Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้พื้นฐานโปรแกรมภาษาซี - Coggle Diagram
ความรู้พื้นฐานโปรแกรมภาษาซี
โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี
:star:
ข้อความสั่งตัวประมวลผลก่อน (preprocessor statements)
#include <stdio.h>
รหัสต้นฉบับ (source code)
ครอบคลุม (global declaration statements)
ต้นแบบฟังก์ชัน (function prototypes)
ฟังก์ชันหลัก (main function หรือ function main()) *
ฟังก์ชัน (functions)
ข้อความสั่งประกาศตัวแปรเฉพาะที่ (local declaration statements)
การแปลและกระทำการโปรแกรม (program compilation and execution)
ตัวแปร :star:
กฎการตั้งชื่อตัวแปร
ประกอบด้วย a ถึง z, 0 ถึง 9 และ _ เท่านั้น
อักขระตัวแรกต้องเป็น a ถึง z และ _
ห้ามใช้ชื่อเฉพาะ
ตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวพิมพ์เล็ก มีความหมายที่แตกต่างกัน
ยาวสูงสุด 31 ตัวอักษร
ชนิดข้อมูล (data types)
ตัวแปรชนิดตัวเลข (numeric variable types)
-ตัวแปรจำนวนเต็ม (integer variables)
-ตัวแปรจำนวนจริง (real variables)
การประกาศตัวแปร
ชนิดข้อมูล ชื่อตัวแปร;
การกำหนดค่าให้ตัวแปรชนิดตัวเลข
int no = 10;
ตัวแปรชนิดอักขระ (character variable types)
ตัวคงที่ (constant)
:star:
ใช้คำหลัก const ตามรูปแบบดังนี้ const ชนิดข้อมูล ชื่อตัวแปร = ค่าที่เก็บในตัวแปร;
ใช้ตัวประมวลผลก่อน ตามรูปแบบดังนี้
define ชื่อตัวคงที่ ค่าคงที่
การแสดงผลและการรับค่า
:star:
ฟังก์ชัน printf()
printf (“สายอักขระควบคุม”, ตัวแปร);
รูปแบบการแสดงผล (format specifiers)
• ขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายเปอร์เซ็นต์ (%)
• ตามด้วยอักขระ 1 ตัว หรือหลายตัว โดยที่อักขระนั้นมีความหมายดังนี้
ลำดับหลีก
จะเขียนขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายทับกลับหลัง (/) แล้วตามด้วยอักขระ ในการทำงาน
ฟังก์ชัน scanf()
scanf(“%รูปแบบ”, &ตัวแปร);
นิพจน์ (expressions)
:star:
สิ่งที่ประมวลผลแล้วสามารถให้เป็นค่าตัวเลขได้
นิพจน์ที่เป็นค่าคงที่ที่เป็นสัญลักษณ์ -define VAT7
นิพจน์ที่มีลักษณะเป็นตัวแปร เช่น int count;
นิพจน์ที่ประกอบด้วย 2 นิพจน์ และ 1 ตัวดำเนินการ 37 + 6 , 54 * 7
นิพจน์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น score1
2 + score2
5 + score3 * 3
ข้อความสั่งกำหนดค่า
:star:
ข้อความสั่งกำหนดค่า
ใช้สำหรับกำหนดค่าให้กับตัวแปร มีรูปแบบดังนี้ ตัวแปร = นิพจน์;
เมื่อนำนิพจน์มาเขียนไว้ในโปรแกรมภาษาซีจะกลายเป็นข้อความกำหนดค่า ดังตัวอย่างต่อไปนี้ con = 10.5; result = 25
6; point = score1
2 + score2
5 + score3
3;
การคำนวณทางคณิตศาสตร์ :star:
มี วิธีการใช้งาน และการทำงาน ดังนี้ บวก + c =a+b; ลบ - c =a-b; คูณ
c =a
b; หาร / c =a/b; มอดูลัส % c=a%b;
ลำดับการดำเนินการในนิพจน์ที่มีตัวดำเนินการหลายตัว ในกรณีที่นิพจน์มีตัวดำเนินการหลายตัว จะต้องดำเนินการตามลำดับต่อไปนี้ 1. () 2. * / % 3. + - ถ้าในนิพจน์มีตัวดำเนินการที่มีลำดับเท่ากัน จะประมวลผลจากซ้ายไปขวา
ตัวดำเนินการเอกภาค :
:star:
ตัวดำเนินการเอกภาคเติมหลัง (postfix mode) หมายถึง ตัวดำเนินการเอกภาคอยู่หลังตัวแปร เช่น a++ หมายถึง ให้เพิ่มค่าให้ตัวแปร a ขึ้นอีก 1
2.ตัวดำเนินการเอกภาคเติมหน้า (prefix mode) หมายถึง ตัวดำเนินการเอกภาคอยู่หลังตัวแปร เช่น ++a หมายถึง ให้เพิ่มค่าให้ตัวแปร a ขึ้นอีก 1
การใช้ตัวดำเนินการเอกภาคทั้ง 2 แบบ มีการใช้งานดังนี้ เพิ่มค่าตัวถูกดำเนินการทีละหนึ่ง ++ x++ x = x + 1, เพิ่มค่าตัวถูกดำเนินการทีละหนึ่ง ++ ++x x = x + 1 ,ลดค่าตัวถูกดำเนินการทีละหนึ่ง -- --x x = x - 1, ลดค่าตัวถูกดำเนินการทีละหนึ่ง -- x-- x = x - 1
ตัวดำเนินการประกอบ
:star:
เป็นการใช้ตัวดำเนินการหนึ่งตัวร่วมกับเครื่องหมายเท่ากับ การใช้ตัว ดำเนินการประกอบจะช่วยให้เขียนข้อความสั่งได้สั้น และเร็วขึ้น
ลำดับในการดำเนินการ ในกรณีที่คำสั่งประกอบด้วยตัวดำเนินการประกอบ ตัวดำเนินการเอกภาคหลายตัว จะประมวลผล ตามลำดับต่อไปนี้ 1. () 2. ++ -- 3.
/ % 4. + - 5. +=
= /= -= %=
การแปลงชนิดข้อมูล
:star:
การแปลงชนิดข้อมูลโดยการกำหนดชนิด ไว้ที่หน้าข้อมูลนั้น รูปแบบ ตัวแปร = (ชนิดข้อมูล) นิพจน์;
include <stdio.h> void main( ) { int x; x = 5.6 + 3.5; printf(“\n %d”, x); x = (int) 5.6 + (int) 3.5; // แปลง 5.6 ให้เป็น 5 และแปลง 3.5 ให้เป็น 3 printf(“\n %d”, x); }
การกำหนดค่าจากข้อมูลหลายชนิด
:star:
ถ้าตัวแปร หรือ ตัวคงที่ มีชนิดข้อมูลที่ต่างกัน จะต้องแปลงให้เป็นชนิดเดียวกันก่อน แล้วจึง ดำเนินการ โดยในการแปลงจะต้องแปลงชนิดข้อมูลที่มีขนาดเล็กกว่าให้เป็นชนิดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่กว่า ดังนั้น ถ้าตัวแปร หรือ ตัวคงที่ ตัวหนึ่งเป็นชนิดจำนวนเต็ม (int) ส่วนอีกตัวหนึ่งเป็นชนิดจำนวนจริง (float) จะต้องแปลงตัวแปรหรือตัวคงที่ที่เป็นจำนวนเต็ม (int) ให้เป็นจำนวนจริง (float) ก่อน แล้วจึง ดำเนินการ
ถ้านิพจน์ในข้อความสั่งกำหนดค่าประกอบด้วย ตัวแปร หรือ ตัวคงที่ที่มีชนิดข้อมูลต่างกัน จะต้อง แปลงให้เป็นชนิดเดียวกันก่อน แล้วจึงนำมาดำเนินการ โดยมีหลักดังนี้ คือ