Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคของระบบทางเดินปัสสาวะ (Diseases of Urinary system) - Coggle Diagram
โรคของระบบทางเดินปัสสาวะ (Diseases of Urinary system)
Renal cystic diseases
เป็นรอยโรคที่อาจเป็นพันธุกรรมการเจริญผิดปกติหรือเกิดขึ้นภายหลัง
มักก่อให้เกิดปัญหาในการวินิจฉัยแยก
จากเนื้องอกของไต
Medullary cyst
Medullary sponge kidney
พบในผู้ใหญ่
มีการขยายใหญ่เป็นถุงของ collecting tubule ของ medulla
ไตยังทำงานปกติ
Uremic Medullary cystic disease
เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์มักมีอาการตั้งแต่เด็ก
พบcyst อยู่ในบริเวณ Medulla
ที่สำคัญคือมี cortical tubular atrophy และ interstitial fibrosis ร่วมด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุของ ภาวะไตวายในระยะต่อมา
Simple cyst
อาจพบ cyst เดียวหรือหลายอัน ขนาดอาจจะเล็กหรือใหญ่
-มักพบอยู่ในบริเวณ cortex เกิด dilatation ของ tubule อาจทำให้มีเลือดออก หรือ calcification ในภายหลัง
Renal cystic diseases
Polycystic kidney disease
Adult type
พบได้บ่อยเป็นทั้งสองข้าง
ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แบบ autosomal dominant
ผิวนอกตะปุ่มหน้าตัดประกอบด้วย cyst ขนาด ใหญ่ 3-4 เซนติเมตร Adult type
ไตจะมีขนาดใหญ่ขึ้น บางครั้งหนักได้ถึง 4 กิโลกรัม
Infantile type
พบได้ตั้งแต่ทารกแรกคลอด มักจะเสียชีวิตใน ระยะแรกๆ
ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แบบ autosomal recessive
ไตมีขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง ผิวหนังนอกเรียบ หน้าตัดพบ cyst ทั้งที่ cortex และ medulla ทำให้เนื้อมีลักษณะพรุนแบบฟองน้ำ
Infantile type
Medullary cyst
Medullary sponge kidney
Uremic Medullary cystic disease
Simple cyst
โรคของระบบทางเดินปัสสาวะ (Diseases of Urinary system)
Renal malformations
ความผิดปกติของไต
ความผิดปกติในตำแหน่ง รูปร่างและ Orientation
Malrotation
Ectopia
Fusion of kidneys
ความผิดปกติใน differentiation
ความผิดปกติในปริมาณของเนื้อไต Agenesis ไตฝ่อหรือภาวะที่ไม่มีเนื้อไต
ถ้าเป็นสองข้าง เรียกว่า Potter’s syndrome
ร่วมกับปอดไม่เจริญ แขนขาผิดรูปร่าง และมีลักษณะใบหน้าที่เป็นแบบจำเพาะ
Renal agenesis อาจจะเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง
ความผิดปกติในปริมาณของเนื้อไต
Hypoplasia
-Supernumerary kidney
Agenesis
ความผิดปกติในปริมาณของเนื้อไต Potter’s syndrome
Potter's facies หตูดิต่า ผิวหนังย่น จมูก งุ้ม คางเล็ก มีสันนูนเด่นที่หัวคิ้วทั้งสองข้าง
แขนขาที่ผิดปกติบ่อยคือ รูปร่างผิดปกติ โก่ง บิด ข้อเคลื่อน clubfoot
เกิดจากทารกในครรภ์อยู่ในภาวะขาดน้ำคร่ำ ทำให้ร่างกายถูกกด การแบ่งตัวของเซลล์ผิดปกติ เป็นสาเหตุการเสียชีวิต แต่กำเนิดของทารก
ปริมาณของเนื้อไต
Hypoplasia
-ภาวะที่ไตมีขนาดเล็กกว่าปกติมากกว่าร้อยละ 50
จำนวน renal lobule และ calyx ลดลงด้วยแต่เนื้อไต ไม่มีความผิดปกติ
ความผิดปกติในปริมาณของเนื้อไต
Supernumerary kidney
ภาวะที่มีจำนวนไตมากกว่าสอง ส่วนใหญ่จะเป็นสามไต
ไตชั้นที่เกินจะแยกออกจากไตปกติหรือเป็น ภาวะ "ไตแฝด" ที่ไตสองส่วนอยู่ตดิแน่นเป็นไตเดียว
ความผิดปกติในตำแหน่ง รูปร่าง และ Orientation
เมื่อทารกสร้างเซลล์ไตขึ้นมาใหม่จะอยู่ในอุ้งเชิงกราน
ต่อมามีการขยับตำแหน่งเข้าไปในช่องท้อง
ขณะเดียวกันมีการหมุนตัวของไต ให้อยู่ในตำแหน่งผิดปกติ
ความผิดปกติในตำแหน่ง รูปร่าง และ Orientation
Ectopia
อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง
ความผิดปกติในตำแหน่ง รูปร่าง และ Orientation
Malrotation
ภาวะที่ไตมีrenal pelvis และureter อยู่ทางด้านหน้า
ความผิดปกติในตำแหน่ง รูปร่าง และ Orientationความผิดปกติในตำแหน่ง รูปร่าง และ Orientation
ภาวะที่ไตอยู่ในตำแหน่งที่ผิดปกติ
เช่น อยู่ในอุ้งเชิงกราน
Fusion of kidneys หรือ Horseshoe kidney - การเชื่อมกันตรงกลางระหว่างเนื้อไตทั้งสองข้าง
เดินปัสสาวะได้ระบบขับถ่ายปัสสาวะ
1.ระบบขับถ่ายปัสสาวะส่วนบน (Upper Urinary tract)
เป็นที่กรองเอาน้ำและของเสียออกจากโลหิตเป็นน้ำปัสสาวะ
หน่วยไต (Nephron) ทำหน้าที่สร้างปัสสาวะ
ไตสองข้าง ( Kidney) เป็นอวัยวะสำคัญที่สุดของระบบ
กรวยไต (renal pelvis) ส่งมาตามท่อไต (Ureter)
ท่อไต (Ureter) นำน้ำปัสสาวะออกจากไตไปสู่กระเพาะปัสสาวะ
2.ระบบขับถ่ายปัสสาวะส่วนล่าง(Lower urinary tract)
เป็นที่เก็บพักปัสสาวะที่สร้างจากไตและเป็นทางส่งปัสสาวะขับทิ้งออกนอกร่างกาย
-ท่อปัสสาวะ (Urethra) เป็นทางผ่านของน้ำปัสสาวะจาก กระเพาะปัสสาวะไปสู่นอกร่างกาย
ซึ่งท่อปัสสาวะนั้นมีความ แตกต่างกันระหว่างเพศชายและเพศหญิง
-กระเพาะปัสสาวะ (Urinary bladder) เป็นที่เก็บน้ำปัสสาวะไว้ชั่วคราว
โครงสร้างของหน่วยไต (Nephron) หน่วยไตสามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
Renal corpuscle
Renal tubule
เส้นเลือดดำ และเส้นเลือดแดงที่อยู่ในไต
ท่อไต และเส้นเลือดฝอยที่อยู่ในไต
Glomerular diseases
พยาธิสภาพที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน
พยาธิสภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
จากภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน เช่น การติด เชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ความดันโลหติสูง การติดเชื้อในกระแสเลือด
พบได้บ่อยคือโรคไตจากเบาหวาน(Diabetic nephropathy) หรือจากการรักษาเบาหวาน เช่น การใช้ยา กลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย (sulfonylurea)ทำให้เกิดภาวะโซเดียม ในเลือดต่ำจึงเกิดภาวะขาด ADH ตามมา
กลไกการเกิด
1) การกรองเพิ่มขึ้น (hyperfiltration)
ทำให้ขาดพลังงานในการหดตัวเกิดการขยายตัวของหลอดเลือด เลือดจึงไหลเวียนไปกรองที่ไตเพิ่มขึ้น
เนื่องจากกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดนำเลือดเข้าโกลเมอรูลัส
ทำให้ขาดพลังงานในการหดตัวเกิดการขยายตัวของหลอดเลือด
2) การเปลี่ยนแปลงกลไกการทำงานของ Renin
ปกติ juxtaglomerular cell มีหน้าที่สร้าง Prorenin และเปลี่ยนเป็นเรนิน
สำหรับผู้ป่วยโรคไตจากเบาหวานจะพบ prorenin เพิ่มขึ้น และการหลั่งเรนินเข้าสู่กระแสเลือดลดลง
ทำให้เกิดภาวะ hyperkalemia ภาวะกรดเกิน เนื่องจากพยาธิสภาพที่หลอดฝอยไต (renal tubular acidosis) และภาวะน้ำเกินตามมา
เป็นกลุ่มของโรคที่มีความผิดปกติในรูปร่างและ หน้าที่ของ tubule และ interstitium ของไต
เกิดจากสาเหตุหลายอย่างได้แก่ ยา การติดเชื้อ
immunological reaction
Chronic interstitial nephritis
Tubulo-interstitial diseases
Chronic interstitial nephritis พบ interstitial fibrosis , tubular atrophy และ mononuclear cell infiltration
Acute interstitial nephritis
Acute interstitial nephritis พบ interstitial edema ร่วมกับ leukocytic infiltration และ tubular necrosis
Acute tubular necrosis (ATN) มี3
Diuretic phase
เมื่อเวลาผ่านไป tubular cell ที่ตายมีการสลายไปและมีการสร้าง cell ใหม่
เกิดในช่วงกลาง
cell ใหม่ท่สีร้างไม่สามารถดูดกลับน้ำได้เต็มที่ ปัสสาวะจึงออกมาก
Recovery phase
เกิดในช่วงหลัง
เมื่อนานเข้า tubular cell สามารถดูดน้ำกลับได้ปกติ
Oliguric phase
ปัสสาวะจึงออกน้อย และมีอาการบวมร่วมด้วย
เกิดในช่วงแรก เมื่อมีการตายของ renal tubule ทำให้ renal cell หลุดมาอุดตันทางเดิน ปัสสาวะ
สาเหตุหนึ่งของ การเกิดนิ่วในไต
สาเหตุเกิดจาก Hypercalcemia
กลไกการเกิด
เมื่อเลือดกรองที่ไต แคลเซียมส่วนหนึ่งจะถูกดึงไว้ใน กระดูกเพื่อใช้ในยามจำเป็น
เมื่อเลือดมีแคลเซียมสูง ร่างกายขับแคลเซียมออกไม่ หมดเกิดการตกตะกอนของแคลเซียมในเนื้อไต
การมีระดับแคลเซียมในเลือดสูง
Urinary tract obstruction
สาเหตุ
ความพิการแต่กำเนิด
การอุดกั้นจากรอยโรคที่เกิดขึ้นภายหลัง ได้แก่ นิ่ว เนื้องอก การอักเสบ
ความผิดปกติของระบบประสาทที่ควบคุมการ ทำงานของกระเพาะปัสสาวะ
ผลจาก Urinary tract obstruction
ทำให้ทางเดินปัสสาวะส่วนท่อียู่เหนือตำแหน่ง ที่มีการอุดตันขึ้นไปขยายตัว (dilatation)
มีโอกาสเกิดนิ่วและการติดเชื้อเพิ่มขึ้นและทำลายเนื้อไตอย่างถาวร
Hydronephrosis
ภาวะที่มี dilatation ของ renal pelvis และ Calyx ร่วมกับมี Progressive atrophy ของเนื้อไต
สาเหตุจากการอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ
อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง