Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะคีโตนคั่ง DKA - Coggle Diagram
ภาวะคีโตนคั่ง DKA
การพยาบาล
1.การสังเกตและประเมินอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ตรวจวัดสัญญาณชีพและประเมิน ระดับความรู้สึกตัว บันทึกจํานวนสารน้ําเข้าและออกจากร่างกาย ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- การให้การบําบัดตามแผนการรักษา ได้แก่ การให้สารน้ําทางหลอดเลือดดํา การให้อินซูลิน การให้ยาต่างๆ
- ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งในกรณีที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว และช่วยให้สมองและเนื้อเยื่อได้รับ ออกซิเจนอย่างเพียงพอโดยให้ออกซิเจน 3 – 5 ลิตรต่อนาที
- ดูแลความสะอาดของร่างกาย ปาก ฟัน สิ่งแวดล้อม และความสุขสบายอื่น ๆ เนื่องจากผู้ป่วย อ่อนเพลีย
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ การติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่ให้สารน้ํา การติดเชื้อ ในระบบทางเดินปัสสาวะและทางเดินหายใจ โดยให้การพยาบาลอย่างถูกเทคนิคและปราศจากเชื้อ เฝ้าสังเกตอาการผิดปกติ
- ช่วยให้ผู้ป่วยและญาติลดความวิตกกังวล
- ประเมินความรู้ในการดูแลตนเอง และให้ความรู้แก่ผู้ป่วยในการดูแลตนเองและให้ญาติมี ส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของผู้ป่วย
อาการและอาการแสดง
- ถ่ายปัสสาวะบ่อยมีปริมาณมาก (polyria) และมีน้ำตาลกลูโคสออกมากับปัสสาวะ (glucosuria) ในเด็กมักพบถ่ายปัสสาวะรดที่นอน
- กระหายน้ำมาก (polyphagia)
- หิวบ่อยรับประทานมาก (polyphagia)
- อ่อนเพลียเหนื่อยง่ายคันตามผิวหนังหากเป็นแผลจะหายช้าและมีการติดเชื้อง่าย
- ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาโรงพยาบาลด้วยภาวะกรดในร่างกาย (diabetic ketoacidosis) จากกระบวนการเผาพลาญสารอาหารที่ผิดปกติ
-
พยาธิสภาพ
- การขาดฮอร์โมนอินซูลินทำให้เนื้อเยื่อของร่างกายไม่สามารถนำกลูโคสไปใช้เป็นพลังงานหรือสร้างเนื้อเยื่อได้ร่างกายจึงเปลี่ยนไขมันในร่างกายไปเป็นกรดไขมันอิสระ (free faty เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานแทนซึ่งในที่สุดตับจะเปลี่ยนกรดไขมันอิสระเป็นสารคีโตนซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดดังนั้นจึงเกิดภาวะเป็นกรดขึ้นในร่างกาย (metabolic acidosis)
- การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนที่ตอบสนองต่อภาวะเครียด ได้แก่ กลูตากอนโกรทฮอร์โมนคอร์ติซอลและแคติโคลามีนทำให้มีการสร้างกลูโคสขึ้นใหม่การใช้กลูโคสที่เนื้อเยื่อส่วนปลายลดลงทำให้น้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้นและกลูคากอนจะกระตุ้นให้เกิดกระบวนการสร้างสารคีโตน
-
สาเหตุ
เกิดจากการขาดอินซูลินร่วมกับมีฮอร์โมนที่ตอบสนองต่อภาวะเครียดมากขึ้น ได้แก่ กลูคากอนอิพิเนฟรินคอร์ติซอลและโกรทฮอร์โมนทำให้อินซูลินออกฤทธิ์น้อยลงมักพบในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1
ความหมาย
ความผิดปกติในการเผาพลาญสารอาหารคาร์โบไฮเดรตเนื่องจากภาวะพร่องหรือขาดอินซูลินทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้ระดับน้ำตาลในเลือดจึงสูงและมีบางส่วนถูกขับออกมากับปัสสาวะ