Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การติดเชื้อที่มาจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์💁♀️ - Coggle Diagram
การติดเชื้อที่มาจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
💁♀️
การตกขาวผิดปกติ
🤷♀️
ภาวะที่มีการตกขาวเพิ่มมากกว่าปกติ ร่วมกับมีอาการคัน หรือปวดแสบร้อน ตกขาวมีกลิ่นเหม็น และอาการจะไม่หายไปเอง
การตกขาวจากการติดเชื้อรา
(Vulvovaginal candidiasis)
ปัจจัยและปัจจัยเสี่ยง
ได้รับฮอร์โมนสเตียรอยด์ และยากดภูมิต้านทาน
การใส่แผ่นอนามัยโดยไม่เปลี่ยนระหว่างวัน
รับประทานยาปฏิชีวนะอย่างต่อเนื่อง
ภาวะความเป็นกรด-ด่าง ในช่องคลอดที่เปลี่ยนไป
การตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้น ทําให้ระดับ glycogen ในช่องคลอดสูงขึ้นตาม
ความเครียด การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
ใช้น้ำยาล้างทําความสะอาดช่องคลอด และปากช่องคลอดบ่อยๆ
สวมใส่ชุดชั้นในแน่นเกินไป
รับประทานอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลมาก
การควบคุมภาวะเบาหวานไม่ดี
ภูมิต้านทานถูกกดจากการเป็นโรคเอดส์ หรือการได้รับเคมีบําบัด
รับประทานยาคุมกําเนิดชนิดมีปริมาณฮอร์โมนมาก
อาการและอาการแสดง
คัน ระคายเคืองในช่องคลอดและปากช่องคลอด ปากช่องคลอดเป็นผื่นแดง ช่องคลอดอักเสบ บวมแดง ตกขาวสีขาวขุ่น เหมือนนมตกตะกอน ไม่มีกลิ่น
ปัสสาวะลําบาก และแสบขัดตอนสุด
ร้อยละ 20 ของผู้ติดเชื้อราจะไม่มีอาการ
เจ็บขณะร่วมเพศ
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
การติดเชื้อราในช่องคลอดทั้งแบบไม่มีอาการและมีอาการ ไม่มีผลเสียต่อการตั้งครรภ์
ผลกระทบต่อทารก
เป็น oral thrush ได้มากกว่าปกติ 2-35 เท่า
การประเมินและการวินิจฉัย
การซักประวัติ
ประวัติอาการและอาการแสดง
ระยะเวลาที่แสดงอาการ
ประวัติอาการตกขาวผิดปกติและการรักษา
การตรวจร่างกาย
พบช่องคลอดบวมแดง
ตกขาวมีลักษณะขุ่นรวมตัวกันเป็นก้อน
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
3.1 การตรวจด้วยวิธี wet mount smear
3.2 การตรวจด้วยวิธี gram stain
แนวทางการรักษา
2% Miconazole cream 5 กรัม
Miconazole 100 มิลลิกรัม 1 เม็ด
Clotrimazole 100 มิลลิกรัม 1 เม็ด
1% Clotrimazole cream 5 กรัม
การพยาบาล
ระยะคลอด
สามารถให้คลอดทางช่องคลอดได้ตามปกติ
ระยะหลังคลอด
ดูแลมารดาหลังคลอดเหมือนมารดาหลังคลอดทั่วไป
เน้นการดูแลความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกให้สะอาดและแห้งเสมอ
เลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดาได้ โดยต้องล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสบุตร
ทารกแรกเกิดอาจมีการติดเชื้อในช่องปาก พบมีฝ้าขาวในช่องปาก ให้ปรึกษากุมารแพทย์เพื่อการดูแลทารก
ระยะตั้งครรภ์
แนะนำการใช้ยาทา และยาเหน็บช่องคลอดตามแพทย์สั่ง
อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์ เข้าใจสาเหตุของการติดเชื้อ และการดูแลตนเอง
หากติดเชื้อซ้ำ หรือสามีมีอาการแสดง ควรพาสามีมารักษาพร้อมกัน
การตกขาวจากการติดเชื้อพยาธิ
(Vaginal trichomoniasis)
อาการและอาการแสดง
ตกขาวมีสีขาวปนเทา หรือสีเหลืองเขียว ตกขาวเป็นฟอง กลิ่นเหม็น
ระคายเคืองที่ปากช่องคลอด ในช่องคลอด ปากช่องคลอดบวมแดง ปากมดลูกอักเสบ
ผู้ติดเชื้อร้อยละ 10 ไม่แสดงอาการ ผู้ติดเชื้อร้อยละ 50 มักจะพบโรคคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นร่วมด้วย
ปัสสาวะแสบขัด ปวดแสบปวดร้อนบริเวณต้นขาด้านใน
เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
ภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกําหนด
การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกําหนด
ผลกระทบต่อทารกในครรภ์
ทารกคลอดก่อนกําหนด
ทารกแรกเกิดมีน้ำหนักตัวน้อย
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวัติ
ประวัติการตกขาว ลักษณะและอาการ
การตรวจร่างกาย
การตรวจภายในช่องคลอด
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
wet mount smear
แนวทางการรักษา
ในไตรมาสแรก ใช้ clotriamazole100 มิลิกรัม
หลังไตรมาสแรกรักษาด้วย metronidazole
ให้การรักษาสามีไปด้วย โดยให้ metronidazole หรือ tinidazole
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
ให้คําแนะนําและการดูแลเหมือนสตรีตั้งครรภ์ทั่วไป
แนะนําการเหน็บยา หรือการรับประทานยาตามแผนการรักษา
แนะนําให้สามีมารับการรักษาพร้อมกัน
แนะนําการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
แนะนําการรักษาความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
ระยะคลอด
คลอดทางช่อคลอดได้ตามปกติ
ระยะหลังคลอด
ให้การพยาบาลเหมือนมารดาหลังคลอดทั่วไป
แนะนําให้เลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา โดยล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสบุตร
ยังไม่ดีขึ้น พบแพทย์และดูแลความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกเสมอ
ติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด ต้องรับการรักษาทั้งสามีและภรรยาให้หาย งดการมีเพศสัมพันธ์ และรักษาให้หาย แนะนําการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
การตกขาวจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
(Bacterial vaginosis)
อาการและอาการแสดง
คัน ปวดแสบปวดร้อนปากช่องคลอด ในช่องคลอด ถ่ายปัสสาวะลําบาก แสบขัด เจ็บขณะร่วมเพศ ตกขาวสีขาว สีเทา หรือสีเหลือง ข้นเหนียว มีกลิ่นเหม็นเน่าเหมือนคาวปลา
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
ผลกระทบต่อทารก
ทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อย
ทารกคลอดก่อนกําหนด
เชื้อแบคทีเรียในหลอดลม
แบคทีเรียในเลือด
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
อาจทําให้เกิดการแท้งติดเชื้อ
มารดาหลังคลอดอาจมีไข้ ปวดท้องมากและมีอาการแสดงของเยื่อบุมดลูกอักเสบ
ถ้าไม่ได้รักษา อาจทําให้มีการติดเชื้อราได้ง่ายขึ้น
การประเมินและวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย
การเพาะเชื้อ
ตรวจ Wet smear
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจทางช่องคลอดและการทํา pap smear
การซักประวัติ
ประวัติการตกขาว ลักษณะและอาการ
แนวทางการรักษา
ให้ยา metronidazole 250 มิลลิกรัม
ให้ampicillin 500 มิลลิกรัม
การพยาบาล
ระยะหลังคลอด
2.สามารถเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาได้ เน้นเรื่องการล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสบุตร
หากมีอาการผิดปกติให้รีบมาพบแพทย์ทันที
ให้การดูแลเหมือนมารดาหลังคลอดทั่วไป
เน้นการทําความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์ให้สะอาดและแห้ง
ระยะคลอด
ให้การพยาบาลเหมือนผู้คลอดทั่วไป
ระยะตั้งครรภ์
รักษาความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกไม่ให้อับชื้น
แนะนําให้พาสามีไปตรวจและรักษาโรคพร้อมกัน
รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ และเน้นย้ำความสําคัญของการมาตรวจตามนัด
แนะนําการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
ให้คําแนะนําและการดูแลเหมือนสตรีตั้งครรภ์ทั่วไป
หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
โรคที่ติดต่อจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรค หรือผู้ติดเชื้อไม่ว่าจะเป็นทางปาก ทางช่องคลอด หรือทางทวารหนัก นอกจากนี้โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิดยังสามารถแพร่กระจายเชื้อจากสตรีตั้งครรภ์ไปสู่ทารก
ซิฟิลิส (Syphilis)
🤷♀️
เกิดจากการติดเชื้อ Treponema pallidum เชื้อ T. Pallidum สามารถติดจากคนสู่คนโดยการสัมผัสโดยตรงกับแผลหรือเยื่อบุที่มีรอย
ถลอกเล็กๆ และสตรีตั้งครรภ์สามารถผ่านเชื้อนี้ไปให้ทารกที่อยู่ในครรภ์ได้
พยาธิสรีรภาพ
ภายหลังได้รับเชื้อสู่ร่างกายร่างกายจะสร้างantibody ต่อเชื้อชนิด IgM และ IgG ขึ้นมาเชื้อจะแบ่งตัวทําให้บริเวณผิวหนังหรือบริเวณเนื้อเยื่อที่เชื้อผ่านเข้าไปจะเกิดการระคายเคือง เกิดปฏิกิริยา lymphocyte และ plasma cell reaction
อาการและอาการแสดง
1. ซิฟิลิสระยะแรก หรือระยะที่หนึ่ง (primary stage)
จะเกิดแผล กลม นิ่ม ขอบนูนแข็ง ไม่เจ็บ เรียว่าแผล chancre
2. ซิฟิลิสระยะที่สอง (secondary stage)
พบผื่นกระจายทั่วร่างกาย ฝ่ามือฝ่าเท้า เยื่อบุรวมทั้งอวัยวะสืบพันธุ์
ผื่นพบบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์จะยกนูน ร่วมกับมีอาการไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต เจ็บคอ ผมร่วงเป็นหย่อมๆ ปวดศีรษะ น้ำหนักลด
3. ระยะแฝง (latent syphilis)
ไม่มีอาการใดๆ การติดเชื้อยังดําเนินอยู่และสามารถแพร่กระจายเชื้อได้
4. ซิฟิลิสระยะที่ 3 หรือระยะท้ายของโรคซิฟิลิส (tertiary syphilis)
ผิวหนังอักเสบ กระดูกผุ เยื่อบุสมองอักเสบ
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
ทําให้ผิวหนังและเนื้อเยื่ออักเสบ คลอดก่อนกําหนด และแท้งบุตร
ผลต่อทารก
ทารกคลอดก่อนกําหนด ตายคลอด ทารกแรกเกิดติดเชื้อซิฟิลิส ทารกพิการแต่กําเนิด
การประเมินและวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย
พบไข้ต่ำๆครั่นเนื้อครั่นตัว
อวัยวะสืบพันธ์ภายนอกพบแผลที่มีลักษณะขอบแข็ง กดไม่เจ็บ
ผื่นบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตแต่กดไม่เจ็บ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
หากไม่มีแผลหรือผื่น การวินิจฉัยทําโดยการตรวจเลือด
การคัดกรองส่วนใหญ่นิยมใช้การตรวจด้วยวิธี VDRL
1.ระยะที่เป็นแผลสามารถวินิจฉัยโดยการตรวจหาเชื้อ T. Pallidum
การซักประวัติ
ประวัติเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อซิฟิลิส หรือมีประวัติเคยป่วยด้วยโรคซิฟิลิสมาก่อน ประวัติเกี่ยวกับผลการตรวจซิฟิลิส
แนวทางการรักษา
การรักษาเป็นแนวทางเดียวกับสตรีที่ติดเชื้อซิฟิลิสขณะไม่ตั้งครรภ์
ให้ยา Penicillin G
ในระยะ primary, secondary และ early latent syphilisรักษาด้วยBenzathine Penicillin G Sodium 2.4 ล้านยูนิต
การรักษาในระยะ late latent syphilis จะรักษาด้วย Benzathine Penicillin G Sodium 2.4 ล้านยูนิต
หนองใน (Gonorrhea)
🤷♀️
เกิดจากการติดเชื้อ Neiseria gonorrheae หรือ gonococcus (GC)
พยาธิสรีรภาพ
เชื้อ Neiseria gonorrheaeเข้าสู่ร่างกาย จะเข้าไปเกาะติดกับเซลล์เยื่อบุและเซลล์ขับเมือก ผ่านเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเข้าไปเพิ่มจํานวนเซลล์ในชั้น subepithelial tissue จากนั้นเชื้อ Neiseria gonorrheaeจะทําปฏิกิริยากับภูมิต้านทานของร่างกาย ทําให้เกิดสารเคมีที่เป็นพิษต่อเซลล์และเนื้อเยื่อ ส่งผลให้เนื้อเยื่ออักเสบเป็นหนอง
อาการและอาการแสดง
ตกขาวเป็นหนองข้น
กดเจ็บบริเวณต่อมบาร์โธลิน
ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย กระปิดกระปรอย เป็นหนองข้น และปัสสาวะเป็นเลือด
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
ไม่มีอาการ มีบุตรยาก
มีอาการขณะตั้งครรภ์
ถุงน้ําคร่ำอักเสบและติดเชื้อ
ถุงน้ําคร่ำแตกก่อนกําหนด
แท้งบุตร
เจ็บครรภ์คลอดก่อนกําหนด
ผลกระทบต่อทารก
ทําให้เกิดตาอักเสบ
ช่องปากอักเสบ
หูอักเสบ
กระเพาะอาหารอักเสบ
การประเมินและวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย
ตรวจทางช่องคลอดจะพบหนองสีขาวขุ่น
เลือดปนหนอง
ขาหนีบบวม
กดเจ็บบริเวณต่อมบาร์โธลิน
การซักประวัติ
ประวัติเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อหนองใน
มีประวัติเคยป่วยด้วยโรคหนองในมาก่อน
ประวัติเกี่ยวกับอาการและอาการแสดง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจ gram stain smear
แนวทางการรักษา
ตรวจคัดกรองขณะตั้งครรภ์ตามปกติ(VDRL)
ให้ยา ceftriaxone, azithromycin, penicillin
ยาป้ายตา 1% tetracycline ointment หรือ 0.5% erythromycin ointment หรือ 1% Silver nitrate (AgNO3) หยอดทางตาทารก
ทารกมีการติดเชื้อหนองใน รับยาปฏิชีวนะ ceftriaxone
มีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นร่วมด้วยหรือไม่ มี ควรรักษาพร้อมกัน ตรวจและรักษาคู่นอนด้วย
การติดเชื้อเริม
(Herpes simplex)
🤷♀️
พยาธิสรีรภาพ
เชื้อเข้าสู่ร่างกายทําให้ผิวหนังเป็นตุ่มน้ำใส เล็กๆ เมื่อตุ่มน้ำแตก จะเกิดแผลตื้น ทําให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่แผล เชื้อก็จะเดินทางไปแฝงตัวที่ปมประสาท กระตุ้นให้เกิดการอักเสบเมื่อภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำ
อาการและอาการแสดง
การติดเชื้อปฐมภูมิ มีอาการปวดแสบปวดร้อน และคันบริเวณที่สัมผัสโรค จะกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ
ไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต
เคยติดเชื้อ HSV มักเกิดการติดเชื้อซ้ำเมื่อภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำ เหมือนติดเชื้อปฐมภูมิ อาการไม่ค่อยรุนแรง
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกําหนด
เพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้ง
ผลกระทบต่อทารก
ผลกระทบต่อทารก
ทารกคลอดก่อนกําหนด
กิดความพิการแต่กําเนิดสูง
ทารกเสียชีวิต
ทารกอาจติดเชื้อขณะคลอด
การประเมินและการวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย
พบตุ่มน้ำใส
ตุ่มน้ำแตกจะพบแผลอักเสบ แดง ปวดแสบปวดร้อน
ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต กดไม่เจ็บ
การซักประวัติ
ประวัติเกี่ยวกับการเคยติดเชื้อเริม
ประวัติเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นเริมที่อวัยวะสืบพันธ์
ประวัติเกี่ยวกับอาการและอาการแสดง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การขูดเนื้อเยื่อจากแผลมาทําการ exfoliative cytology หรือ pap smear
3 การทําให้ตุ่มน้ําแตกแล้วขูดบริเวณก้นแผลมาป้ายสไลด์แล้วย้อมสี
การเพาะเชื้อใน Hank’s medium
แนวทางการรักษา
ให้ Acyclovir 200 mg รับประทาน
มีอาการระบบอื่นรุนแรงร่วมด้วยให้ Acyclovir 5 mg/kg ฉีดเข้าหลอดเลือดดํา
การรักษาในระยะคลอด
3.1 ไม่พบรอยโรคให้คลอดทางช่องคลอด และเฝ้าระวังทารก
3.2 กรณีที่พบรอยโรคให้คลอดโดยการผ่าตัดคลอด และเฝ้าระวังทารก
1.รักษาแบบประคับประคองตามอาการ
ให้ยาแก้ปวด
าปฏิชีวนะในรายที่มีการติดเชื้อซ้ำ
ล้างแผลด้วย NSS
หูดหงอนไก่
(Condyloma acuminate)
🤷♀️
เกิดจากการติดเชื้อ human papilloma virus (HPV) มีระยะฟักตัวนาน 2-3 เดือน ติดต่อจากการสัมผัสรอยโรคโดยเฉพาะทางเพศสัมพันธ์
อาการและอาการแสดง
ติ่งเนื้อสีชมพูคล้ายหงอนไก่
มีผิวขรุยระคล้ายดอกกะหล่ำและยุ่ยมาก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลต่อทารก
เกิด laryngeal papillomatosis
ทารกอาจติดเชื้อหูดหงอนไก่
เกิดการอุดกั้นของระบบทางเดินหายใจส่วนบน
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
เกิดการตกเลือดหลังคลอด
มีโอกาสเกิดมะเร็งปากมดลูก
การประเมินและการวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย
พบติ่งเนื้อสีชมพูคล้ายหงอนไก่ ผิวขรุขระคล้ายดอกกะหล่ำ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา
ตรวจ Pap smear
ตรวจหาเชื้อ HPV
การตรวจ DNA
การซักประวัติ
ประวัติเคยติดเชื้อหูดหงอนไก่
เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นหูดหงอนไก่
อาการและอาการแสดง
แนวทางการรักษา
แนะนําการรักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงการอับชื้น
ใช้ยาร่วมกับ laser หรือ cryosurgery หรือ electrocoagulation with curettage
หูดหงอนไก่มีขนาดใหญ่ อาจพิจารณาผ่าตัดคลอด
ทา 85% trichlorracetic acid หรือ bichloroacetic acid
การติดเชื้อเอชไอวีในสตรีตั้งครรภ์
(Human Immunodeficiency Virus [HIV]during pregnancy)
🤷♀️
สามารถติดต่อผ่านทางเลือด ทางเพศสัมพันธ์ และจากมารดาสู่ทารก
การประเมินและการวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย
ตรวจร่างกายทั่วไป
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจหา antibody ต่อเชื้อ HIV
การตรวจนับเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 lymphocyte และการตรวจวัดปริมาณ viral load
การตรวจเชื้อ HIV
การซักประวัติ
เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ
ประวัติการใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
อาการและอาการแสดง
การตรวจพิเศษ
ตรวจเสมหะและเอกซเรย์
เจาะหลังในรายที่สงสัยจะเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ส่องกล้องตรวจดูทางเดินอาหาร
การป้องกันและการรักษา
การให้ยาต้านไวรัสแก่สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ HIV
การให้ยาเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อฉวยโอกาสระหว่างตั้งครรภ์
พิจารณาระยะเวลาที่จะให้คลอดและวิธีการคลอด
การพยาบาล
ระยะคลอด
ให้การดูแลเช่นเดียวกับผู้คลอดทั่วไป
หากปริมาณ viral load ≤ 50 copies/mL
ทําคลอดด้วยวิธีที่ทําให้เกิดการบาดเจ็บต่อผู้คลอดและทารกน้อยที่สุด
ดูแลให้ผู้คลอดและทารกได้รับยาต้านไวรัสตามแผนการรักษา
เตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการช่วยเหลือทารกแรกเกิด
ประเมินอาการเปลี่ยนแปลงและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
ดูแลผู้คลอดโดยยึดหลัก universal precaution
ระยะหลังคลอด
1.ดูแลมารดาหลังคลอดโดยยึดหลัก universal precaution
ให้คําแนะนําแก่มารดาหลังคลอด
ระยะตั้งครรภ์
ให้ความรู้แก่สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวเกี่ยวกับหลักมาตรฐานในการควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
แนะนําให้มาฝากครรภ์ตามนัดทุกครั้ง
ประเมินภาวะแทรกซ้อนจากการได้รัยยาต้านไวรัส
ให้ข้อมูลแก่สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวเกี่ยวกับการดําเนินของโรค
แนะนําการปฏิบัติตัวของสตรีตั้งครรภ์
7.3 หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับบุคคลที่ติดเชื้อ
7.4 หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทําให้ร่างกายอ่อนแอ
7.2 รักษาความสะอาดของร่างกายและอวัยวะสืบพันธุ์
7.5 แนะนําเกี่ยวกับความสําคัญของการมาตรวจตามนัด
7.1 รับประทานยาตามแผนการรักษา
คัดกรองสตรีตั้งครรภ์และสามีที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ประเมินระดับความวิตกกังวล
ให้การพยาบาลด้วยท่าทีที่ปราศจากความรังเกียจ ให้กําลังใจ
พยาธิสรีรภาพ
เซลล์เม็ดเลือดขาวที่ติดเชื้อ HIV จะแตกสลายง่าย ส่งผลให้เม็ดเลือดขาวในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว ทําให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่อง เกิดภาวะ seroconversion
อาการและอาการแสดง
1. ระยะเริ่มแรกของการติดเชื้อ HIV
เริ่มมีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว มีผื่นขึ้น ต่อมน้ําเหลืองโต
บางราย มีคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว หรือมีฝ้าขาวในช่องปาก
2. ระยะติดเชื้อโดยไม่มีอาการ
ร่างกายจะแข็งแรงเป็นปกติเหมือนคนทั่วไป
3. ระยะติดเชื้อที่มีอาการ
มีอุณหภูมิร่างกายสูงมากกว่า 37.80C เป็นพักๆ
น้ำหนักลดเกิน 10% ของน้ำหนักตัว
ท้องเดินเรื้อรัง
ต่อมน้ำเหลืองโตมากกว่า 1 แห่ง เป็นงูสวัด
พบเชื้อราในปากหรือฝ้าขาว
4. ระยะป่วยเป็นเอดส์
ไข้ ผอม ต่อมน้ำเหลืองโตหลายแห่ง ซีดช่องปากเป็นฝ้าขาว แผลเริมเรื้อรัง ผิวหนังเป็นแผลพุพอง
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
เกิดโรคแทรกซ้อนจากการติดเชื้อฉวยโอกาสได้ง่ายขึ้น
ผลกระทบต่อทารก
ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
ทารกคลอดก่อนกําหนด
ทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อย
ทารกมีขนาดเล็กกว่าอายุครรภ์
ทารกตายคลอด
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซิฟิลิส หนองใน เริม และหูดหงอนไก่
🤷♀️
ระยะคลอด
ดูแลผู้คลอดโดยยึดหลัก universal precaution
หลีกเลี่ยงการทําหัตถการทางช่องคลอด
ดูแลให้ผู้คลอดและทารกได้รับยาตามแผนการรักษา
หากไม่สามารถคลอดทางช่องคลอดได้ เตรียมผู้คลอดให้พร้อมสําหรับการผ่าตัด
ระยะหลังคลอด
แนะนํามารดาหลังคลอดเกี่ยวกับการดูแลรักษาความสะอาดร่างกาย
แนะนําและดูแลมารดาหลังคลอดปกติ หรือหลังการผ่าตัดคลอด เช่นเดียวกับมารดาหลังคลอดทั่วไป
ให้การพยาบาลมารดาหลังคลอดโดยยึดหลัก universal precaution
ดูแลให้มารดาหลังคลอดและทารกได้รับยาป้องกันการติดเชื้อ
แนะนําการเลี้ยงบุตร โดยล้างมือให้สะอาดก่อนจับทารกทุกครั้ง
ประเมินอาการติดเชื้อของทารกแรกเกิด
ระยะตั้งครรภ์
แนะนําการปฏิบัติตัวของสตรีตั้งครรภ์และสามี
4.2 หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์
4.3 หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลและหนอง และล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังการสัมผัส
4.1 รับประทานยา ฉีดยา หรือทายาตามแผนการรักษา
4.4 แนะนําให้ทําความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ทุกครั้งหลังการขับถ่ายและอาบน้ำ
4.5 แนะนําเกี่ยวกับความสําคัญของการมาตรวจตามนัด การสังเกตอาการผิดปกติ
แนะนําให้นําสามีมารับการตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคและหากมีการติดเชื้อแนะนําให้รักษาพร้อมกัน
อธิบายให้เข้าใจการดําเนินของโรค อันตรายของโรคต่อการตั้งครรภ์ แผนการรักษาพยาบาล การป้องกันสุขภาพ
คัดกรองและประเมินภาวะสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลการรักษาอย่างสม่ําเสมอ