Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคของระบบทางเดินปัสสาวะ (Diseases of Urinary system), นางสาวกัณนิภา…
โรคของระบบทางเดินปัสสาวะ
(Diseases of Urinary system)
ความผิดปกติของไต Renal malformations
ความผิดปกติในปริมาณของเนื้อไต
Agenesis
ไตฝ่อหรือภาวะที่ไม่มีเนื้อไต
Renal agenesis อาจจะเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง
ถ้าเป็นสองข้าง เรียกว่า Potter’s syndrome ร่วมกับปอดไม่เจริญ แขนขาผิดรูปร่าง และมีลักษณะใบหน้าที่เป็นแบบจำเพาะ
Potter’s syndrome
เกิดจากทารกในครรภ์อยู่ในภาวะขาดน้ำคร่ำ ทำให้ร่างกายถูกกด การแบ่งตัวของเซลล์ผิดปกติ เป็นสาเหตุการเสียชีวิตแต่กำเนิดของทารก
แขนขาที่ผิดปกติบ่อยคือ รูปร่างผิดปกติ โก่ง บิด ข้อเคลื่อน clubfoot
Potter's facies หูติดต่ำ ผิวหนังย่น จมูกงุ้ม คางเล็ก มีสันนูนเด่นที่หัวคิ้วทั้งสองข้าง
Hypoplasia
ภาวะที่ไตมีขนาดเล็กกว่าปกติมากกว่าร้อยละ 50
จำนวน renal lobule และ calyx ลดลงด้วย แต่เนื้อไต ไม่มีความผิดปกติ
Supernumerary kidney
ภาวะที่มีจำนวนไตมากกว่าสอง ส่วนใหญ่จะเป็นสามไต
ไตชั้นที่เกินจะแยกออกจากไตปกติหรือเป็นภาวะ "ไตแฝด" ที่ไตสองส่วนอยู่ติดแน่นเป็นไตเดียว
ความผิดปกติในตำแหน่ง รูปร่าง และ Orientation
เมื่อทารกสร้างเซลล์ไตขึ้นมาใหม่ จะอยู่ในอุ้งเชิงกราน ต่อมามีการขยับตำแหน่ง เข้าไปในช่องท้อง ขณะเดียวกันมีการหมุนตัวของไต ให้อยู่ในตำแหน่งผิดปกติ กรณีเช่นนี้ไม่ทำให้ทารก มีอาการผิดปกติ และทารกยังคงมีชีวิตอยู่ตามปกติได้
Ectopia
ภาวะที่ไตอยู่ในตำแหน่งที่ผิดปกติ เช่น อยู่ในอุ้งเชิงกรานอาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง
Malrotation
ภาวะที่ไตมี renal pelvis และ ureter อยู่ทางด้านหน้า
Fusion of kidneys หรือ Horseshoe kidney
การเชื่อมกันตรงกลางระหว่างเนื้อไตทั้งสองข้าง
Renal cystic diseases
เป็นรอยโรคที่อาจเป็นพันธุกรรมการเจริญผิดปกติ หรือเกิดขึ้นภายหลัง
มักก่อให้เกิดปัญหาในการวินิจฉัยแยกจากเนื้องอกของไต
Polycystic kidney disease
แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
Adult type
พบได้บ่อย เป็นทั้งสองข้าง
ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แบบ autosomal dominant
ไตจะมีขนาดใหญ่ขึ้น บางครั้งหนักได้ถึง 4 กิโลกรัม
ผิวนอกตะปุ่มตะป่ำ หน้าตัดประกอบด้วย cyst ขนาดใหญ่ 3-4 เซนติเมตร
Infantile type
พบได้ตั้งแต่ทารกแรกคลอด มักจะเสียชีวิตในระยะแรกๆ
ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แบบ autosomal recessive
ไตมีขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง ผิวหนังนอกเรียบหน้าตัดพบ cyst ทั้งที่ cortex และ medulla ทำให้เนื้อมีลักษณะพรุนแบบฟองน้ำ
Medullary cyst
Medullary sponge kidney
มีการขยายใหญ่เป็นถุงของ collecting tubule ของ medulla
พบในผู้ใหญ่
ไตยังทำงานปกติ
Uremic Medullary cystic disease
เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ มักมีอาการตั้งแต่เด็ก
พบ cyst อยู่ในบริเวณ Medulla
ที่สำคัญคือมี cortical tubular atrophy และinterstitial fibrosis ร่วมด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะไตวายในระยะต่อมา
Simple cyst
อาจพบ cyst เดียวหรือหลายอัน ขนาดอาจจะเล็กหรือใหญ่
มักพบอยู่ในบริเวณ cortex เกิด dilatation ของ tubule อาจทำให้มีเลือดออก หรือ calcification ในภายหลัง
Glomerular diseases
พยาธิสภาพที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน
Glomerulonephritis (GN)
การอักเสบภายนอกไตที่มีผลต่อไต ส่วนใหญเป็นภาวะแพ้ภูมิตนเอง (autoimmunity) เช่น Malaria, Syphilis, Hepatitis และ Systemic Lupus Erythematosus (SLE)
พยาธิสภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
พบได้บ่อยคือ โรคไตจากเบาหวาน(Diabetic nephropathy) หรือจากการรักษาเบาหวาน เช่น การใช้ยากลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย(sulfonylurea) ทำให้เกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ จึงเกิดภาวะขาด ADH ตามมา
จากภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ความดันโลหิตสูง การติดเชื้อในกระแสเลือด
กลไกการเกิด
2) การเปลี่ยนแปลงกลไกการทำงานของ Renin
ปกติ juxtaglomerular cell มีหน้าที่สร้าง Prorenin และเปลี่ยนเป็นเรนิน
สำหรับผู้ป่วยโรคไตจากเบาหวานจะพบ prorenin เพิ่มขึ้น และการหลั่งเรนินเข้าสู่กระแสเลือดลดลง
ทำให้เกิดภาวะ hyperkalemia ภาวะกรดเกินเนื่องจากพยาธิสภาพที่หลอดฝอยไต (renal tubular acidosis) และภาวะน้ำเกินตามมา
1) การกรองเพิ่มขึ้น (hyperfiltration)
เนื่องจากกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดนำเลือดเข้าโกลเมอรูลัส มีระดับน้ำตาลภายในเซลล์ลดลง
ทำให้ขาดพลังงานในการหดตัว เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด เลือดจึงไหลเวียนไปกรองที่ไตเพิ่มขึ้น
Tubulo-interstitial diseases
เป็นกลุ่มของโรคที่มีความผิดปกติในรูปร่างและหน้าที่ของtubule และ interstitium ของไต
เกิดจากสาเหตุหลายอย่างได้แก่ ยา การติดเชื้อ immunological reaction แบ่งเป็น
Acute interstitial nephritis
พบ interstitial edema ร่วมกับ leukocytic infiltration และ tubular necrosis
Chronic interstitial nephritis
พบ interstitial fibrosis , tubular atrophy และ mononuclear cell infiltration
Tubular diseases
โรคที่สำคัญ คือ Acute tubular necrosis (ATN)
เป็นภาวะที่มีการถูกทำลายอย่างเฉียบพลันของ Renal tubule
เกิดจากการขาดเลือดไปเลี้ยงไตเป็นเวลานาน
ชนิดของ Acute tubular necrosis (ATN)
Nephrotoxic type : ได้รับสารพิษ
Ischemic type : shock
มี3 ระยะ
ระยะที่ 1 Oliguric phase
เกิดในช่วงแรก เมื่อมีการตายของ renal tubule ทำให้ renal cell หลุดมาอุดตันทางเดินปัสสาวะ
ปัสสาวะจึงออกน้อย และมีอาการบวมร่วมด้วย
ระยะที่ 2 Diuretic phase
เกิดในช่วงกลาง
เมื่อเวลาผ่านไป tubular cell ที่ตายมีการสลายไปและมีการสร้าง cell ใหม่
cell ใหม่ที่สร้างไม่สามารถดูดกลับน้ำได้เต็มที่ ปัสสาวะจึงออกมาก
ระยะที่ 3 Recovery phase
เกิดในช่วงหลัง
เมื่อนานเข้า tubular cell สามารถดูดน้ำกลับได้ปกติ ปัสสาวะจึงมีปริมาณปกติ
Urinary tract infection ( UTI)
กรวยไตอักเสบ( Pyelonephritis)
อาจเกิดเพียงข้างเดียว หรือ เกิดพร้อมกันทั้งสองข้างแบ่งเป็น
Acute Pyelonephritis
เกิดทันที และรุนแรง แต่เมื่อได้รับการรักษา จะหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์
มีอาการไตบวมโตมีเลือดคั่งมากขึ้น พบจุดหนองกระจายเป็นทางจากผิวลึกลงไปในส่วน cortex ,medulla และ renal pelvis
รายที่รุนแรง เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือในรายที่มีการอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะร่วมด้วยอาจมีการตายของrenal papilla เรียกว่า Renal papillary necrosis
Chronic Pyelonephritis
เป็นการอักเสบไม่รุนแรง แต่เป็นๆหายๆ
ไตจะมีขนาดเล็กลง ผิวขรุขระ เนื่องจากรอยแผลเป็น (scar) รูป “U” ที่เกิดจากการทำลายของเนื้อไตแล้วแทนที่ด้วย fibrosis ร่วมกับ deformity ของ calyx ที่อยู่ใกล้เคียง
มักเกิดจากการควบคุมสาเหตุของโรคไม่ได้ เช่น นิ่วในไตเรื้อรัง หรือ ต่อมลูกหมากโต
นิ่วในทางเดินปัสสาวะ Urolithiasis , urinary calculi
ประกอบด้วย amorphous crystalloid ได้แก่ uric acid, calcium , oxalate และ magnesium phosphate
ปัจจัยส่งเสริม ได้แก่
crystalloid conc. เพิ่มขึ้นในปัสสาวะ : ปัสสาวะน้อย
crystalloid ตกตะกอนมากขึ้น : การคั่งของปัสสาวะ
Foreign bodies : แบคทีเรีย
Nephrocalcinosis
ภาวะที่มี calcium สะสมในเนื้อไต
Nephrocalcinosis เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดนิ่วในไต
สาเหตุเกิดจาก Hypercalcemia
กลไกการเกิด
การมีระดับแคลเซียมในเลือดสูง
เมื่อเลือดกรองที่ไต แคลเซียมส่วนหนึ่งจะถูกดึงไว้ในกระดูกเพื่อใช้ในยามจำเป็น ส่วนที่เหลือใช้จะถูกขับออกทางปัสสาวะ
เมื่อเลือดมีแคลเซียมสูง ร่างกายจะขับแคลเซียมออกไม่หมด เกิดการตกตะกอนของแคลเซียมในเนื้อไต
Urinary tract obstruction ภาวะที่มีการอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ
สาเหตุ
ความพิการแต่กำเนิด
การอุดกั้นจากรอยโรคที่เกิดขึ้นภายหลัง ได้แก่ นิ่ว เนื้องอก การอักเสบ ก้อน renal papillae ที่ตายหรือก้อนเลือด การตั้งครรภ์
ความผิดปกติของระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ
Hydronephrosis
• ภาวะที่มี dilatation ของ renal pelvis และ Calyx ร่วมกับมี Progressive atrophy ของเนื้อไต
• สาเหตุจากการอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ
• อาจเป็ นข้างเดียวหรือสองข้าง
ผลจาก Urinary tract obstruction
ทำให้ทางเดินปัสสาวะส่วนที่อยู่เหนือตำแหน่งที่มีการอุดตันขึ้นไปขยายตัว (dilatation)
มีโอกาสเกิดนิ่วและการติดเชื้อเพิ่มขึ้น และ ทำลายเนื้อไตอย่างถาวร
ความผิดปกติในส่วนของ Ureter
พยาธิสภาพที่สำคัญ คือ
-การอุดกั้น
-เนื้องอก
-vesicoureteral reflux
เป็นความผิดปกติที่เกิดจากมีการไหลย้อนกลับของน้ำปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะเข้าไปในหลอดไตและ renal pelvis
พบมากในเด็ก อาจทำให้มีการติดเชื้อและเป็นสาเหตุหนึ่งของ pyelonephritis
สาเหตุ
• การทำศัลยกรรมทางการแพทย์
• การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
• การบาดเจ็บจากภายนอก
• พันธุกรรม
• มีความผิดปกติของ sphincter
• มีการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะส่วนที่ออกจากกระเพาะปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ(Cystitis)
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
มักจะเกิดในผู้หญิง เนื่องจากท่อปัสสาวะสั้น และรูเปิดของท่อปัสสาวะอยู่ใกล้ทวารหนัก ทำให้ติดเชื้อ สามารถเข้าไปในท่อปัสสาวะ
สาเหตุ
• การกลั้นปัสสาวะ
• หลังการกระเทือนหรือหลังมีเพศสัมพันธ์
• เกิดการอักเสบของท่อปัสสาวะ
• มีสิ่งแปลกปลอมในท่อทางเดินปัสสาวะ
• อาหารหรือยาบางอย่าง เช่น อาหารที่มีเกลือมาก
• ดื่มน้ำน้อย ดื่มแอลกอฮอล์มาก
ท่อปัสสาวะอักเสบ (Urethritis)
เป็นการบาดเจ็บ อักเสบ บวม ของเซลล์เยื่อเมือกบุท่อปัสสาวะ เกิดจากหลายสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะจากเชื้อแบคทีเรีย
สาเหตุ
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
ติดเชื้อจากโรคหนองใน หรือโกโนเรีย (Gonococcal urethritis)
จากเชื้อที่ไม่ใช่หนองใน เช่น โรคเริม โรคซิฟิลิสจากการติดเชื้อHIV หรือ โรคเอดส์
การติดเชื้อที่ไม่ใช่จากเพศสัมพันธ์ เช่น
เชื้อ E. coli (Staphylococcus) หรือ เชื้อ Pseudomonas ซึ่งอาจติดต่อผ่านมาทางลำไส้(ทางอุจจาระ) หรือทางไตหรือทางกระเพาะปัสสาวะ (ทางปัสสาวะ)
สาเหตุที่ไม่ใช่จากการติดเชื้อ
การบาดเจ็บของท่อปัสสาวะจากการสวนปัสสาวะ
อาการ
อาการท่อปัสสาวะอักเสบในผู้ชาย โดยทั่วไปอาการจะเหมือนผู้หญิง ที่แตกต่าง คือ
-อาจมีหนองออกจากปลายท่อปัสสาวะ (ปลายอวัยวะเพศ)
-อาจคลำได้ต่อมน้ำเหลืองขาหนีบโต เจ็บ ข้างเดียว หรือ ทั้งสองข้าง
นางสาวกัณนิภา นักร้อง เลขที่ 1
รหัสนักศึกษา 6301110801001