Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะที่มีน้ำอยู่ในเยื่อหุ้มปอด (Pleural effusion), นางสาวภูริชญา นักสอน…
ภาวะที่มีน้ำอยู่ในเยื่อหุ้มปอด (Pleural effusion)
เป็นภาวะที่มีน้ำอยู่ในเยื่อหุ้มปอด เกิดจากภาวะไม่สมดุลย์ระกว่างการเกิดและดูดซึมกลับของของเหลว ทำให้มีน้ำคั่งอยู่ในเยื่อหุ้มปอด ซึ่งจะทำให้ปอดขยายได้ไม่เต็มที่ ความจุปอดลดลง ปริมาตรของอากาศที่เข้าสู่ถุงลมจะลดลง
สาเหตุ
การติดเชื้อวัณโรคเยื่อหุ้มปอด,สิ่งแวดล้อมในที่ทำงานมีเชื้อโรค สารเป็นพิษหรือฝุ่นละอองทำให้ผลเกิดเป็นโรคของเยื่อหุ้มปอดขึ้นมา เช่น แร่ใยน้ำ ซึ่งทำให้เกิดโรคของเยื่อหุ้มปอดได้ทุกแบบตั้งแต่น้ำในช่องปอด เยื่อหุ้มปอดหนา เยื่อหุ้มปอดมีแคลเซียม และมะเร็งเยื่อหุ้มปอด
การจำแนกชนิดของน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด
3.แบ่งตามกายวิภาค
3.1จำนวนของสาร
เล็กน้อย น้ำน้อยกว่า 1/3 ของทรวงอกหนึ่งข้าง
น้ำจำนวนปานกลาง มากกว่า 1/3 ของทรสงอกหนึ่งข้าง
จำนวนมาก มากกว่า 2/3 ของทรวงอกหนึ่งข้าง
3.2เป็นข้างเดียวหรือสองข้าง
1.การจำแนกตามกลไกการเกิด
1.1ภาวะเยื่อหุ้มปอดปกติ ภาวะสารน้ำมีลักษณะเรียกว่า Transudate
1.2ภาวะเยื่อหุ้มปอดมีพยาธิสภาพภาวะสารน้ำมีลักษณะที่เรียกว่า Exudate
2.แบ่งตามระยะเวลาของการเกิด
แบบฉับพลัน
viral bacterial infection
แบบค่อยเป็นค่อยไป
วัณโรค
แบบเรื้อรัง
วัณโรค มะเร็ง เป็นต้น
4.แบ่งตาม Chest X-ray
5.แบ่งตามลักษณะของสารน้ำ
Transudate
ภาวะหัวใจล้มเหลวคั่งเลือด โรคตับแข็ง กลุ่มอาการ nephritic, Acute glomerulonephritics, Hypoproteinemia, Myxedema
Exudate
โรคติดเชื้อ วัณโรค แบคทีเรีย ไวรัส รา ปรสิต โรคมะเร็งแพร่กระจาย เยื่อหุ้มปอดอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ ฝีใต้กระบังลม ,Cylous pleural effusion แพ้ยา , Post myocardial infarction syndrome , Uremic pleuritis, Meigs' syndrome
อาการและอาการแสดง
ประวัติ
1.เหนื่อหอบ
2.เจ็บแปลบหน้าอก (Pleuritic chest pain)
3.อาการอื่นที่บ่งถึงโรค เช่น ไข้ ไอ หอบ น่าจะบ่งบอกถึงปอดอักเสบไข้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด นน.ลดบ่งถึงวัณโรค มะเร็ง หรือติดเชื้อ anaeobic เป็นต้น
ตรวจร่างกาย
ในการตรวจร่างกายจะขึ้นอยู่กับปริมาณสารน้ำและสาเหตุ
1.ปริมาณสารน้ำน้อยกว่า 300 ml.
2.ปริมาณสารน้ำมากกว่า 300 ml จะตรวจพบคือ มีสารน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด เสียงหายใจลดลง และเคาะทึบ
แบ่งเป็นระดับ แบ่งเป็นทั้งข้าง แบ่งเป็นเฉพาะที่
3.การตรวจร่างกายพบลักษณะอื่นๆ ได้แก่ ต้นเหตุของโรค เช่น ภาวะหัวใจวาย โรคตับแข็ง ภาวะขาดโปรตีน ปอดอักเสบ กลุ่มอาการ nephritic
การวินิจฉัย
มี 2 ประการหลัก คือ วินิจฉัยว่ามีสารน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด การสืบค้าหาสาเหตุ
ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ภาพ Chest X-ray รวมทั้งการตรวจพิเศษและารเจาะเข้าเยื่อหุ้มปอดและการตัดเยื่อหุ้มปอดเพื่อตรวจหาสาเหตุของโรค
การรักษา
1.การรักษาภาวะสารน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด
1.1.การเจาะเอาน้ำออก
เพื่อให้อาการหอบดีขึ้น
เพื่อควบคุมการติดเชื้อในภาวะปอดบวมที่สารน้ำใกล้จะเป็นหนอง หรือเป็นหนองแล้ว
1.2.การลอกเยื่อหุ้มปอด
เพื่อควบคุมการติดเชื้อเมื่อรพบายสารน้ำออกแล้วไข้ไม่ลง มีข้อบ่งชี้ว่าเชื้อกระจายเข้าสู่กระแสเลือด
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำช่องเยื่อหุ้มปอดอีกในภาวะโรคมะเร็ง
1.3.การป้องกันไม่ให้เกืดสารน้ำขึ้นมาใหม่
โดยการทำให้เยื่อหุ้มปอดด้านนอกและด้านในติดกัน (pleurodesis) มักทำในโรคมะเร็ง
1.4.อื่นๆ เช่น การให้ยาปฎิชีวนะเข้าช่องเยื่อหุ้มปอด
2.วิธีการรักษา
2.1.เจาะเอาสารน้ำออก (Thoracocentesis) เจาะเป็นครั้งคราวในภาวะสารน้ำที่ไม่ข้น
2.2.ระบายน้ำออก (intercostals drainage -ICD) ใช้กรณีสารน้ำข้น
3.รักษาต้นเหตุของการทำให้เกิดน้ำในช่องปอด ได้แก่ การรักษาโรคหัวใจ รักษาโรคตับแข็งที่มีท้องบวม หรือให้ยาปฎิชีวนะในโรคปอดบวม เป็นต้น
นางสาวภูริชญา นักสอน เลขที่ 47 รหัส 62129301540