Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงหรือแทรกซ้อนทางนริเวชกรรมและศัลยกรรม …
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงหรือแทรกซ้อนทางนริเวชกรรมและศัลยกรรม
1 ไส้ติ่งอักเสบ (appendicitis)
สาเหตุและพยาธิสภาพ
1 มีภาวะอุดกั้นของรูไส้ติ่ง
2 เกิดจากมีเศษอุจจาระแข็งๆ เรียกว่า "นิ่วอุจจาระ" (fecalith)
ชิ้นเล็กๆ ตกลงไปอุดกั้นอยู่ภายในรูของไส้ติ่ง
3 ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในรูไส้ติ่งเกิดการเจริญ
รุกล้ำเข้าไปในผนังไส้ติ่ง จนเกิดการอักเสบ
4 ผนังไส้ติ่งก็เกิดการเน่า
ตายและแตกทะลุได
อาการและอาการแสดง
เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
ปวดตื้อๆ ตลอดเวลาหรืออาจปวดมากเป็นพักๆ อาจมีท้องผูก หรือท้องเสีย
มีอาการกดเจ็บ และ
ท้องแข็ง (guarding) มีไข้ อาจสูงถึง 38.3 oC
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ
เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด และคลอดก่อนกำหนด
การประเมินและการวินิจฉัย
ซักประวัติ ตรวจร่างกายจากอาการ
ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตรวจพบเม็ดเลือดขาวสูง
ตรวจพิเศษ
คลื่นเสียงความถี่สูง
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
CT scan
แนวทางการรักษา
1 หากอาการไม่รุนแรงอาจพิจารณาทำการผ่าตัด laparotomy
2 พิจารณาการผ่าตัดทางหน้าท้อง เพื่อทำappendectomy
3 ให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษา
4 ให้ยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก (tocolytic drug)
2 ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน (Acute Cholecystitis)
สาเหตุและพยาธิสภาพ
ขณะตั้งครรภ์มีการเพิ่มขนาดของมดลูกซึ่งทำให้เกิดแรงดันและกดเบียดทำให้การไหลเวียน
และระบายของถุงน้ำดีไม่ทำให้ muscle tone และความยืดหยุ่นในถุงน้ำดีลดลง มีการหนาตัวของท่อน้ำดี เมื่อมีการกดทับเป็นเวลานาน จะทำให้มีการเพิ่มระดับโปรเจสเตอโรน ที่มีผลต่อภาวะ
hypercholesterolemia
อาการและอาการแสดง
ปวดท้องที่เป็นพักๆ สลับหนักและเบา (colicky pain) คลื่นไส้อาเจียน โดยเฉพาะภายหลังการรับประทานอาหารที่มีไขมัน มีไข้ และตัวเหลืองขณะตั้งครรภ์
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์
เสี่ยงต่อการแท้ง มดลูกหดรัดตัวก่อนกำหนด และคลอดก่อนกำหนด
การวินิจฉัย
ตรวจร่างกายพบ colicky sign และปวดมากบริเวณ right-upper quadrant or epigastrium
การตรวทางห้องปฏิบัติการ
ความเข้มข้นของเลือด CBC พบมีการเพิ่มของ leukocyte
U/A อาจพบการเพิ่มขึ้นของ WBC
ตรวจพิเศษ
Radiographic diagnostic
ตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
การรักษา
ให้งดอาหารและน้ำ
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
การทำ Laparoscopic for cholecystectomy
ดูแลให้ใส่สาย Nasogastric suctioning
Analgesia; morphine
ให้ยาปฏิชีวนะกลุ่ม broad-spectrum
ยาระงับการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ (antispasmodics)
ให้ยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก tocolytic therapy
3 ภาวะลำไส้อุดกั้น (Bowel obstruction)
พยาธิสภาพ
เกิดจากการอุดตันของลำไส้จากพังผืด (adhesions) การบิดของลำไส้ (volvulus) การตีบ ก้อนเนื้องอก หรือไส้เลื่อนการอุดกั้นจะมีผลต่อการทำงานและการดูดซึมสารอาหาร
ของลำไส้ที่ลดลง การไหลเวียนเลือดในร่างกายจะเพิ่มขึ้นการบีบตัวของลำไส้อาจเพิ่มขึ้นได้ กรณีที่มีการบีบตัวของอาหารย้อนกลับและพบมีการบวมตามร่างกาย
อาการและอาการแสดง
ท้องผูก (constipation) ถ่ายยาก ถ่ายลำบาก ถ่ายไม่ออก
ปวดเกร็งแน่นท้อง
อาเจียน
ปวดเสียด ปวดบิดเป็นพัก ๆ
การวินิจฉัย
มีอาการปวดเมื่อคลำทางหน้าท้อง
ซักประวัติเกี่ยวกับอาการ
ตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น WBC, electrolyte, X-Ray, MRI
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
-การอักเสบและติดเชื้อ
-มดลูกหดรัดตัวก่อนกำหนด -ภาวะไม่สมดุลของสารน้ำและอิเล็กโตรลัยท์
-ปัญหาเกี่ยวกับไต
-ภาวะปริมาตรเลือดต่ำจากการเสียเลือด ช็อก และเสียชีวิต
ผลกระทบต่อทารกในครรภ์
-เสี่ยงต่อการแท้ง
-คลอดก่อนกำหนด
-คลอดน้ำหนักตัวน้อย
-ทารกในครรภ์อยู่ในภาวะคับขัน
-ทารกเสียชีวิตในครรภ
การรักษา
ให้งดอาหารและน้ำ
ใส่สาย Nasogastric tube เพื่อการระบาย gastric content
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ให้ยาปฏิชีวนะ
ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจทางรกในครรภ์ โดยใส่เครื่อง EFM
ให้ออกซิเจน 4 lit/min
พิจารณาการผ่าตัดโดยการส่องกล้องจุลทรรศ
ดูแลภาวะท้องผูก (constipation) ภายหลังการผ่าตัด
ติดตามการเกิดซ้ำของrecurrent obstruction ในไตรมาสที่สาม
ติดตามและป้องกันbowel necrosis ภายหลังการผ่าตัด
4 ถุงน้ำรังไข่ (Ovarian tumor)
สาเหตุและพยาธิสรีรภาพ
การโตของ cystic corpus luteum ขณะตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังจะพบภาวะของ ovariancyst /tumor ที่โตขึ้น ร่วมกับการติดเชื้ออื่นๆของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกได้ซึ่งมักพบว่ามขนาดโตขึ้นเมื่ออายุครรภ์ 12-14 สัปดาห
อาการและอาการแสดง
ปวดบริเวณปีกมดลูกและรังไข
มีภาวะท้องมานน้ำ
คลอดยาก
การวินิจฉัย
ซักประวัติเกี่ยวกับอาการและอาการแสดง
การตรวจพิเศษ เช่น การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง การตรวจ MRI
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ
-เสี่ยงต่อการแท้ง
-มดลูกหดรัดตัวก่อนกำหนด -คลอดก่อนกำหนด
-คลอดยาก
การรักษา
การผ่าตัดโดยการส่องกล้องจุลทรรศน์ (Laparoscopic)
ส่งชิ้นเนื้อที่ผ่าตัดออกมาเพื่อตรวจสอบทางพยาธิวิทยา
เจาะเลือดส่งตรวจค่ามะเร็ง CA-125
ผลการชันสูตรพบว่าเป็นมะเร็งรังไข่ และมารดาต้องได้รับยาเคมีบำบัด ให้งด breast feeding
5 เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก (Uteri tumor)
Myoma Uteri
ก้อนของกล้ามเนื้อที่จับตัวเป็นก้อนกลมๆ
Adenomyosis
เนื้องอกที่หนาตัวโดยรวมทั้งหมด
อาการและอาการแสดง
ไม่ค่อยแสดงอาการ
อาจพบภาวะเลือดออกขณะตั้งครรภ์
ขนาดของมดลูกโตกว่าอายุครรภ์
คลำท่าทารกได้ยาก
การวินิจฉัย
ตรวจร่างกายคลำพบขนาดของมดลูกโตกว่าอายุครรภ์ คลำท่าทารกได้ไม่ชัดเจน
มีเลือดออกทางช่องคลอด มีอาการปวดท้องที่ไม่สัมพันธ์กับการหดรัดตัวของมดลูก
ตรวจพิเศษ เช่น การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง การตรวจ MRI
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
ระยะตั้งครรภ์
-แท้ง
-คลอดก่อนกำหนด
-รกลอกตัวก่อนกำหนด
-อาการปวดท้องรุนแรงมากขึ้นขณะตั้งครรภ์
ระยะคลอด
คลอดยาก และมีโอกาสผ่าตัดคลอดคลอดทางหน้าท้อง
ระยะหลังคลอด
-การหดรัดตัวกล้ามเนื้อมดลูกภายหลังคลอด
-ไม่ดีตกเลือดหลังคลอด
-อาจได้รับการตัดมดลูกได้
การรักษา
การผ่าตัดด้วยกล้องจุลทรรศน์ (Laparoscopic myomectomy) ควรทำเมื่ออายุครรภ์ 12-14 Wks. < 18 Wks.
ชิ้นเนื้อที่ได้จากการผ่าตัดให้นำส่งตรวจพยาธิวิทยา
หากก้อนยังใหญ่ไม่มาก ไม่มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์และทารกในครรภ์และการตั้งครรภ์สามารถดำเนินต่อไปจนครบกำหนด
8 การช่วยฟื้นคืนชีพในสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้น
การตอบสนองขั้นแรก (First responder)
แจ้ง maternal cardiac arrest team
บันทึกเวลาที่เริ่มเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น
จัดท่านอน supine
ทำการ chest compressions
การตอบสนองขั้นต่อมา (Subsequent responders)
1 การปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือมารดา
1 ดูแลและช่วยเหลือในการช็อคไฟฟ้า
2 ดูแลให้ได้รับชนิดยา ขนาด ปริมาณและวิถีทางที่ให้ยาให้ถูกต้อง
3 ดูแลให้ได้รับ 100% oxygen ทางท่อทางเดินหายใจ
4 ดูแลให้ได้รับการติด Monitor waveform capnography
5 ดูแลและประเมินให้กระบวนการ CPR มีคุณภาพ
6 ให้ IV fluid เหนือ diaphargm
7 ประเมินภาวะ Hypovolemia
8 ดูแลและจัดการให้ท่อทางเดินหายใจโล่ง
9 กรณีที่สตรีตั้งครรภ์ได้รับ MgSo4 ทางหลอดเลือดดำ ให้ทำการหยุดทันที และให้ Calcium chloride 10 ml ใน 10% solution
10 ระหว่างและหลังการผ่าตัดคลอดบุตรทางหน้าท้อง
การปฏิบัติการพยาบาลทางสูติศาสตร์
1 นวดหัวใจด้วยมือ
2 ถอด internal และ external fetal monitors ออกก่อน
การเตรียมพร้อมเพื่อผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องกรณีฉุกเฉิน
ภายหลังการช่วยฟื้นคืนชีพไปแล้วเป็นเวลา 4 นาที และไม่พบสัญญาณชีพปรากฏ ให้ทำการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องทันที
ตั้งเป้าหมายให้คลอดภายใน 5 นาที นับจากเวลาที่เริ่มช่วยฟื้นคืนชีพ
ค้นหาและดูแลรักษาปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น
1 Bleeding/DIC/accident
2 Embolism: coronary
3 Anesthetic complications
4 Uterine atony
5 Cardiac disease
6 Hypertension/preeclampsia/eclampsia
7 Other: differential diagnosis of standard guidelines, accident, abuse
8 Placenta abruptio/previa
9 Sepsis
6 การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่ได้รับการผ่าตัด
การประเมินทางการพยาบาล
การซักประวัติ
การตรวจร่างกาย
การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การประเมินสุขภาพทารกในครรภ์ การฟังเสียง FHR การบันทึกการดิ้นของทารก การตรวจ NST
การประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
การพยาบาลขณะอยู่โรงพยาบาล
พยาบาลผดุงครรภ์ควรให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการและวิธีการผ่าตัด เพื่อลดความกลัวเกี่ยวกับการสูญเสียบุตร
การพยาบาลก่อนผ่าตัด
ดูแลให้งดอาหารและน้ำทางปาก
ฟัง FHS ทุก 1-2 ชั่วโมง
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก ทุก 1-2 ชั่วโมง
ประเมินสุขภาพทารกในครรภ์ด้วยการ On EFM (electro fetal monitor)
เตรียมผิวหนังบริเวณที่จะผ่าตัด
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับการใส่สายสวนปัสสาวะ
การพยาบาลขณะผ่าตัด
จัดท่าในการผ่าตัด หากเป็นไปได้ควรจัดท่านอนหงายศีรษะสูงเล็กน้อย กึ่งตะแคงซ้าย
ประเมินสุขภาพทารกในครรภ์โดยการติดเครื่อง EFM ระหว่างการผ่าตัด
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนตามแผนการรักษา
การดูแลหลังการผ่าตัด
ให้การพยาบาลเหมือนผู้ป่วยหลังผ่าตัดทั่วไป
เฝ้าระวังภาวะ preterm labor
ประเมินและบันทึก FHS โดยการติดเครื่อง EFM
ดูแลให้ได้รับยา tocolysis
การพยาบาลเมื่อจำหน่ายกลับบ้าน
1 ประเมินผู้ให้การดูแล (care giver) ตัวของสตรีตั้งครรภ์
7 การบาดเจ็บระหว่างการตั้งครรภ์(Trauma during pregnancy)
ชนิดของการบาดเจ็บ
ปัญหาความรุนแรง
อุบัติเหตุเกี่ยวกับยานยนต์
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
-ความเสี่ยงต่อการแท้ง
-มดลูกหดรัดตัวก่อนกำหนด -คลอดก่อนกำหนด
-รกลอกตัวก่อนกำหนด
-มดลูกแตก
-ทารกในครรภ์ได้รับบาดเจ็บ -ทารกตายในครรภ์
-ทารกตายคลอด
พยาธิวิทยา
การได้รับการบาดเจ็บที่ head injury ทำให้มีการฉีกขาดของหลอดเลือดดำ สาเหตุสำคัญของการตายของมารดา
การตกเลือดในช่องท้องและอวัยวะสืบพันธุ์อาจพบการแตกหรือฉีกขาดของตับ ม้าม และไต
Abruptio placenta ภายในเวลา 48 ชม. มักพบการลอกตัวของรก
Pelvic fracture อาจพบภาวะของ bladder trauma, retroperitoneal
bleeding
Uterine rupture เกิดการฉีกขาด หรือแตก
การพยาบาล
Immediate care
1 การประเมินและวินิจฉัย การให้ยา และการช่วยฟื้นคืนชีพ
2 การช่วยฟื้นคืนชีพควรช่วยชีวิตมารดาเป็นอันดับแรก
3 ทีมให้การพยาบาลต้องทำการประเมินอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ครบถ้วนสมบูรณ์ และมีประสิทธิภาพ
Minor trauma
1 Bleeding/vg., uterine irritability
2 Abdominal tenderness, abdominal pain or cramps
3 Hypovolemia
4 FHR เปลี่ยนแปลง
5 Fetal activity หายหรือลดลง
6 Leakage of amnioticfluid
7 พบ fetal cell ใน maternalcirculation
Major trauma
1 ในการช่วยฟื้นคืนชีพแบบ ABCs
2 มีการประเมินสภาพร่างกายทั่วไปตามระบบต่างๆ
ทีมสูติกรรม (Obstetrics)
ทีมวิสัญญี (Anesthesia)
ทีมดูแลทารกในครรภ์(Neonatology)
3 พยาบาลผดุงครรภ์และพยาบาลเด็ก
ควรประสานงานและทำงานแบบสหวิชาชีพ ร่วมกับแพทย์หลายสาขา และทำหน้าที่ในการดูแล
4 ให้การดูแลตามกระบวนการเศร้าโศกและสูญเสีย
5 การจำหน่ายสตรีตั้งครรภ์เพื่อกลับบ้าน ควรสอนเกี่ยวกับ
การสังเกตอาการเลือดออก
การดิ้นของทารกในครรภ์
Signs and symptom of preterm labor
Signs and symptom PROM
Signs and symptom placenta abrubtion
แนะนำการคาดเข็มขัดนิรภัยที่ถูกต้อง