Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Acute decompensated heart failure - Coggle Diagram

- - - - การที่ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท เมื่อหัวใจห้องล่างซ้ายบีบตัวจะทำให้มีเลือดถูกบีบย้อนกลับไปที่ห้องบนซ้ายได้ด้วย ทำให้ความดันในห้องหัวใจห้องบนซ้ายสูงขึ้น ทำให้ความดันในระบบไหลเวียนปอดเพิ่ม และหัวใจล้มเหลวตามมาเช่นเดียวกับลิ้นหัวใจไมตรัลตีบ ขณะที่ลิ้นหัวใจที่ปิดไม่สนิททำให้มีปริมาณเลือดเพิ่มขึ้นในหัวใจห้องล่างซ้าย ในช่วงแรกๆ หัวใจยังสามารถปรับตัวได้ จึงยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงในขนาดและรูปร่าง แต่ระยะต่อมาจะพบมีขนาดขยายขึ้นซึ่งทำให้เกิด AF ได้เช่นเดียวกัน
    - - เป็นลมหมดสติ
      - หอบเหนื่อยขณะออกกำลังกาย
      - เจ็บหน้าอก
      - หอบเหนื่อยตอนกลางคืนร่วมกับน้ำท่วมปอด
    - - โรคหัวใจรูมาห์ติก
      - โรคหัวใจขาดเลือด (myocardial ischemia)
      - การติดเชื้อของเยื่อบุหัวใจ (infective endocarditis)
      - กล้ามเนื้อหัวโตและมีแคลเซียมเกาะที่ลิ้นหัวใจ
  - - - S: เจ็บแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่ายเวลาทำกิจกรรมที่ต้องออกเเรง
        
        O: BP 140/90 mmHg P 120ครั้ง/นาที R 30 ครั้ง/นาที
      - เกณฑ์การประเมิน
        
        วัตถุประสงค์ : เพิ่มการกําซาบของเนื้อเยื่อหัวใจและการไหลของเลือดในหลอดเลือดหัวใจ
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        5.ดูแลให้ผู้ป่วยหยุดทำกิจกรรมต่างๆเมื่อผู้ป่วยมีอาการเจ็บหน้าอกจัดท่านั่งหรือนอนแบบหัวสูง 30-45 องศา เพื่อลดการใช้ออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจ
        
        6.ดูแลให้ได้รับออกซิเจน 3 LPM ทาง nasal cannula ในกรณีที่ O2 sat ต่ำกว่า 95% เพื่อเพิ่มระดับออกซิเจนไปสู่ร่างกาย
        
        4.ติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจเเบบต่อเนื่องในกรณีที่ผู้ป่วยยังมีอาการเจ็บหน้าอก เพื่อติดตามผลการรักษาและประเมินภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่อาจเกิดขึ้น
        
        7.ดูเเลให้ได้รับยาขยายหลอดเลือด Hydralazine 25 mg 1 tab q8 hr. keep at 30 น้อยกว่าหรื่อเท่ากับ 90/60 ตามแผนการรักษา เพื่อขยายหลอดเลือดหัวใจให้เลือดไปสู่กล้ามเนื้อหัวใจเพิ่มขึ้น
        เเละติดตามอาการของผลข้างเคียง เช่น ความดันโลหิตต่ำ ใจสั่น บวมที่ใบหน้า ซีด ชา ปัสสาวะออกน้อย
        
        3.ตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้าเเบบ 12 lead ทุกครั้งที่มีอาการเจ็บหน้าอก เพื่อช่วยในการวินิจฉัยถึงบริเวณของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
        
        8.ดูเเลให้ผู้ป่วยได้พักผ่อน Absolute bed rest ในช่วง 8-24 ชั่วโมงเเรก หลังมีอาการเจ็บหน้าอก เพื่อลดความต้องการใช้ออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจ
        
        2.ประเมินสัญญาณชีพ O2 sat เเละระดับความรู้สึกตัวทุกครั้งที่มีอาการเจ็บหน้าอก อย่างน้อยทุก 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินความรุนเเรงของอาการกำซาบของเนื้อเยื้อหัวใจที่ลดลง
        
        9.ประเมินอาการหลังให้การพยาบาล ถ้าอาการเจ็บหน้าอกไม่ดีขึ้น อาจต้องเตรียมผู้ป่วยไปในหน่วยวิกฤติเพื่อการดูแลเเละรักษาที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มการกำซาบของเนื้อเยื่อหัวใจและการไหลของเลือดในหลอดเลือดหัวใจ
        
        ประเมินและรายงานแพทย์เกี่ยวกับลักษณะอาการเจ็บหน้าอก ระยะเวลาที่เกิดอาการ เพื่อหาสาเหตุอาการเจ็บหน้าอกเเละติดตามอาการหลังได้รับการรักษา
        
        1.BP อยู่ในเกณฑ์ปกติ 90-120/60-90 mmHg
        
        2.P อยู่ในเกณฑ์ปกติ 60-100 ครั้ง/นาที
        
        3.R อยู่ในเกณฑ์ปกติ16-24 ครั้ง/นาที
    - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        objective data
        
        ค่า BUN = 22 mg/dl (ค่า ปกติ 8-20 mg/dl)
        ค่า Creatinine = 1.54 mEq/L (ค่าปกติ 0.7-1.3 mEq/L)
        
        ปัสสาวะออกน้อย On foley’s catheter records I/O = 1,000/300 cc.
        
        เท้าบวม 2ข้างบวมกดบุ๋ม 3+
        
        ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง หายใจหอบเหนื่อย นอนราบ ไม่ได้หายใจไม่อิ่ม
        
        1 more item...
        
        เกณฑ์การประเมิน
        
        2.ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการมีค่าปกติ ค่า BUN (ค่า ปกติ 8-20 mg/dl) ค่า Creatinine (ค่าปกติ 0.7-1.3 mEq/L)
        
        1.ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะไต วายเฉียบพลันและไตกลับมา ทำหน้าที่ได้ตามปกติ
        
        3.ไม่มีอาการบวมน้ำของแขน และขาทั้งสองข้างหรืออาการ บวมลดลง
        
        4.ไม่มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจไม่อิ่ม
        
        วัตถุประสงค์ : เพื่อลดการคั่งของของเสียใน ร่างกาย และไม่เกิดอันตราย จากของเสียคั่ง
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมินเเละสังเกตอาการของของเสียคั่งในร่างกาย เช่น ปัสสาวะ ออกน้อย บวม หายใจหอบ เพื่อช่วยในการประเมินความรุนแรงของของเสียคั่งในร่างกายและรายงานแพทย์ เพื่อให้การรักษาอย่างเหมาะสม
        
        2.ประเมินสัญญาณชีพทุก 2-4 ชั่วโมงเพื่อสังเกตอาการเหนื่อยหอบเเละภาวะการเปลี่ยนเเปลงของร่างกาย
        
        3.สังเกตอาการของของเสียคั่งในร่างกาย เช่น ปัสสาวะออกน้อย บวม หายใจหอบ เพื่อช่วยในการประเมินความรุนแรงของของเสียคั่งใน ร่างกายและรายงานแพทย์ ให้การรักษาอย่างเหมาะสม
        
        4.ดูแลให้ได้รับยา Lasix 40 mg iv q 12 hrs ตามเเผนการรักษาเเละเฝ้าระวังผลข้างเคียง เช่น เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย หนาวสั่น ไอและเสียงแหบ ไข้ขึ้นสูง มีอาการบวมของต่อมน้ำเหลือง
        
        5.บันทึกปริมาณสารน้ำเข้าออกของผู้ป่วยทุก 8 ชั่วโมง เพื่อประเมินความสมดุลน้ำเข้า/ออก
        
        6.ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อดูการทำงานของไต ได้แก่ BUN และ Creatinine
        เพื่อประเมินการทำงานของไตในการกรองของเสีย
        
        7.ประเมินอาการบวมกดบุ๋มของแขนขาและเท้าทั้งสองข้างเพื่อประเมินภาวะน้ำเกิน
      - ข้อวินิจฉัยการพยาบาล3
        มีของเสียคั่งในร่างกาย เนื่อง จากประสิทธิภาพการทำงานของไตลดลง
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        
        objective data
        
        BUN = 22 mg/dl
        Creatinine = 1.54 mg/dl
        Na =130.6 mEq/l
        K = 3.09 mEq/l
        GFR = 47.98 (หรือ ml/min/1.73 m2)
        Retained foley’s catheter with urine bag record
        I/O = 1,000/300 cc.
        
        เกณฑ์การประเมิน
        
        Retained foley’s catheter with urine bag record I/O = 30cc./hr.
        
        Blood Chemistry อยู่ในเกณฑ์ปกติ BUN = 10-20 mg/dl ,
        Creatinine = 0.7 – 1.5 mg/dl , Na =136-146 mEq/l , K = 3.5-5 mEq/l
        
        วัตถุประสงค์
        ลดการคั่งของเสียในร่างกาย
        
        1 more item...
        
        GFR = ≥ 90 มล./นาที(หรือ ml/min/1.73 m2 )
        
        ข้อวินิจฉัยการพยาบาล4
        เสี่ยงต่อภาวะเนื้อเยื่อได้รับออก ชิเจนไม่เพียงพอเนื่องจากมีภาวะน้ำท่วมปอด
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        
        objective data
        
        ฟังปอดได้ยินเสียง crepitation Hct = 26.0%, Hb 9.0 g/dl อัตราการหายใจ 28-30 ครั้ง/นาที มีอาการเหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้
        
        เกณฑ์การประเมิน
        
        ระดับการรู้สติ (conscious) ดี
        
        สัญญาณชีพอยู่ในระดับปกติได้แก่ สัญญาณชีพ : T 36.5-37.4 c PR 80-100 ครั้ง/นาที/m, RR 18- 20 ครั้ง/นาที, BP 90-145/60-90 mmHg
        
        Hct = 37-54%, Hb 12-17 g/dl
        
        ไม่พบภาวะ Cyanosis
        
        ฟังปอดไม่พบเสียง crepitation
        
        ระดับออกชิเจนในเลือด 02 Sat อยู่ในระดับปกติ (>95%)
        
        ค่า PaO2 และ PaCO2 อยู่ในระดับปกติ
        
        เลือดไม่เป็นกรด (pH อยู่ในระดับปกติ)
        
        วัตถุประสงค์ : เพื่อลดการคั่งของของเสียใน ร่างกาย และไม่เกิดอันตราย จากของเสียคั่ง
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        10 more items...
        
        ข้อวินิจฉัยการพยาบาล5
        เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เนื่องจากมีปริมาณเลือดออกจากหัวใจลดลง
        (ภาวะแทรกซ้อน เช่น สมอง ไต และหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยง)
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        
        S: เหนื่อยหอบ หายใจไม่อิ่มนอนราบไม่ได้
        
        O: เหนื่อยหอบโดยเฉพาะเวลาทำกิจกรรมต่างๆ
        อัตราหายใจ 30 ครั้ง/นาที ใช้กล้ามเนื้อคอและบ่าช่วยในการหายใจ ชีพจรเต้นเร็ว 120 ครั้ง/นาที ไม่สม่ำเสมอ
        ปัสสาวะน้อยลง จำนวน 1000/300 CC
        
        วัตถุประสงค์
        ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนและส่งเสริมให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น
        
        เกณฑ์การประเมิน
        
        3 more items...
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        9 more items...
        
        ข้อวินิจฉัยการพยาบาล6 เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออก ง่ายเนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำ
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        
        O: Hct. = 26%
        
        วัตถุประสงค์
        ผู้ป่วยไม่มีเลือดออกทั้งภายในและภายนอกร่างกาย
        
        2 more items...
        
        ข้อวินิจฉัยการพยาบาล7
        เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดิน ปัสสาวะ เนื่องจากคาสายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        
        2 more items...