ในบ้านทำกิจวัตรประจำวันได้ ไม่สามารถไปมาได้อิสระ ออกนอกบ้านจึงต้องพึ่งพา
3) กลุ่มติดเตียง กลุ่มที่ช่วยตนเองไม่ได้ เจ็บป่วย พิการหรือทุพพลภาพ
แบ่งตามมิติของการให้บริการสุขภาพ เพื่อกำหนดรูปแบบการให้บริการทั้งเชิงรับ เชิงรุก แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
ผู้สูงอายุสุขภาพดี (healthy / well elderly) อันรวมถึงผู้สูงอายุที่มีอิสระไม่ต้องพึ่งพา
ผู้สูงอายุมีโรคเรื้อรัง และ / หรือ มีภาวะทุพพลภาพ (disability elderly)
ผู้สูงอายุหง่อม / งอม / บอบบาง (frail elderly)
ภาวะเปราะบางมี กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ภาวะเปราะบางไม่ใช่โรค แต่เป็นภาวะไร้ความสามารถและอยู่ระหว่างความมีสุขภาพดีกับความเป็นโรค
กิจกรรมทางกายต่ำ
เดินช้า
ความเหนื่อยล้า
น้ำหนักลดลงโดยไม่เจตนา ร่วมกับ ภาวะอ่อนแอ (vulnerability) ทั้งทางกาย จิต และสังคม
การเพิ่มประชากรผู้สูงอายุไทย
พ.ศ. 2513 อัตราการเพิ่ม = 4.9 %
พ.ศ. 2533 อัตราการเพิ่ม = 7.3 %
พ.ศ. 2543 มีประชากรสูงอายุ = 9.1 %
คาดว่าในปี 2571 ประเทศไทยจะมีผู้อายุเกิน 60 ปี 23.5 % กล่าวโดยรวม คือ ประเทศไทยจะก้าวจากสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (complete age society)
ปัจจุบัน พ.ศ. 2560 มีประชากรสูงอายุ = 11.3 ล้านคน คิดเป็น 17.14 %
ระดับสังคมสูงอายุ
ระดับสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Complete Aged society)
สังคมที่มีสัดส่วนของประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% หรือ ประชากรอายุ 65 ปีมากกว่า14%
ระดับสังคมอุดมไปด้วยผู้สูงอายุ (Super-aged society)
สังคมที่มีสัดส่วนของประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 20%
ระดับการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Ageing society หรือ Aging society)
สังคมที่มีสัดส่วนของประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 10 % ของประชากรโดยรวมทั้งประเทศ หรืออายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 7%
ปัจจัยส่งเสริมให้เกิดภาวะประชากรชรา
ความสำเร็จจากนโยบายการคุมกำเนิด
ความก้าวหน้าทางการแพทย์ ทำให้อายุขัยเฉลี่ยของคนเพิ่มขึ้น
ชายไทย 73.2 ปี
หญิงไทย 80.4 ปี
ผลกระทบ
สัดส่วนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
พ.ศ. 2533 วัยแรงงาน 10 คน ทำหน้าที่ในการดูแลผู้สูงอายุ 1 คน
พ.ศ. 2563 วัยแรงงาน ในการดูแลผู้สูงอายุจะเพิ่มสูงขึ้น
ปี 2506-2526 หรือที่เรียกว่า “ประชากรรุ่นเกิดล้าน” ซึ่งมีอายุ 30-50 ปี
แหล่งรายได้จากบุตรได้ลดลงจากร้อยละ 52 ในปี 2550 เหลือเพียงร้อยละ 40 ในปี 2554
การเปลี่ยนแปลงในองค์ประกอบของประชากร
ด้านเพศ : หญิงสูงอายุ มากกว่า ชายสูงอายุ
ด้านสถานภาพสมรส : ผู้สูงอายุโสด หย่า แยก มีจำนวนเพิ่มขึ้น
ด้านการศึกษา : ผู้สูงอายุในอนาคตจะมีระดับการศึกษาสูงมากขึ้น
ด้านบทบาทต่อสังคม: เป็นประโยชน์ต่อสังคมและครอบครัว
ผลสำรวจ
อายุยิ่งสูงขึ้น ความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย
ความดันโลหิตสูง/ไขมันในเลือดสูง รองลงมาเป็นโรคเบาหวาน และรองลงมาเป็นอันดับสามคือโรคเก๊าท์/ รูมาตอยด์/ปวดเข่า หลัง หรือคอเรื้อรัง
บทบาทการดูแล
บทบาทพยาบาล
บำบัดรักษา
ปฏิบัติ
ให้การศึกษา
นักวิจัย
ผู้ให้คำปรึกษา
ผู้พิทักษ์สิทธิ์
คิดค้นสิ่งใหม่
บทบาทของผู้ดูแล
อผส
ผู้ดูแลหลัก
ผู้ดูแลรอง
บทบาทของครอบครัว
เกื้อกูล
ด้านร่างก่าย
ด้านจิตใจ
ด้านสังคม
ด้านจิตวิญญาณ