Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบย่อยอาหาร (Digestive system), 9316E101-53B0-491A-80DF-E81A1B09FBA0,…
ระบบย่อยอาหาร (Digestive system)
ระบบย่อยอาหารแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ
1.ท่อทางเดินอาหาร (Gastrointestinal tract หรือ alimentary canal )
โครงสร้างของผนังท่อทางเดิน
สามารถแบ่งออกได้เป็น 4ชั้น ได้แก่
1.ชั้นเยื่อเมือก (Mucosa)
2.ชั้นใต้เยื่อเมือก (Submucosa)
3.ชั้นกล้ามเนื้อเรียบ (Muscularis externa)
Serosa (Adventitia)
ช่องปาก (The Mouth, Oral I Cavity)
คอหอย (Pharynx)
หน้าที่ของคอหอย
1.ช่วยในการทำให้เกิดเสียง
2.เป็นทางผ่านของอาหารจากปากไปสู่หลอดอาหาร
อวัยวะเสริมในการย่อย (Accessory digestive organs)
ฟัน (Tetch)
1.ตัวฟัน (Criwn)
คอฟัน (Neck)
3.รากฟัน (Root)
หน้าที่
1.ช่วยในการทำเสียงเวลาพูด
2.ช่วยรักษาขนาดและรูปร่างของขากรรไกร
3.ช่วยในการเคี้ยวอาหารและบดอาหาร
ฟันในคน มี 2ชุด เรียก dentition ได้แก่
1.ฟันน้ำนม (Deciduous teeth) เป็นฟันชุดแรกมี 20 ซี่ เริ่มงอกอายุประมาณ 6 เดือน
ฟันชุดที่ 2 ฟันแท้ (Permanent teeth) มีจำนวน 32 ซี่ เริ่มงอกอายุประมาณ 6 ปี
หลอดอาหาร (Esophagus)
•ยาวประมาณ 10-12 นิ้ว
•เริ่มจากปลาย laryngopharynx และลอดผ่านกะบังลมทางรูเปิดที่เรียกว่า esophageal hiatus สิ้นสุดโดยเปิดเข้าสู่ส่วนบนของกระเพาะอาหาร
หน้าที่ของหลอดอาหาร
เป็นทางผ่านของอาหารที่เคี้ยวแล้ว โดยการบีบตัวเป็นคลื่นของหลอดอาหารให้ส่งอาหารไปสู่กระเพาะอาหารโดยกระตุ้นของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 10
ตำแหน่งที่เป็นรอยคอดของหลอดอาหาร (esophageal constriction)
หลอดอาหารจะพบตำแหน่งรอยคอดอยู่ 3แห่งได้แก่
1.Upper esophageal constriction
(Cervical constriction)
Middle esophageal constriction
(Broncho-aortic constriction)
Lower esophageal constriction
(Diaphragmatic constriction)
วัตถมักติดในตำแหน่งที่เป็นรอยคอดของหลอดอาหาร (esophragmatic constriction)
กระเพาะอาหาร (Stomach)
กระเพาะอาหาร แบ่งเป็น 4ส่วน ได้แก่
•Cardia เป็นส่วนต่อมาจากหลอดอาหาร
•Fundus เป็นส่วโค้งด้านบนสุดของกระเพาะอาหาร
•Body เป็นส่วนกลางของกระเพาะอาหาร
•Pylous เป็นส่วนปลายของกระเพาะอาหารก่อนเข้าลำไส้เล็กส่วนต้น
หน้าที่ของกระเพาะอาหาร
เป็นที่พักและกักเก็บอาหาร
2.สร้างเอนไซม์และขับน้ำน่อย (Gastric juice)
3.คลุกเคล้าอาหารให้ผสมกับน้ำย่อย
ลำไส้เล็ก (Small lntestine)
-เริ่มตั้งแต่ pyloric sphincter ไปจนถึง ileocaecal valve จึงเปิดเข้าสู่ลำไส้ใหญ่
-ลำไส้เล็กแบ่งเป็น3ส่วนได้แก่
•ลำไส้เล็กส่วนต้น (Duodenum)
•ลำไส้เล็กส่วนกลาง (Jejunum)
•ลำไส้เล็กส่วนปลาย (lleum)
ผนังของลำไส้เล็ก มี 4 ชั้นคือ
1.Mucosa พบ globelt cell, Villi, หลอดน้ำเหลือง Lacteal, lntestinal crypt
2.Submucosa
Muscularis
4.Serosa
ลำไส้เล็กส่วนต้น (Duodenum)
•ยาวประมาณ10 นิ้ว
•เริ่มจาก pyloric sphincter ไปจนถึง duodenojejunal flexure
•ไม่มีเยื่อแขวนลำไส้
การเพิ่มพื้นที่ผิวในการดูดซึมของลำไส้เล็ก
1.ความยาว
2.Pelican circulares
หน้าที่ของลำไส้เล็ก
1.หลั่งน้ำย่อย
2.เคลื่อนไหวเพื่อคลุกเคล้าอาหารให้ผสมกับน้ำย่อยต่างๆและทำให้อาหารเคลื่อนที่ไปตามท่อของลำไส้เล็ก
ลำไส้ใหญ่ (Large lntestine)
•ยาวประมาณ1.5เมตร
•เริ่มตั้งแต่ลำไส้ใหญ่ส่วน Cecum ไปจนถึง Anus
•ลำไส้ใหญ่แบ่งได้ดังนี้ คือ
1.Cecum
พบ -lleocecal vale
-Vermiform appendix
2.Colon
1)Ascending colon
2) Transverse colon
4) Sigmoid colon
3) Descending colon
3.Rectum
ต่อจากSigmoid colonเริ่มจากS3รูปร่างโค้งตามความโค้งของ sacrum และ coccyx ส่วนปลายสุดจะหักขึ้นไปด้านหลังและลงข้างล่าง
3.Villi
ลิ้น (Tongue)
-ทำหน้าที่คลุกเคล้าอาหาร ช่วยในการกลืนและช่วยในการออกเสียง
-รับรสอาหารชนิดต่างๆได้โดยมีต่อมรับรส (Taste bud)
กล้าเนื้อของลิ้น
1.Extrinsic muscles of tongue ได้แก่ กล้ามเนื้อที่มีจุดเกาะต้นจากที่อื่นนอกลิ้น และมาเกาะที่เนื้อเยื้อเกี่ยวพันของลิ้น ได้แก่
-Genioglossue
-Hyoglossus
-Styloglossus
-Palatoglossus
2.lntrinsic muscles of tongue ได้แก่ กล้ามเนื้อที่มีต้นกำเนิดและเกาะที่เนื้อเยื้อเกี่ยวพันภายในลิ้น กล้ามเนื้อเหล่านี้มีการเรียงตัว 3 แนว ได้แก่
-longitudinal (superior & inferior
-transverse
-vertical muscles
ผนังของลำไส้ใหญ่มี4ชั้น คือ
1.Mucosa ไม่มี Villi และ มีgoblet cells จำนวน
2.Submucosa
3.Muscularis พบ tarniae coli แรงตึงตัวทำให้เกิด haustra
หน้าที่ของลำไส้ใหญ่
1.ดูดน้ำและสารละลายบางอย่างกลับเข้าสู่ร่างกาย เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างน้ำกับสารละลายภายในร่างกาย
2.ขับถ่ายกากเหลือจากการย่อยอาหาร
4.Serosa ผนังนี้มีไขมันมาสะสมเป็นติ่งไขมันเรียกว่า epiploic appendage
เยื่อบุช่องท้อง (Peritoneum)
แบ่งออกเป็น 2ชั้น คือ
1.ชั้นนอก (Parietal peritoneum) เยื่อบุช่องท้องที่ติดกับผนังช่องท้องด้านใน
2.ชั้นใน (Visceral peritoneum) เยื่อบุช่องท้องส่วนหุ้มอวัยวะต่างๆในช่องท้องมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป
หน้าที่ของเยื่อบุช่องท้อง
1.สร้าง Peritoneal fluid มาหล่อลื่น เพื่อลดแรงเสียดทาน เมื่ออวัยวะภายในมีการเคลื่อนไหว
2.ป้องกันการกระนาวของเชื้อโรค
3.แขวนอวัยวะต่างๆให้คงอยู่ในตำแหน่งและเป็นที่เกาะของหลอดเลือดหลอดน้ำเหลือง และเส้นประสาท
ต่อมน้ำลาย (Salivary gland)
มีหน้าที่สร้างน้ำลาย (saliva) และถูกขับออกมาเข้าไปในช่องปาก แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ
Minor salivary glands
2.Major salivary glands
ตับ (Liver)
ตั้งอยู่บริเวณชายโครงขวา (rib 5-10) และมีกะบังลมคลุมอยู่ ยื่นผ่านแนวกลางลำไปทางด้านซ้าย
Ligaments/ Pertoneal Arrachments of the Liver
1.Coronary ligament
-ยึดผิวด้านบนของตับไว้กับกะบังลม
2.Falciform ligament
-ยึดผิวด้านหน้าของตับไว้กับกะบังลมและผนังหน้าท้อง
Round ligament of ( ligament I’m teres hepatic)
-ยึดระหว่างตับกับสะดือ ซึ่งเป็นส่วนเหลือของ umbilical vein ในตัวอ่อน
Lesser omentum
-ยึดขั้วตับไว้กับกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น
-Hepatogastric ligament
-Hepatoduodinal ligament
ลักษณะทางจัลกายวิภาคของตับ
-เนื้อตัวประกอบด้วยหน่วยโครงสร้างพื้นฐาน เรียกว่า hepatic lobule
-ประกอบด้วย Cantral vein เป็นจุดศูนย์กลาง
-ตรงมุมหกเหลี่ยมมีโครงสร้าง เรียกว่า portal triad
ภายในตับประกอบด้วยเซลล์ 2 ชนิด คือ
Liver cell หรือ hepatocytes ทำหน้าที่สร้างน้ำดี และขับออกที่ช่องแคบๆ เรียก bile canaliculi
2.Kuffe cell บุอยู่ใน sinusoid ทำหน้าที่เก็บกินเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ และแบคทีเรียที่ปนมากับเลือด
ถุงน้ำดี (Gallbladder)
วางตัวอยู่ตามขอบข้างขวาของ quadrate lobe ทำหน้าที่ทำให้น้ำดีที่คัดหลังจากตับเข้มข้นขึ้น เพื่อปล่อยลงสู่ลำไส้เล็ก ทาง common bile duct
ระบบทางเดินน้ำดี
-ระบบทางเดินน้ำดีประกอบด้วย
•Common hepatic duct
•Common bile duct
•Cystic duct
ถึงน้ำดีแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
1.Fundus
2.Body
3.NecK
ตับอ่อน (Pancreas)
แบ่งออกเป็น 3ส่วคือ
•Head
• Body
•Tail
ท่อของตับอ่อน
1.Main pancreatic duct ไปรวมกับ common bile duct รวมเป็น hepatopancreatic ampulla แล้วเปิดเข้าสู่ลำไส้เล็กทาง Major duodenal papilla
2.Accessory pancreatic duct เปิดเข้าสู่ลำไส้เล็กทาง Minor duodenal papilla
จุลกายวิภาคของตับอ่อน
-เนื้อต่อม 1% เป็นPancreatic islets ( islets of Langerhans)
-สร้าง glucagon, insulin
-เนื้อต่อมส่วนที่เหลือเป็น Acini cell ทำหน้าที่สร้างน้ำย่อยของตับอ่อน (PancreaticJuice) ประกอบด้วย
-น้ำย่อยอะไมเลส(Amylase)
-น้ำย่อยลิเพส (Lipase)
-โซเดียมไบคาร์บอเนต (NaH O3)