Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่ 2 ผู้คลอดรายหนึ่ง G3P2-0-0-2 last 2 ปี GA 38 สัปดาห์ -…
กรณีศึกษาที่ 2
ผู้คลอดรายหนึ่ง G3P2-0-0-2 last 2 ปี GA 38 สัปดาห์
ผู้คลอดรายนี้มีโอกาสเกิดภาวะ ภาวะสายสะดือพลัดต่ำ (prolapsed cord)
สาเหตุ
จากกรณีศึกษา แพทย์ Set
ARM Amniotic fluid thick meconium
จากการณีศึกษา มีการคลําพบลักษณะของหลอดเลือดเต้นที่ปลายนิ้วมืออัตราการเต้น
เท่ากับ FHS
ทารกในครรภ์เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ Fetal distress
สาเหตุ
การที่สายสะดือมีการ
เลื่อนลงมาอยู่ต่ํากว่าส่วนนําของทารก
อาจเกิดขณะถุงน้ำคร่ำแตกทันที หรือภายหลังจากที่ถุงน้ำแตกแล้ว
ทำให้การเลือดไหลเวียนไปสู่ทารกได้ไม่สะดวก ส่งผลทารกในครรภ์ขาดออกซิเจนและเสียชีวิตในที่สุด
อาการและอาการแสดงของการเกิดภาวะสายสะดือพลัดต่ำ
คลําพบลักษณะของหลอดเลือดเต้นที่ปลายนิ้วมืออัตราการเต้น
เท่ากับ FHS
การพยาบาลที่สําคัญที่จะป้องกันหรือแก้ไขอันตรายต่อผู้คลอดและทารกในครรภ์
1.แนะนําสตรีตั้งครรภ์ให้สังเกตอาการของน้ำเดิน
2.ช่วยแพทย์เจาะถุงน้ำอย่างถูกวิธี
3.ฟังเสียงหัวใจทารกภายหลังเจาะถุงน้ำทันที
4.ดูแลให้ผู้คลอดนอนพักบนเตียงโดยเฉพาะในรายที่ส่วนนํายังไม่เคลื่อนเข้าสู่อุ้งเชิงกราน
5.ถ้าถุงน้ำทูนหัวแตกเอง ต้องฟัง FHS และตรวจภายในทันทีเพื่อประเมินภาวะสายสะดือย้อยจากนั้น ฟัง FHS ทุก 10-15 นาทีเพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลง
6.ควรบันทึกการเต้นของหัวใจทารกด้วยเครื่อง Monitor อย่างต่อเนื่อง
7.จัดท่านอน Semi-Fowler's positionเพื่อช่วยส่งเสริมให้ส่วนนําเคลื่อนลงสู่ช่องเชิงกรานได้ดีขึ้น
การพยาบาลเมื่อเกิดภาวะสายสะดือพลัดต่ํา
1.หากตรวจทางช่องคลอดพบภาวะสายสะดือพลัดต่ำ ให้ลดการกดของสายสะดือและดูแลให้สิ้นสุดการตั้งครรภ์อย่างรีบด่วน
จากกรณีศึกษา แพทย์มีแผนการรักษาให้ยุติการตั้งครรภ์
1.ยกปลายเตียงให้สูงขึ้น หรือปรับท่าของผู้คลอดให้อยู่ในท่าที่ก้นสูงกว่าไหล่
2.ใช้มือข้างที่ตรวจภายในดันศีรษะทารกขึ้น เพื่อลดการกดบนสายสะดือ และดันศีรษะทารกตลอดเวลาที่เตรียมการผ่าตัด เมื่อมีการคลอดสิ้นสุดจึงถอนมือออกมา
3.หลีกเลี่ยงการจับ คลํา กระตุ้นหรือผลักให้สายสะดือกลับเข้าไปในช่องคลอด
2.ลดการกดดัน (Decompression) โดยการสอดมือเข้าไปในช่องคลอดและดันส่วนนําไว้ไม่ให้
เคลื่อนต่ําลงมากดสายสะดือ
3.ให้ออกซิเจนเพื่อให้ระดับออกซิเจนมารดาสูงขึ้น จะทําให้ทารกได้รับออกซิเจนมากขึ้น
4.เตรียมการช่วยเหลือการคลอดแบบฉุกเฉิน
5.ถ้าสายสะดือมีแนวโน้มจะโผล่ออกมานอกช่องคลอดควรพยายามให้อยู่ในช่องคลอด หากสาย
สะดือยื่นออกมานอกหนทางคลอดใช้ผ้าก๊อซชุบ NSS อุ่นห่อไว้ลด vasospasm ได้
6.ทําให้กระเพาะปัสสาวะเต็มโดยการใส่น้ำเกลือ 500 - 700 มิลลิลิตรทางสายสวนปัสสาวะเพราะ
7.ถ้าผู้คลอดได้รับยาส่งเสริมการหดรัดตัวของมดลูก ให้หยุดการให้สารละลายออกซิโตซิน
8.ดูแลภาวะจิตใจของผู้คลอด
9.กรณีที่ทารกในครรภ์เสียชีวิต อธิบายให้ผู้คลอดและครอบครัวเข้าใจดูแลการคลอดให้เป็นไปตามปกติ ยกเว้นการประเมินเสียงหัวใจทารกถ้าคลอดล่าช้าควรดูแลให้ผู้คลอดได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
นางสาวสุพัตรา ติยานุพันธุ์ เลขที่ 67 รหัส 61125301132 ห้อง 1