Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พัฒนาการของสมุทรศาสตร์เคมี, ในช่วงปี ค.ศ. 1920 วิธีการวิเคราะห์ธาตุต่างๆ…
พัฒนาการของสมุทรศาสตร์เคมี
ก่อน 1950
เริ่มมีการศึกษาลักษณะทางกายภาพทางเคมี
ของคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำทะเล
โรเบิร์ต บอยล์ บิดาแห่งสมุทรศาสตร์เคมี
ริเริ่มการศึกษาสมดุลมวล วัฏจักรธรณีและ
องค์ประกอบของสารเคมี
ทำการวิจัยเกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์ของเปลือกโลกและศักยภาพของไอออนิก และมีการจำแนกประเภทไทล์ โกลด์ชมิดท์
มีการศึกษาความสัมพันธ์ของคลอรีน-ความเค็ม-ความหนาแน่น ที่เป็นองค์ประกอบทางเคมีที่โดดเด่นในน้ำทะเล
ปี 1920 มีการศึกษาฟอสฟอรัสและไนโตรเจน
ปี 1930 Goldschmidt ทำการวิจัยเกี่ยวกับเปลือกโลกและวัฏจักรธรณีเคมีของเปลือกโลก
ปี 1935-1937 มีการศึกษาหาปริมาณยูเรเนียมในน้ำทะเล
ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่2 เริ่มมีการสนใจเรื่องความเค็มที่สัมพันธ์กับการถ่ายทอดเสียงในทะเล
ในช่วงปี ค.ศ. 1920 วิธีการวิเคราะห์ธาตุต่างๆ ใหญ่เป็นสารประกอบของไนโตรเจนและฟอสฟอรัส
1950-1959
ปี 1950 ได้ก่อสร้างทุนมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติตอนต้น โดย Dr. Michael Reeve และคณะ
ปี 1950 เป็นช่วงศึกษาเกี่ยวกับสารอาหาร ออกซิเจนที่ละลายในน้ำ และองค์ประกอบของธาตุหลัก ธาตุรองทั่วไป
ปี 1952 วิธีการตามรอยคาร์บอนกัมมันตภาพรังสีเพื่อวัดผลผลิตขั้นต้น โดย Steeman-Nielsen
ปี 1958 Goldberg และ Arrhenius ตีพิมพ์บทความเรื่องเวลาที่อยู่อาศัยขององค์ประกอบในมหาสมุทร
ปี 1957 การประมาณการผลิตแพลงก์ตอนพืชในมหาสมุทรจากข้อมูลคลอโรฟิลล์และแสง โดย Ryther
ปี 1951 Urey และคณะ รายงานผลการวัดอุณหภูมิแบบ Paleotemperature โดยใช้ไอโซโทปของออกซิเจนที่เสถียร
ปี 1957 เป็นจุดเริ่มต้นของปีธรณีฟิสิกส์สากล
1960-1969
เดวิดคิลลิ่ง ริเริ่มการพัฒนาการวัดอนุกรมเวลาคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศจนถึงยุคปัจจุบัน ที่ Mauna loa, Hawaii
Henry Stommel มีการเสนอทฤษฎีเกี่ยวกับการหมุนเวียนของมหาสมุทร ความสามารถในการใช้ตัวติดตามต่างๆ เช่น คาร์บอน -14 ของระบบคาร์บอนไดออกไซด์-คาร์บอเนต ของน้ำทะเลเพื่อประมาณเวลาในการผสมและหมุนเวียน เป็นการพิสูจน์โดยผลงานของ Broecker ใน ศตวรรษที่ 1960
ปี 1960 เป็นยุคที่สมุทรศาสตรฺเคมีและมหาสมุทรรุ่งเรืองเริ่มมีงานวิทยานิพนธ์
Broecker, Gerard, Ewing, and Heezen (1961) ทำการวิจัย เรื่องชีวเคมีและฟิสิกส์ของการไหลเวียนของมหาสมุทร ซึ่งงานวิจัยนี้มีการให้เหตุผล และเปรียบเทียบ จนนำไปสู่คำว่า "สมุทรศาสตร์เคมี"
Henry Stommel สยใจด้าน GEOSECS
(Geochemical Ocean Sections Study) ที่เป็นโครงการสมุทรศาสตร์เคมีที่สำคัญที่สุด- โครงการธรณีเคมีทางทะเลของทศวรรษ 1950 ถึง 1990
Dr. Peter Brewer ได้นำเสนอรูปเป็นร่างของ GEOSECS ในบทความของเขา
ปี 1965 Francis Richards ได้สรุปความรู้และความสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง Anoxic ที่ได้สำรวจใน Cariaco Basins และทะเลดำ เพื่อศึกษารายละเอียดที่เกี่ยวกับชีวธรณีวิทยา
ช่วงปลายทศวรรษ 1960 พบปัญหา PCBs และน้ำมันรั่วไหลปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมที่ใกล้กับพื้นที่อุตสาหกรรม ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอย่างมาก จึงได้มีการตั้งวันคุ้มครองโลกซึ่งตรงกับวันที่ 22 เมษายน 1970
1980-1989
อีกทั้งยังมีการวัดไอโซโทปในมหาสมุทรแอตแลนติก
John Edmond ได้ทำการตรวจวัดโปรไฟล์ของโลหะในมหาสมุทร
ได้มีการวัดค่าฮีเลียมในมหาสมุทรแปซิฟิก
ปี 1970-1990 ได้มีการใช้คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่กับสมุทรศาสตร์เพื่อทำนายสภาพของมหาสมุทร
อีกทั้งนังรวมถึงการดูมนเรื่องปรากฏการณ์เอลนีโญ
John H. Martin และ Ken bruland ได้พยายามศึกษาฟลักซ์ของอนุภาคในมหาสมุทรตอนบนเพื่อดูกระบวนการทางเคมีและชีวภา
John H. Martin และ Ken ได้ผลลัพธ์ที่ว่าธาตุเหล็กมีอยู่ทั่วพื้นที่ของมหาสมุทรเปิด โดยที่เหล็กเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการผลิตเบื้องต้นทางชีวภาพของมหาสมุทร
ได้มีการเชื่อมโยงธาตุเหล็กกับคาร์บอนไดออกไซด์และสภาพภูมิอากาศว่าเชื่อมโยงกัน เกี่ยวข้องกัน
1970-1979
เรดฟิลด์ตั้งข้อสังเกตในเทปสัมภาษณ์ที่จัดทำในปี 1973
Bowen และ Sugihara (1957) เป็นกลุ่มแรกในโลกที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของสตรอนเทียม-90 ในน้ำทะเลตามการรวบรวมที่จัดทำขึ้นในปี 1971 (NAS, 1971b) ซึ่งเป็นเอกสารฉบับแรกที่มีส่วนสนับสนุนความรู้ด้านชีวธรณีเคมีของวัฏจักรกัมมันตภาพรังสีเทียมในมหาสมุทร
นับตั้งแต่ปี 1970 หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมได้พัฒนากฎระเบียบมากมายเกียงกับ อากาศ น้ำ และคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่มีมลพิษรุนแรงก่อนหน้านี้หลายแห่ง ให้ดีขึ้น
Koczy (1956) เป็นผู้บุกเบิกอีกคนหนึ่งที่ศึกษาธรณีเคมีของธาตุกัมมันตรังสีในมหาสมุทรและเขียนกัมมันตภาพรังสีฉบับที่2ตามมาในอีกหลายปีต่อมา
ฟรานซิส ริชาร์ดส์ สรุปความรู้และความสำคัญของการศึกษาแอ่งแอนซิกและสำรวจอีกหลายที่ เช่น ร่องลึก Cariaco และทะเลดำ ( และฟยอร์ดอีกหลายแห่ง ) เพื่อศึกษารายละเอียดของชีวธรณีเคมีของอ็อกซิกในน้ำที่เป็นพิษ
มีการค้นพบช่องระบายอากาศของของเหลวร้อนที่หุบเขายอดสันเขาของระบบสันเขากลางมหาสมุทรในปี 1970
ได้มีการอธิบายวัฏจักรชีวธรณีเคมีในมหาสมุทรโดยการวาดออกมาเป็นภาพที่มีชื่อว่า “The Big Beaker”
แนวโน้มในอนาคต
เครื่องมือวิเคราะห์ที่ซับซ้อน&ละเอียด
ธาตุ
ไอโซโทป
กระบวนการควบคุมการถ่ายเทของสาร
การดึงออก (sink) & การกลับมากกระจายของสาร(redistribution0
พัฒนาการอ่าน ตีความหมายสิ่งที่สะสมในตะกอน
1990 - 2000
Dr. Neil Andersen ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ สำหรับผลงานที่สำคัญของเขา ด้วยรางวัลวิทยาศาสตร์มหาสมุทรปี 1994 จาก American Geophysical Union.
ในปลายปี 1993 John Holland Martin ได้รับสิทธิ์ในการร่วมมือทำโครงการทั้ง 2 โครงการ คือ U.S. Mussel WatchProgram และ VER-TEX Program ตามคำเชิญของ Professor Margaret Leinen คณบดี Graduate School of Oceanography (GSO) ที่ University of Rhode Island (URI)
1995 Parson และ Seki มุมมองทางประวัติศาสตร์ของการศึกษาทางชีววิทยาในมหาสมุทร
ปี1993 ได้สร้างแบบจำลองระบบนิเวศ3Dตามฤดูกาลของวัฎจักรไนโตรเจนในสหภาพยุโรปของแอนแลนติกเหนือ
1993 ได้สำรวจ ความสามารถของมหาสมุทรในการผลิต Primary Productivity การรวบรวมข้อมูลใหม่ๆเพื่อทดสอบAlgorithms
1998 ได้สำรวจ ฟิสิกส์ของไหลโดยจะรับรู้ผ่านสัญญาณCopepods
1991 มีความพยายามอย่างมากในการวัดโลหะปริมาณน้อยที่ละลายในน้ำทะเลโดยใช้เทคนิคที่สะอาด ซึ่งส่วนใหญ่ถูกกระตุ้นโดยงานของ Patterson และคณะในการวัดตะกั่วในน้ำทะเล
Boyle ยังคงทำการวิจัยต่อไปด้วยตัวอย่างอื่นๆ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างแคดเมียมและฟอสเฟต Bruland และคณะ ได้เพิ่มตัวอย่างอีกหลายตัวอย่างของโปรไฟล์ความลึกของโลหะปริมาณน้อยที่ละลายได้
1992 Johnson ได้กล่าวว่าความก้าวหน้าในเคมีวิเคราะห์มีความสำคัญต่อความก้าวหน้าหลายอย่างในความรู้เกี่ยวกับชีวธรณีเคมีเชิงโลหะและกระบวนการทางชีวเคมีอื่นๆ ในมหาสมุทร เช่นเดียวกับในช่วงแรกๆ ของสมุทรศาสตร์เคมี สมุทรศาสตร์ธรณีเคมี
ในช่วงปี ค.ศ. 1920 วิธีการวิเคราะห์ธาตุต่างๆ ใหญ่เป็นสารประกอบของไนโตรเจนและฟอสฟอรัส