Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคจากการ
ประกอบอาชีพ, นางสาวกาญจนา จันเมือง กลุ่ม B3 รหัส 13 - Coggle…
โรคจากการ
ประกอบอาชีพ
การบาดเจ็บจาก การทํางาน
อุบัติการณ์ ในปีพ.ศ. 2561 พบผู้บาดเจ็บจากการทํางาน จํานวน 172,264 ราย คิดเป็นอัตราการบาดเจ็บต่อประชากรแสนราย เท่ากับ 284.71 ลดลงจาก
ปีพ.ศ. 2560
กลุ่มอาชีพที่พบผู้บาดเจ็บมากที่สุด คือ กลุ่มอาชีพเกษตรกรผู้ปลูกพืชผักและพืชไร่ กลุ่มอาชีพที่พบผู้บาดเจ็บมากที่สุด คือ กลุ่มอาชีพเกษตรกรผู้ปลูกพืชผักและพืชไร่
-
แนวทางการ
แก้ไข
- เปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังอุบัติเหตุและตรวจสอบระบบการป้องกันอุบัติเหตุในโรงงานอุตสาหกรรม
2.โรงงานอุตสาหกรรมได้สร้างอาคารถูกต้องตามหลักวิศวกรรม รวมถึงมีการออกแบบและติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยอย่างเหมาะสม
- มีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย กฎระเบียบและหลักความปลอดภัยในการทำงาน
- รณรงค์ให้นายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการ ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันอุบัติเหตุ ให้มีความรู้และมีทักษะในการป้องกันอุบัติเหตุ อุบัติภัย และโรคที่เกิดจากการทำงาน
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ดูแลความปลอดภัยให้คำปรึกษากับนายจ้าง ตรวจตราสถานการณ์และความเสี่ยงในการทำงาน และแนะนำลูกจ้างและแนะนำลูกจ้างในการดูแลตนเองขณะทำงานไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือป้องกันไม่ให้เป็นโรคจากการทำงาน
- มีการดำเนินงานตามมาตรฐานสากลทางด้านความปลอดภัย อนุกรมมาตรฐานคุณภาพ (ISO 9000) อนุกรมมาตรฐานการจัดการระบบอาชีวอนามัยความปลอดภัย (มอก. 18000)
อุบัติการณ์ ในปี พ.ศ. 2560 ที่พบผู้บาดเจ็บจากการทํางาน
จํานวน 174,366 ราย (อัตราป่วยต่อแสนราย 289.33)
โรคกระดูกและ
กล้ามเนื้อ
อุบัติการณ์ ในปีพ.ศ. 2561 พบผู้ป่วยโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ เฉพาะรายที่เกี่ยวข้องกับภาวะการทํางาน 114,578 ราย คิดเป็นอัตราป่วยต่อประชากรแสนราย เท่ากับ 189.37 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก ปีพ.ศ. 2560
กลุ่มอาชีพที่พบผู้ป่วยมากที่สุด อันดับหนึ่งอาชีพเกษตรกรผู้ปลูกพืชอันดันสองผักและพืชไร่ อาชีพคนงานรับจ้างทั่วไป และอันดับสามกลุ่มผู้ปฏิบัติงานด้านการปลูกพืชรวมกับการเลี้ยงสัตว์
ปัจจัย/สาเหตุที่ทำให้เกิดโรค จากทำงานท่าทางซ้้าๆ หรือ
การออกแรงเกินก้าลัง รวมทั้งท่าทางที่ฝืนธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ เช่น การทำกิจกรรมที่บ้าน ความผิดปกติของโครงสร้างร่างกายที่มีอยู่เดิม ความเสื่อมตามอายุ หรือสภาวะทางจิตใจ เป็นต้น
แนวทางการ
แก้ไข
1) ให้สังเกตว่ามีสาเหตุมาจากอะไร แล้วแก้ไขเสีย เช่น ปวดหลังตอนตื่นนอน ก็อาจเกิดจากที่นอนนุ่มไปหรือนอนเตียงสปริง ก็แก้ไขโดยการนอนบนที่นอนแข็งและเรียบแบน ถ้าปวดหลังตอนเย็นๆ ก็มักจะเกิดจากการนั่งตัวงอนานเกินไป หรือใส่รองเท้าส้นสูงเกินความจำเป็น ก็พยายามนั่งให้ถูกท่า หรือเปลี่ยนรองเท้าธรรมดาแทน ถ้าอ้วนไปก็พยายามลดน้ำหนัก
2) ถ้ามีอาการปวดมากให้นอนหงายบนพื้น หรือจะใช้ยาหม่องหรือน้ำมันระกำทานวด หรือใช้น้ำอุ่นจัดๆ ประคบก็ได้ ถ้าไม่หายก็ใช้ยาแก้ปวด เช่น แอสไพริน พาราเซตามอล ครั้งละ 1-2 เม็ด จะกินควบกับ ไดอะซีแพม ขนาด 2 มิลลิกรัมด้วยก็ได้ ถ้ายังไม่หาย อาจให้ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น เมโทคาร์บามอล คาร์โซมา ครั้งละ 1 เม็ด ซ้ำได้ ทุก 6-8 ชั่วโมง ผู้ป่วยควรนอนที่นอนแข็งๆ และหมั่นฝึกการบริหารใช้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรง
3) ถ้าปวดเรื้อรัง หรือมีอาการปวดร้าวลงมาที่ขาหรือชาที่ขา หรือขาไม่มีแรง อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ควรแนะนำให้ไปโรงพยาบาล หมออาจจะส่งตรวจเอกซเรย์ และ/หรือตรวจพิเศษอื่นๆ และให้การรักษาตามสาเหตุที่ตรวจพบ
อุบัติการณ์ ในปี พ.ศ. 2560 ที่พบผู้ป่วยโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ จํานวน 100,743 ราย (อัตราป่วย 167.22 ต่อประชากรแสนราย)
ปี 2559 มีอัตราป่วยเป็นจํานวน 81,226 คน คิดเป็นอัตราป่วยเท่ากับ
135.26 ต่อประชากรแสนคน
-
-