Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลียนแปลงในแต่ละช่วงวัย - Coggle Diagram
การเปลียนแปลงในแต่ละช่วงวัย
วัยก่อนเรียน
การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย
เด็กวัยก่อนเรียนเป็นวัยที่มีความต้องการอะไรหลายๆอย่าง ต้องการความเป็นอิสระ อยากรู้อยากเห็น ช่างสงสัย ช่างจินตนาการ ทำให้เด็กแสดงออกโอยการซักถาม ผู้ใหญ่ควรให้ความสนใจและอธิบายด้วยภาษาง่ายๆ ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านความคิดและการกล้าแสดงออกในวัยต่อไป ต้องการความเป็นตัวของตัวเอง สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต วัยนี้เริ่มมีทักษะในการเคลื่อนไหว รู้จักควบคุมอวัยวะต่างๆ ได้ดีขึ้น ถึงแม้จะไม่ค่อยคล่องตัวในระยะแรก แต่เมื่อทำบ่อยๆ ก็จะเกิด ความชำนาญ
การเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์และจิตใจ
เด็กวัยนี้มักแสดงอารมณ์อย่างเปิดเผย ไม่ปิดบัง แปรปรวนง่าย หงุดหงิด โกรธง่ายหายเร็ว กลัวในสิ่งที่ไม่มีเหตูผล อิจฉาเมื่อรู้สึกว่าถูกแย่งความรักไป มีความสงสัย อยากรู้อยากเห็น
การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม
เด็กวัยนี้เริ่มออกจากสังคมบ้านเข้าสู่สังคมโรงเรียน เริ่มรู้จักเล่นและคบเพื่อน เรียนรู้ที่จะปรับตัวเด็กวัยนี้ให้คามสำคัญที่จะปฏิบัติตามระเบียบ และกติกาของโรงเรียน ดังนั้นพัฒนาการทางสังคมของเด็กวัยนี้ พ่อแม่ ครู อาจารย์ และเพื่อนวัยเดียวกันจะมีบทบาทในการวางพื้นฐานพัฒนาการทางสังคมขั้นต่อไป
การเปลี่ยนแปลงทางด้านสติปัญญา
เด็กวัยนี้มีความอยากรู้อยากเห็น ช่างสงสัย จึงทำให้เด็กแสดงออกโดยการซักถาม ผู้ใหญ่ควรให้ความสนใจและตอบคำถาม โดยอธิบายด้วยภาษาง่ายๆ ให้เด็กเข้าใจ ไม่ควรแสดงอาการรำคาญ ดุด่า ว่ากล่าว หรือไม่พอใจ เพราะอาจจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านความคิดและความกล้าแสดงออกของเด็กในวัยต่อไป
วัยทารก
การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย
วัยทารกเป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตทางร่างกายอย่างรวดเร็วมากกว่าวัยอื่นๆของชีวิต อวัยวะที่สำคัญที่สุดคือ “สมอง” ถ้าการเจริญเติบโตหยุดชะงัก สมองก็จะไม่ดีด้วย และเป็นการยากที่จะแก้ไขให้ปกติ วัยทารกเป็นวัยที่มีการติดเชื้อโรคง่าย เพราะระบบภูมิคุ้มกันโรคยังไม่สมบูรณ์ พัฒนาการของทารกแต่ละคนไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของสมองและระบบประสาทซึ่งเป็นผลมาจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
การเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์และจิตใจ
ทารกที่ได้รับการเลี้ยงดูโอบอุ้ม เอาใจใส่ ได้รับการตอบสนองที่เหมาะสมจะทำให้เป็นเด็กที่มีอารมณ์ดี เป็นมิตร ในทางตรงกันข้าม ถ้าทารกถูกทอดทิ้งจะมีลักษณะที่เงียบเหงา เฉยเมย ไม่สนใจใคร ฉะนั้นการเสริมสร้างพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจของเด็ก ควรให้มีการสัมผัสโอบอุ้ม พูดคุยด้วยท่าทีที่เป็นมิตร ร้องเพลงให้ฟัง เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม
เด็กในวัยนี้ถ้าได้รับความรัก ความอบอุ่น การเลี้ยงดูเอาใจใส่ที่ดี จะทำให้เด็กรู้สึกไว้วางใจต่อคนรอบข้าง มีทัศนคติที่ดี ทำให้เด็กอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ดี วัยทารกเป็นวัยเริ่มต้นของพัฒนาการทางสังคมของมนุษย์ ถ้าเด็กได้รับการเลี้ยงดูที่ดีจะทำให้เขาเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมต่อไป
การเปลี่ยนแปลงทางด้านสติปัญญา
เด็กวัยทารกเริ่มเรียนรู้และสร้างความสัมพันธ์จากสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้จากการใช้อวัยวะสัมผัสต่างๆ โดยทารกจะมีพฤติกรรมซ้ำๆ ในระยะแรกและมีการลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ จนทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้และสามารถแก้ปัญหาต่างๆได้ ทั้งนี้พัฒนาการทางด้านสติปัญญาของวัยทารกจะมีพื้นฐานเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ ผู้ใกล้ชิด ที่จะส่งเสริมให้เด็กได้มีโอกาสแสดงพฤติกรรมต่างๆ ที่ตอบสนองความต้องการในทางสร้างสรรค์
วัยเรียน
การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย
อัตราการเจริญเติบโตจะช้าลงเล็กน้อยแต่ยังเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ร่างกายจะขยายทางส่วนสูงมากกว่าส่วนกว้าง รูปร่างเปลี่ยนเข้าสู่ลักษณะผู้ใหญ่ อวัยวะภายในระบบไหลเวียนเลือดเจริญเติบโตเกือบเต็มที่ เริ่มมีฟันแท้ขึ้น วัยนี้มีพลังงานมากจึงไม่ชอบอยู่นิ่ง ชอบทำกิจกรรมหลายๆอย่าง
การเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์และจิตใจ
เด็กมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ไปในทางที่ดีขึ้น รู้จักวิธีระงับความโกรธ เลิกกลัวสิ่งที่ไม่มีตัวตน เป็นมากลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริง เช่น กลัวไม่มีเพื่อน กลัวเรียนไม่ดี อารมณ์ไม่แน่นอน หงุดหงิด ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ เริ่มรู้จักป้องกันตนเอง เช่น เมื่อถูกถามมักตอบว่าไม่ทราบ ไม่พยายามตอบ มีความอยากรู้อยากเห็น รู้สึกว่าตนเป็นผู้ใหญ่ รักพ่อแม่และสมาชิกในครอบครัว
การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม
เด็กมีสังคมกว้างขึ้นเพราะรู้จักบุคคลนอกครอบครัว เด็กจะปรับตัวเข้ากับบุคคลอื่นๆ ได้ดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการอบรมของครอบครัว กลุ่มเพื่อนมีอิทธิพลมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงทางด้านสติปัญญา
เด็กวัยนี้มีการรับรู้ มองเห็นความแตกต่างของสิ่งของ มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบแก้ปัญหาเอง สนใจธรรมชาติรอบตัว มีความสนใจระยะสั้น ใช้ภาษาแสดงความรู้สึกได้ดีขึ้น มีความรับผิดชอบ ช่างสังเกต พยายามทำสิ่งที่ตั้งใจให้สำเร็จ มีความคิดสร้างสรรค์ สนใจสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ
วัยรุ่น
การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย
ในช่วงวัยรุ่นเด็กหญิง เด็กชาย จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ด้านร่างกายทั้งรูปร่าง เสียง ความสูง และน้ำหนัก กล่าวคือ ทั้งสองเพศจะมีความสูงและน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างเห็นได้ชัด เด็กหญิงจะเริ่มมีประจำเดือน สะโพกขยายออก เอวคอด หน้าอกโตขึ้น เสียงหวานแหลม มีขนขึ้นที่อวัยวะเพศ
ส่วนเด็กชายจะเริ่มมีน้ำอสุจิ มีการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง มีหนวดเครา มีขนขึ้นที่อวัยวะเพศ รักแร้ เสียงแตกพร่า กล้ามเนื้อแข็งแรง หน้าอกและไหล่กว้างขึ้น วัยรุ่นชาย จะตัวสูงขึ้นและน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กล้ามเนื้อแข็งแรง หน้าอกและไหล่กว้างขึ้น มีหนวดเครา มีขนขึ้นที่อวัยวะเพศและรักแร้ วัยรุ่นหญิง จะตัวสูงขึ้นและ น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สะโพกขยาย เอวคอด และ หน้าอกโตขึ้น
การเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจและอารมณ์
จากการเปลี่ยนด้านร่างกายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้วัยรุ่นเกิดความรู้สึกวิตกกังวล ในรูปร่างหน้าตาของตน และยิ่งเกิดปัญหาสิวหนุ่มสิวสาว ความวิตกกังวลก็จะยิ่งมีมากขึ้น พ่อแม่ ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษา ความสะอาดใบหน้า สำหรับลูกสาววัยรุ่น แม่ควรแนะนำ วิธีดูแลรักษาความสะอาดในช่วงของการมีประจำเดือนด้วย ลักษณะทางอารมณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของวัยรุ่น คือ การมีอารมณ์ที่เรียกว่า พายุบุแคม คือ มีความรุนแรงแต่ อ่อนไหวไม่มั่นคง ถ้าต้องการจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ ถ้าถูกขัดขวางจะตอบโต้อย่างรุนแรง แต่ความต้องการนั้น จะเปลี่ยนแปลงได้ง่าย หันเหไปสู่ความต้องการความสนใจ ใหม่ ๆ อยู่เสมอ พ่อแม่ต้องรู้เท่าทันอารมณ์ของวัยรุ่น รู้จัก โอนอ่อนผ่อนตามอย่างเหมาะสม เมื่อเห็นน้ำเชี่ยวก็อย่าเอาเรือ ไปขวาง แต่จงใช้ความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ เป็นเครื่องค้ำจุน ให้วัยรุ่น สามารถผ่าน พ้นอันตราย อันเกิดจากลักษณะทางอารมณ์ ของวัยนี้ไปได้อย่างปลอดภัย
การเพิ่มความต้องการทางเพศ ทำให้วัยรุ่นเกิดความ สนใจในเพื่อนต่างเพศ ต้องการให้ตนเป็นที่รู้จัก เป็นที่สนใจ ของต่างเพศ ต้องการความรู้เพศศึกษา และการแนะนำในการเตรียม ตัวเข้าสังคมวัยรุ่นชายและหญิง
การเปลี่ยนแปลงทางสติปัญญา
ความเปลี่ยนแปลงทางสติปัญญาของวัยรุ่น จะพัฒนาขึ้น อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับด้านร่างกาย ขนาดของมันสมองจะ ขยายออกมากขึ้น วัยรุ่นจึงเป็นผู้ชอบคิด อยากรู้อยากเห็น ช่างซักถาม ใช้เหตุผล และแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ วัยรุ่นจะชอบ แก้ปัญหา และตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง มีความรับผิดชอบ บิดามารดาต้องให้การสนับสนุน ปล่อยให้ลูกได้ใช้ความคิดเป็นของตนเอง และความคิดสร้างสรรค์ก็จะสูงขึ้นได้
วัยผู้ใหญ่
การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย
บุคคลในวัยผู้ใหญ่ตอนต้นมีการพัฒนาทางร่างกายอย่างเต็มที่ทั้งเพศหญิงและเพศชาย ร่างกายสมบูรณ์ มีการพัฒนาความสูงมาจากวัยรุ่นและจะมีความสูงที่สุดในวัยผู้ใหญ่ตอนต้นนี้ รวมทั้งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อไขมัน มีการพัฒนาอย่างเต็มที่เช่นกัน ในวัยนี้ร่างกายจะมีพลัง คล่องแคล่วว่องไว การรับรู้ต่าง ๆ จะมีความสมบูรณ์เต็มที่ จนกระทั่งเข้าสู่วัยกลางคนความสามารถต่าง ๆ เหล่านี้จะลดลง
การเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์
วัยผู้ใหญ่จะมีการควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น มีความมั่นคงทางจิตใจดีกว่าวัยรุ่น คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น รู้สึกยอมรับผู้อื่นได้ดีขึ้น มีพัฒนาการด้านอารมณ์รัก ได้ในหลายรูปแบบ การเก็บกด (Impulsiveness) น้อยลง แต่จะใช้การตอบสนองด้วยเหตุผลทั้งกับตนเองและผู้อื่นมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม
วัยนี้จะให้ความสำคัญกับกลุ่มเพื่อนร่วมวัยลดลง จำนวนสมาชิกในกลุ่มเพื่อนจะลดลง แต่สัมพันธภาพในเพื่อนที่ใกล้ชิดหรือเพื่อนรักยังคงอยู่และจะมีความผูกพันกันมากกว่าความผูกพันในลักษณะของคู่รักและพบว่ามักเป็นในเพื่อนเพศเดียวกัน (Papalia and Olds, 1995) การสัมพันธ์กับบุคคลในครอบครัวจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นวัยที่เริ่มใช้ชีวิตครอบครัวกับคู่ของตนเอง และเกิดการปรับตัวกับบทบาทใหม
การเปลี่ยนแปลงทางสติปัญญา
วัยผู้ใหญ่มีพัฒนาการทางความคิดสติปัญญาอยู่ในระดับ Formal operations ซึ่งเป็นขั้นสูงที่สุดของพัฒนาการ มีความสามารถทางสติปัญญาสมบูรณ์ที่สุดคือคุณภาพของความคิดจะเป็นระบบ
ผู้ใหญ่จะมีความคิดเปิดกว้าง ยืดหยุ่นมากขึ้น และรู้จักจดจำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ ทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี
วัยสูงอายุ
การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายโดยทั่วไปของวัยนี้จะเป็นไปในทิศทางของความเสื่อม อย่างไรก็ตามจะมีความแตกต่างระหว่างบุคคลเป็นอย่างมากในสภาพในสภาพของความเสื่อมแม้แต่ในคนเดียวกันก็ยังมีความแตกต่างในอัตราของความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ
การเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์
โดยธรรมชาติแล้ว วัยสูงอายุเป็นวัยที่มีความสงบเยือกเย็น หมดความกระตือรือร้นในชีวิตเป็นวัยที่ต้องการความสงบ ต้องการพักผ่อน แต่สภาพสังคมในปัจจุบันผู้สูงอายุต้องเชิญกับเหตุการณ์ที่บีบคั้นประสาทและจิตใจมากขึ้น จึงเป็นสิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของคนวัยนี้ วัยนี้เป็นวัยที่ต้องปรับตัวต่อโลกภายนอกและปรับตัวต่อการสูญเสียตามวัย
การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม
การมีเวลาว่างมากขึ้นทำให้สามารถกระทำกิจกรรมเพื่อการพักผ่อนหยอนใจได้มากขึ้น เช่น การเดินทางท่องเที่ยว การปลูกต้นไม้ เข้ากลุ่มศึกษาและปฏิบัติธรรม เป็นต้น แต่จะมีข้อจำกัดในการมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น เนื่องจากบทบาททางสังคมลดลง เช่น การหยุดประกอบอาชีพ การตายของญาติ เพื่อนฝูงคู่สมรส และการเสื่อมของสุขภาพ ประกอบกับวัยสูงอายุจะมีความสนใจตนเองเพิ่มขึ้น จะสนใจบุคคลอื่นลดลง ในวัยนี้อาจจะมีการย้ายที่อยู่ด้วยเหตุผลต่าง ๆ กันบางคนอาจจะรู้สึกว่าบ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้หลังใหญ่ไป ทำความสะอาดลำบาก บางคนก็ขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ใกล้ ๆ กับลูกคนใดคนหนึ่ง บางคนก็ย้ายออกไปอยู่ในสถานที่อากาศดีกว่าเดิม หรือย้ายไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์คนชรา การย้ายที่อยู่ต้องการปรับตัวเสมอ ผู้สูงอายุต้องเรียนรู้อาศัยในการอาศัยอยู่ในเมืองใหม่j
การเปลี่ยนแปลงทางด้านสติปัญญา
เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ สมองฝ่อและมีน้ำหนักลดลง มีเลือดมาเลี้ยงสมองน้อยลง เซลล์ประสาทตายเพิ่มขึ้นและจำนวนเซลล์ลดลงตามอายุ ทำให้สมองเสื่อม ความจำเสื่อมโดยเฉพาะความจำในเหตุการณ์ปัจจุบัน (recent memory) และความจำเฉพาะหน้า (immediate memory) แต่ความจำในอดีต (remote memory) จะไม่เสีย (ศรีธรรม, 2535) แต่การประสานงานระหว่างประสาทสัมผัสกับความคิดอ่านจะเชื่องช้าลง ผู้สูงอายุจึงมีประสิทธิภาพในอันที่จะใส่ใจต่อสิ่งเร้าไม่ไวหรือดีเท่าคนอายุน้อย และมีลักษณะความคิดไม่ยืดหยุ่น การแก้ปัญหาของผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจกับสิ่งที่ไม่ใช่ข้อมูล หรือส่วนที่ไม่ตรงเป้าหมายของปัญหานั้นๆ