Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีทางการบริหาร Elton Mayo บิดาการบริหารงานแบบมนุษย์สัมพันธ์ - Coggle…
ทฤษฎีทางการบริหาร
Elton Mayo
บิดาการบริหารงานแบบมนุษย์สัมพันธ์
ประวัติความเป็นมา
Elton Mayo
เขาและเพื่อนร่วมคณะวิจัย ได้แก่ John Dewey, Kurt Lewin, F.J. Roethlisber และ W.J. Dickson
ได้ทำการศึกษาทัศนคติและปฏิกิริยาทางจิตวิทยาของคนงานการทำงานตามสถานการณ์ที่ต่างกันตามที่ผู้วิจัยกำหนดขึ้นที่ Western Electric’s Hawthorne Plant (1927 - 1932) ในการทดลองของเขาและคณะได้แบ่งการทดลองเป็นระยะต่อเนื่องกัน
เขาได้ชื่อว่าเป็น “บิดาของการจัดการแบบมนุษยสัมพันธ์ หรือ การจัดการแบบเน้นพฤติกรรมศาสตร์”
Elton Mayo เป็นนักสังคมวิทยาทำงานอยู่ฝ่ายการวิจัยอุตสาหกรรมของฮาร์วาร์ด (The Department of Industrial Research at Harvard)
เครื่องมือนี้คืออะไร/มีองค์ประกอบอะไรบ้าง
ประกอบด้วยการวิจัยทดลอง 3 เรื่องใหญ่
การสัมภาษณ์ (Interview Studies)
การสังเกตการณ์ (Observation Studies)
ศึกษาสภาพห้องทำงาน (Room Studies)
Hawthorne Studies เป็นการทดลองวิจัยในโรงงาน Western Electric Company ในปี ค.ศ.1927-1932 โดยทีมงาน Hawthorne
สรุปผลการศึกษา Hawthorne
-พฤติกรรมของคนงานถูกกำหนดโดยความสัมพันธ์ภายในกลุ่ม
-สนับสนุนให้มีการทำวิจัยด้านผู้นำต่างๆ ผู้นำต้องเปิดโอกาสให้คน ในองค์การเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
-ความคิดที่ว่าคนเห็นแก่ตัว ต้องการเงินค่าตอบแทนมากๆเป็นการมองแคบๆ
-ปัจจัยด้านปทัสถานทางสังคม เป็นตัวกำหนดปริมาณผลผลิตไม่ใช้ปัจจัยด้านกายภาพ
แนวความคิดทฤษฎีความสัมพันธ์ของ Elton Mayo สาระสำคัญ
8.ทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่
8.2) ความจำเป็นในการพัฒนาทักษะ
8.3) ความจำเป็นต้องพัฒนาความเข้าใจ
8.1) ความจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบและผูกพัน
8.4) มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับทีมงาน
7.บทบาทของสมาชิกในทีม ได้แก่
7.2) พฤติกรรมในด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
7.1) บทบาทของแต่ละคนในทีม
7.3) บทบาทของพฤติกรรมการทำงานเป็นทีม
3.การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชา ได้แก่
3.8)ให้มีการแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน
3.9.ให้ความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
3.7) มอบหมายงานที่เขาพอใจสนใจและอยากทำ
3.6) สร้างความสัมพันธ์ให้ผู้เข้าร่วมงานเกิดความรักผูกพัน
3.5) ความสำเร็จของงานเป็นของทุกคน
3.4) ให้รู้จุดมุ่งหมายของงาน
3.10) การทำงานควรมีการประชุมปรึกษาหารือกัน
3.11)ให้เขามีความรู้สึกรับผิดชอบและรักษาผลประโยชน์
3.12)ส่งเสริมให้พนักงานมีความก้าวหน้า
3.3) ให้ผู้ร่วมงานเกิดศรัทธา
3.2) ให้อิสระในการคิดแกไขปัญหาแก่ผู้ร่วมงาน
3.1) การทำงานมีลักษณะเป็นประชาธิปไตย
2.ทักษะการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ได้แก่
2.2) รู้จักการติดต่อบุคคลอย่างตรงไปตรงมา
2.3) การยอมรับและสนับสนุนซึ่งกันและกัน
2.4) การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
2.1) รู้จักและไว้วางใจผู้อื่น
9.การสร้างความสัมพันธ์ในทีมงาน ได้แก่
9.1) ให้เกิดความรับผิดชอบในทีม
9.2) ให้เกิดความร่วมมือในการทำงานและปทัสถานสังคม
9.4) ให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน
9.5) มีการแข่งกันในการบริหาร
9.6) ไม่มีการแบ่งแยกศาสนา
9.7) ไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ
1.แนวคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ได้แก่
1.2)ทฤษฎีสามมิติของความสัมพันธ์
ระหว่างบุคคล
1.3) การสนับสนุนจากสังคม
1.1) การปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
10.แรงจูงใจในการทำงาน ได้แก่
10.1) แรงจูงใจในการทำงานและบริหารงานบุคคล
10.2) ปัจจัยของแรงจูงใจในการทำงาน
10.3) แรงจูงใจกับความต้องการของบุคคล
10.4 )ทฤษฎีแรงจูงใจต่าง ๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้
6.การสร้างทีม ได้แก่
6.4) การติดต่อสื่อสารที่ดี
6.5) มีการสนับสนุนระหว่างสมาชิก
6.3) สมาชิกเข้าใจในกติกา กฎระเบีย
6.6) สมาชิกเข้าใจกระบวนการทำงาน
6.7) สมาชิกมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
6.2) สมาชิกเข้าใจบทบาทของตน
6.8) มีความร่วมมือในการทำงาน
6.9) มีการเพิ่มพูนทักษะความรู้ความสามารถ
6.10) มีความรู้สึกพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
6.1) มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิก
4.การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน ได้แก่
4.5) มีความจริงใจเสมอต้นเสมอปลาย
4.6) ให้ความช่วยเหลือเมื่อมีทุกข์ร้อน
4.4) อย่าแสดงว่าตนเหนือกว่าเพื่อนร่วมงาน
4.3) ยกย่องชมเชยเพื่อนร่วมงานด้วยความจริงใจ
4.8.ยิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นมิตรกับเพื่อนร่วมงาน
4.2)ให้ความเป็นกันเองและเป็นมิตร
4.9) ไม่โยนความผิดหรือซัดทอดความผิดให้กับเพื่อนร่วมงาน
4.10) ใจกว้างและยอมรับความสามารถของเพื่อนร่วมงาน
4.1) เมื่อเพื่อนพูดให้รับฟังอย่างเต็มใจ
5.การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลตามหลักพุทธรรม 3 หมวด ได้แก่
5.1) ฆราวาสธรรม 4 สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ
5.2) สังคหวัตถุ 4 ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมนัตตา
5.3.พรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
การนำหลักมนุษยสัมพันธ์มาใช้ในการบริหารสถานศึกษา
3.เรียกขานจำชื่อบุคคลได้
4.เป็นกันเองให้ความช่วยเหลือแก่บุคคลทั่วไป
ยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี
5.พูดหรือทำตัวจริงใจ ไม่เสรแสร้ง
1.ทักทาย พูดคุย โอภาปราศรัย
6.เห็นอกเห็นใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา
7.รับฟังความคิดเห็นผู้อื่นไตร่ตรอง พิจารณาเหตุผล
8.มีจิตใจพร้อมให้บริการผู้อื่นเสมอ
9.ยอมรับนับถือในเกียรติ ศักดิ์ศรี
10.รู้จักตนเอง รู้จักประมาณ
11.มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน
12.มีความอ่อนน้อมถ่อมตน อันเป็นสมบัติของผู้ดี