Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพัฒนาในแต่ละช่วงวัย, พัฒนาการทางกาย, พัฒนาการทางสติปัญญา,…
การพัฒนาในแต่ละช่วงวัย
วัยผู้ใหญ่
พัฒนาการทางกาย
เป็นวัยที่มีความเจริญเติบโตสมบูรณ์สูงสุด ซึ่งอยู่ระหว่างอายุ 20-25ปี จากนั้นจะคงที่และเริ่มค่อย ๆ เสื่อมลงเมื่ออายุประมาณ 30ปี
พัฒนาการทางสติปัญญา
พัฒนาการทางสติปัญญา ของมนุษย์จะเจริญสูงสุดเต็มที่เมื่ออายุ 25 ปี จากนั้นจะเริ่มลดลง แต่ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่สะสมไว้ในช่วงอายุ 30-40 ปีที่ผ่านมาจะเข้ามาทดแทน จึงเป็นช่วงที่บุคคลมีความสามารถคิดสร้างสรรค์งานได้อย่างมีคุณภาพ และเป็นวัยที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองได้
พัฒนาการทางสังคม
เป็นระยะส าคัญ บุคคลเริ่มวางแผนชีวิตให้กับตนเอง เริ่มคิดถึงการเลือกอาชีพ การสร้างฐานะ การเลือกคู่ครอง และประสบความส้าเร็จตามที่ตนวางแผนไว้มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการค้นพบตัวเองในระยะวัยรุ่นด้วย ระหว่างช่วงอายุ 20-30 ปี
พัฒนาการทางอารมณ์
เป็นวัยที่มีความมั่นคงในอารมณ์ ไม่แปรปรวนง่าย ควบคุมอารมณ์ได้ดี และสามารถแสดงพฤติกรรมตอบสนองอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์
วัยทารก
อารมณ์โกรธ มีมากกว่าอารมณ์อื่นๆ
อารมณ์กลัว เกิดมากเป็นอันดับสองรองจากอารมณ์โกรธ
อารมณ์อยากรู้อยากเห็น เป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่มีค่อยข้างมากเกิดจากความต้องการรู้จักสิ่งแวดล้อม
-
พัฒนาการของกล้ามเนื้อและประสาทสัมผัส เพราะระยะนี้เด็กเรียนรู้สิ่งต่างๆ โดยอาศัยกล้ามเนื้อและประสาทสัมผัสเป็นสื่อเป็นส่วนใหญ่ การที่เด็กได้มีโอกาสแตะต้อง เห็น ได้ยิน วัตถุที่ให้การเรียนรู้
มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้างของร่างกายและการรู้จักใช้อวัยวะต่างๆ อย่างรวดเร็ว ศรีษะที่โตค่อยๆ ดูเล็กลง ล้าตัวและขาดูยาวใหญ่ขึ้น โครงกระดูกเจริญเติบโตรวดเร็ว
วัยเรียน
พัฒนาการทางสติปัญญา
เข้าใจว่าวัตถุแม้เปลี่ยนแปลงรูปลักษณะภายนอก ก็ยังคงสภาพเดิม ในบ้างลักษณะเช่น ปริมาณ น้้าหนัก และปริมาตร
พัฒนาการทางอารมณ์
เด็กรู้จักกลัวสิ่งที่สมเหตุสมผลมากกว่าวัยก่อน เพราะความสามารถในการใช้เหตุผลของเด็กพัฒนาขึ้น มีความรู้สึกสงสารและเห็นอกเห็นใจ เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของบุคคลอื่น รวมทั้งสัตว์เลี้ยงด้วย
-
พัฒนาการทางสังคม
ที่เด่นชัด คือ เด็กเริ่มออกจากบ้าน ไปสู่หน่วยสังคมอื่น จุดศูนย์กลางสังคมของเด็กคือ โรงเรียน เด็กจะเรียนรู้บทบาทใหม่คือ การเป็นสมาชิกของกลุ่มเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นโลกของเพื่อนร่วมวัย
วัยก่อนเรียน
พัฒนาการทางกาย
พัฒนาการทางกายในวัยเด็กตอนต้นยังเป็นไปแบบเจริญเติบโตเพื่อให้ท้างานเต็มที่ แต่อัตราแปรเปลี่ยนค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับระยะวัยทารก น้้าหนักและส่วนสูงยังคงเพิ่มขึ้นแต่ไม่เพิ่มมากนัก สัดส่วนของร่างกายจะค่อยๆ เปลี่ยนไป
พัฒนาการทางอารมณ์
เด็กในวัยนี้ จะมีอารมณ์หงุดหงิดง่ายกว่าเด็กในวัยทารก ดื้อรั้นเอาแต่ใจตัวเอง เจ้าอารมณ์ ทั้งนี้เพราะอยู่ในวัยช่างปฏิเสธ
พัฒนาการทางสติปัญญา
ในระยะนี้เด็กใช้ภาษาพูดได้แล้ว แต่ยังไม่ถูกต้องสมบูรณ์ดีเท่าผู้ใหญ่ เด็กจะพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาจนใช้งานได้ดีในช่วงระยะวัยเด็กตอนต้น
พัฒนาการทางสังคม
พัฒนาการทางสังคมได้เริ่มแล้วตั้งแต่วัยทารก แต่ในระยะวัยเด็กตอนต้นมีลักษณะผิดแผกจากวัยทารก เช่น
-เด็กเริ่มรู้จักเข้าหาผู้อื่น ไม่คอยแต่เป็นฝ่ายรับการเข้าหาจากผู้อื่นเหมือนวัยทารก
-เด็กเริ่มเบื่อหน่ายที่จะคบผู้ใหญ่เป็นเพื่อน เริ่มแสวงหาเพื่อนร่วมวัยเดียวกัน
-เด็กคบกับเพื่อนร่วมวัยยังไม่ราบรื่นนัก เพราะยังต้องการให้ผู้อื่นสนใจตนมากกว่าตนสนใจผู้อื่น
วันรุ่น
พัฒนาการทางสติปัญญา
นวัยนี้มักจะมีการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเปิดเผย มีความรู้สึกที่ค่อนข้างรุนแรง แปรปรวนง่าย มีปัญหาขัดแย้งในจิตใจตัวเองเสมอ ๆ จึงอาจท้า ให้เกิดความขัดแย้งกับผู้ใหญ่ได้
พัฒนาการทางอารมณ์
วัยนี้มีพัฒนาทางการสติปัญญาที่รวดเร็วและมีความก้าวหน้าใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ แตกต่างกันที่ความสุขุมรอบคอบและประสบการณ์ที่น้อยกว่าเท่านั้น วัยรุ่นจะสามารถคิดแก้ปัญหาได้อย่างมีระบบ สามารถแสวงหาเทคนิคในการเรียนรู้ด้วยตนเอง รวมทั้งการใช้เหตุผลและวิจารณญาณในการตัดสินเรื่องต่าง ๆ วัยรุ่นมีความสนใจหลายอย่างแต่ไม่ลึกซึ้งมาก เพราะเด็กยังไม่เข้าใจเรื่องตัวเอง
พัฒนาการทางกาย
มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายที่รวดเร็วและชัดเจนในด้านน้้าหนักและส่วนสูงที่เพิ่มขึ้น เริ่มแสดงสัดส่วนของความเป็นผู้ใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลงและแสดงถึงสัญลักษณ์ทางเพศ
พัฒนาการทางสังคม
เป็นวัยที่ต้องเผชิญกับความคาดหวังจากผู้ใหญ่มากกว่าวัยที่ผ่านมา เด็กจะเริ่มรู้จักรับผิดชอบต่อตัวเอง ท้า ให้ต้องเกิดการปรับตัวอย่างมาก พยายามค้นหาตัวตนที่แท้จริงในตัวเอง เด็กในวัยนี้จะเริ่มห่างจากพ่อแม่และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน การคบเพื่อนร่วมวัยเป็นพฤติกรมสังคมที่มีความส้าคัญต่อจิตใจของวัยรุ่น
วัยสูงอายุ
พัฒนาการทางสังคม
วัยนี้บทบาททางสังคม ถูกจ้ากัดลงเนื่องจากสุขภาพไม่เอื้ออ้านวย ต้องเป็นภาระให้กับคนใกล้ชิด ท้าให้ผู้สูงอายุถูกทิ้งในบ้านตามล้าพัง เป็นผลให้ผู้ชรารู้สึกว่าตัวเองหมดคุณค่าและไร้ความหมาย
พัฒนาการทางสติปัญญา
ในวัยนี้เซลล์สมองจะเสื่อมลง ถ้าสมองขาดการบ้ารุงและส่งเสริมการใช้งานที่เหมาะสมแล้ว บางรายอาจประสบปัญหาโรคสมองฝ่อ ได้ มีผลท้า ให้ความจ้าเสื่อม สับสนในทุก ๆ เรื่อง มีพฤติกรรมแบบถอยหลังกลับเป็นเด็ก
พัฒนาการทางอารมณ์
อารมณ์ที่พบบ่อย เช่น เศร้า เบื่อหน่าย ท้อแท้ เหงา น้อยใจง่าย สิ้นหวัง หงุดหงิดง่าย เครียด ขี้บ่น เป็นต้น ถ้ารุนแรงมากอาจมีอาการทางจิต เช่น ประสาทหลอน หูแว่ว หวาดระแวง เป็นต้น
พัฒนาการทางกาย
ภายนอกผิวหนังจะเหี่ยวย่น ผิวหนังแตกแห้ง เส้นเลือดฝอยแตกง่าย ผมและขนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวและหลุดร่วงง่าย กล้ามเนื้อลีบลง ร่างกายฟื้นตัวยากกระดูกเปราะ โลหิตที่หมุนเวียนไปเลี้ยงอวัยวะทั้งหลายเริ่มลดน้อยลง สมองสั่งงานช้าประสิทธิภาพของความจ้าลดน้อยลง ต่อมต่าง ๆ เสื่อมสภาพลง
-
-
-