Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 2 การกำหนดปัญหาการ วิจัยและการทบทวนวรรณกรรม - Coggle Diagram
บทที่ 2 การกำหนดปัญหาการ
วิจัยและการทบทวนวรรณกรรม
Research problem สิ่งที่เกิดความสงสัยใคร่รู้คำตอบ เปรียบเสมือนเป็นคำถามของการวิจัยเรื่องนั้นว่าต้องการหาคำตอบอะไร
แหล่งของปัญหาที่จะทำวิจัย
ตัวผู้วิจัย มีประสบการณ์/สนใจ/
สังเกต
ทฤษฎี/วรรณกรรมในสาขาที่เกี่ยวข้อง
ผู้นำทางวิชาการ
แหล่งทุนอุดหนุนการวิจัย
หน่วยงานที่ผู้วิจัยทำงาน
ข่าวในสื่อมวลชน
ข้อเสนอแนะของผลการวิจัยที่ทำมาแล้ว
ปัญหาที่ได้จากผู้อื่น
ลักษณะของการเขียนปัญหาการวิจัย
อยู่ในรูปประโยคคำถามและไม่กำกวม
แสดงความสัมพันธ์ของตัวแปร
สามารถตรวจสอบได้
การวิเคราะห์/ประเมินปัญหาการวิจัย
Personal Factors
อยู่ในแนวเดียวกับวัตถุประสงค
สนใจปัญหา
มีความรู้เกี่ยวกับปัญหาที่จะทำวิจัย
ความเพียงพอของเครื่องมือวิจัย
เวลา/งบประมาณ
ข้อมูลที่จะได้รับเพื่อการวิจัย
ปัญหาวิจัยมีความกว้าง/ครอบคลุม
วัตถุประสงค์
การสนับสนุนจากสถาบัน/หน่วยงาน
Social Factors
เสริมสร้างความรู้
เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงาน/เป็นประโยชน์ต่องานวิจัยอื่น
นำไปใช้ประโยชน์ได้
ไม่ซ้ำซ้อนกับคนอื่น
เกณฑ์สำคัญในการเลือกปัญหาวิจัย
Personal Factors
Social Factors
ความสำคัญของปัญหา
ความเป็นไปได้ที่จะทำวิจัย
ความน่าสนใจ/ทันต่อเหตุการณ์ ความสนใจ ความรู้ ความสามารถ ความแตกต่างของงานวิจัย
ขอบเขตของปัญหา (Scope of the study)
ระบุว่าปัญหาวิจัยจะมีขอบเขตแค่ไหน
ควรเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย
เป็นข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการวิจัย
สมมุติว่าเป็นจริง/ไม่ต้องทดสอบ
ทำความเข้าใจให้ตรงกัน
นิยามศัพท์ (definition of term)
การกำหนดความหมายของคำสำคัญ ทำความเข้าใจให้ตรงกัน
ตั้งชื่อเรื่องการวิจัย/หัวข้อการวิจัย
สอดคล้องและเกี่ยวข้องกับปัญหา ชัดเจน ชี้เฉพาะปัญหา ขึ้นต้นชื่อเรื่องด้วยคำสำคัญของปัญหา ภาษาไม่กำกวม กระชับ
ประโยชน์ของปัญหาการวิจัยที่ชัดเจน
ตั้งชื่อเรื่องการวิจัย/หัวข้อการวิจัย
กำหนดวัตถุประสงค์
ออกแบบ/วางแผนการวิจัย
กำหนดวัตถุประสงค์
ประเด็นที่จะทำการวิจัย เป้าหมายในการวางแผน/ออกแบบการวิจัย ผู้อ่านติดตาม/ประเมินผลงานวิจัย
การทบทวนวรรณกรรม/ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
ต้องอ่าน/เก็บรวบรวมประเด็น แนวความคิด/ทฤษฎี
ต่างๆ เพื่อพัฒนาปัญหาการวิตัยให้กระชับ/ชัดเจนขึ้น
ประโยชน์ของการ Review
ทราบว่ามีใครได้ศึกษามาบ้างแล้ว และผล
การศึกษาเป็นอย่างไร
ทราบถึงความซับซ้อน/ความยุ่งยากของ
ปัญหาวิจัย
เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างข้อค้นพบใน
อดีตกับผลที่จะศึกษาต่อไป
ได้ Idea สำหรับออกแบบการวิจัย
สรุป/อภิปรายผล
ได้กรอบแนวคิด/ได้สมมุติฐาน
แหล่งของวรรณกรรม/ทฤษฎี
รายงานวิจัย วิทยานิพนธ์ วารสารวิชาการ/บทความ หนังสือ/หนังสือพิมพ์ ฯลฯ
กรอบแนวคิดการวิจัย
เป็นการบูรณาการแนวคิด/ทฤษฎีต่างๆจากการ
Review
เป็นการสรุปภาพรวมของแนวคิด/ทฤษฎีที่
เชื่อมโยงกับปัญหาการวิจัยโดยแผนภาพ
ประกอบด้วยตัวแปรและความสัมพันธ์ระหว่าง
ตัวแปร
สมมติฐาน (Hypotheses) สิ่งที่คาดคิดว่าจะเป็นคำตอบของปัญหาการวิจัย เป็นข้อความที่คาดเดาไว้ก่อนว่าสิ่งนั้นสัมพันธืกับสิ่งนี้ ซึ่งนักวิจัยต้องการจะทดสอบว่าเป็นความจริงหรือไม่
ลักษณะสมมติฐานที่ดี
มีความชัดเจน/เฉพาะเจาะจง
เป็นสิ่งที่ทดสอบได้
ไม่มีขอบเขตกว้างเกินไป
สอดคล้องกับความเป็นจริงเกี่ยวกับเรื่องที่
ศึกษา
ใช้ภาษาง่ายๆ อาจมีหลายข้อได้
ทดสอบได้ภายในเวลา/งบประมาณที่มี
สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย
ประโยชน์ของสมมติฐาน
จำขอบเขตและทำให้ปัญหาในการวิจัยชัดเจนขึ้น
เลือกข้อมูลที่จะศึกษาได้ถูกต้อง/ตรงประเด็น
ช่วยพิจารณาตัวแปรที่จะนำมาศึกษา
ช่วยในการกำหนดแบบแผนการวิจัย
กำหนดขอบเขตการตีความหมายผลการวิจัย/
และสรุปผล
ชนิดของสมมติฐาน
Research Hypotheses (สมมติฐานวิจัย) เป็นสมมติฐานเชิงบรรยาย เขียนบรรยายความสัมพันธ์ระหว่าง
ตัวแปรที่นักวิจัยคาดคะเนไว้
Statistical Hypotheses (สมมติฐานเชิงสถิติ) เขียนในรูปสัญลักษณ์ ซึ่งใช้แทนคุณลักษณะของ
ประชากร แปลงสมมติฐานวิจัยมาเพื่อให้ทดสอบทางสถิติได้(สมมุติฐานที่เป็นกลาง,ไม่เป็นกลาง)
การทดสอบสมมติฐาน
การทดสอบสมมติฐานทางสถิติจะทดสอบ Ho
Ho:(ไม่มีความแตกต่าง)
Hi :(คล้ายข้อความ สมมติฐานวิจัย/ตรงข้ามกับ Ho)