Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะรกเกาะต่ำ (Placenta previa), จัดทำโดย นายณัฏฐ์ดนัย จันทพิมพ์ 63019941 …
ภาวะรกเกาะต่ำ (Placenta previa)
ชนิดของรกเกาะต่ำ
1. Total placenta previa หรือ placenta previa totalis
หมายถึง รกเกาะต่ำลงมาในส่วนล่างของมดลูกจนคลุมปิดปากมดลูกด้านในทั้งหมด
2. Partial placenta previa หรือ placenta previa partialis
หมายถึง รกเกาะต่ำลงมาในมดลูกส่วนล่าง และคลุมลงมาถึงปากมดลูกด้านในเพียงบางส่วน
3. Marginal placenta previa
หมายถึง รกเกาะตํ่าลงมาในส่วนล่างของมดลูกและเกาะลงมาถึงขอบของปากมดลูกด้านในพอดี
4. Low - lying placenta
หมายถึง รกเกาะต่ำลงมาในส่วนล่างของมดลูกแต่ไม่คลุมลงมาถึงปากมดลูกด้านใน
ความหมาย
หมายถึง ภาวะที่รกเกาะต่ำกว่าปกติ โดยเกาะลงมาถึงส่วนล่างของมดลูกปกติ รกจะเกาะท่ีส่วนบนของมดลูก อาจจะเป็นด้านหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลังของโพรงมดลูก ในภาวะที่รกเกาะตํ่า รกบางส่วนหรือทั้งหมดเกาะที่ส่วนล่างของมดลูกและอาจคลุมลงมาเพียงบางส่วนหรือคลุมทั้งหมดบริเวณปากมดลูก มักพบเมื่ออายุครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนมากพบในไตรมาสที่สาม โดยเฉพาะเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 8 เดือน
พยาธิสภาพ
การไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงมดลูกส่วนล่างจะมีน้อยกว่าบริเวณยอดมดลูก ดังนั้นรกจึงต้องเกาะบริเวณที่กว้างขึ้น
ในระยะหลังของการตั้งครรภ์ มดลูกจะมีการหดรัดตัวบ่อยขึ้น ขณะที่มดลูกมีการหดรัดตัวจะเกิด
ภาวะเลือดออกทางช่องคลอด โดยไม่มีอาการเจ็บปวด เมื่อมีการหดรัดตัวจะมีเลือดออก และมีการตกเลือดซ้ำๆ และปริมาณเลือดที่ออกจะเพิ่มมากขึ้น
ภาวะรกเกาะต่ำทําให้เกิดการติดเชื้อจากช่องคลอดได้ง่าย เนื่องจากการหดรัดตัวของมดลูกรกจะเกิดการลอกตัว ทําให้มีเลือดออกจากเส้นเลือดที่ฉีกขาด ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการติดเชื้อทางช่องคลอดเข้าสู่มดลูกได้ง่าย
ภาวะรกเกาะต่ำจะส่งเสริมให้ทารกในครรภ์อยู่ในท่าที่ผิดปกติเนื่องจากรกเกาะขวางอยู่บริเวณส่วนล่างของมดลูก ทารกไม่สามารถกลับให้ศีรษะเป็นส่วนนําได้
ความผิดปกติของรกและสายสะดือ เช่น รกมีขนาดใหญ่และบาง
ผลของรกเกาะต่ำที่มีต่อการตั้งครรภ์ การคลอดและหลังคลอด
เกิดภาวะแท้งคุกคาม
ถุงน้ําคร่ำแตกก่อนเวลา
การคลอดก่อนกําหนด
ทารกในครรภ์อยู่ในท่าผิดปกติและส่วนนําผิดปกติ
ลิ่มเลือดอุดตัน
การตกเลือดหลังคลอด
เศษรกค้างการติดเชื้อ
มดลูกกลับคืนสู่สภาพเดิมช้ากว่าปกติ
โรคโลหิตจางเนื่องจากมีการเสียเลือดมาก
การรักษา
การรักษาแบบประคับประคอง (expectant treatment)
การทําให้การตั้งครรภ์สิ้นสุด (active treatment)
2.1. การคลอดทางช่องคลอด ทําในรายที่รกเกาะปิดปากมดลูกด้านในเพียงบางส่วน
2.2. การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง เป็นวิธีที่ให้ความปลอดภัยแก่มารดาและทารกในครรภ์มากกว่าการคลอดทางช่องคลอด
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
มารดามีโอกาสเกิดภาวะช็อค เนื่องจากการเสียเลือดจากภาวะรกเกาะต่ำและแผลผ่าตัด
วัตถุประสงค์การพยาบาล
มารดาไม่เกิดภาวะช็อคในระยะก่อนคลอด ระหว่างคลอด และหลังคลอด
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพทุก 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการเปลี่ยนแปลง ถ้าผิดปกติรายงานแพทย์เพื่อการรักษาทันที
ให้มารดาใส่ผ้าอนามัย สังเกตและบันทึกลักษณะจำนวนเลือดที่ออกทางช่องคลอดเพื่อประเมินการเสียเลือด
เตรียมมารดาเพื่อรับการตรวจและผ่าตัดให้พร้อมในกรณีเลือดออกมาก เช่น เตรียมตรวจด้วยคลื่นความถี่สูง การเตรียมตรวจภายใน หรือการผ่าตัดคลอดเด็กออกทางหน้าท้อง
สังเกตและบันทึกการหดรัดตัวของมดลูกทุก 15 นาที เนื่องจากการหดรัดตัวของมดลูกจะทำให้เลือดออกมากขึ้น
สังเกตและประเมินอาการต่างๆ อย่างใกล้ชิด ได้แก่ภาวะซีด กระสับกระส่าย เหงื่อออก ตัวเย็นใจสั่น พักไม่ได้ และอาการเจ็บปวด
ทารกในครรภ์มีโอกาสขาดออกซิเจน เนื่องจากมารดามีเลือดออก
วัตถุประสงค์การพยาบาล
ทารกในครรภ์ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินเสียงหัวใจทารก อาจประเมินทุก 5, 15, 30 นาที 1 ชั่วโมง หรือ 4 ชั่วโมง ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะของมารดาก่อนคลอดและทารกว่ามีเลือดออกมากหรือน้อย หรือเป็นระยะที่เลือดหยุดแล้ว ในกรณีที่เสียงหัวใจทารกผิดปกติคือมากกว่า 160 ครั้ง หรือน้อยกว่า 120 ครั้ง/นาที หรือมี Late decelelation ให้ออกซิเจน Canula 5 ลิตร/นาที และรายงานแพทย์ทราบทันทีพร้อมกับจัดท่าให้มารดานอนตะแคงซ้าย
ประเมินอัตราการดิ้นของทารกในครรภ์โดยใช้เวลาสังเกต ครึ่งชั่วโมง 2-3 ครั้ง ถ้าทารกเคลื่อนไหวน้อยกว่า 3 ครั้ง/ชั่วโมง ถือว่าผิดปกติ ควรสังเกตต่อจนครบ 12 ชั่วโมง ถ้ายังเคลื่อนไหวน้อยกว่า 4 ครั้ง รายงานแพทย์เพื่อการรักษา
ดูแลให้มารดาได้รับสารน้ำสารอาหารหรือเลือดให้เพียงพอตามแผนการรักษา
ให้มารดานอนตะแคงข้างสลับซ้ายขวาโดยเน้นที่การตะแคงข้างซ้ายเพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงทารกได้
ดูแลให้มารดานอนหลับพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ
ดูแลช่วยเหลือทารกแรกเกิดทันทีถ้าพบว่าทารกมีภาวะขาดออกซิเจน
ทารกมีโอกาสเกิดการติดเชื้อในระบบต่างๆ ของร่างกายเนื่องจากระบบภูมิต้านทานยังไม่สมบูรณ์
วัตถุประสงค์การพยาบาล
เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระบบต่างๆ ของร่างกาย
กิจกรรมการพยาบาล
ล้างมือก่อนและหลัง ให้การพยาบาลและสัมผัสทารกทุกครั้ง
ประเมินอาการที่แสดงถึงการติดเชื้อ เช่น ตัวร้อน ซึมลง หายใจหอบ ร้องกวนกระสับกระส่าย
วัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง หรือตามความเหมาะสม เพื่อประเมินภาวะติดเชื้อ
ดูแลจัดสิ่งแวดล้อม และอุปกรณ์ของใช้ทารกให้สะอาด
ดูแลให้ได้รับการอาบน้ำ สระผมวันละ 1 ครั้ง และเช็ดสะดือด้วย Alcohol 70% วันละ 2 ครั้ง ดูแลความสะอาดทุกครั้งหลังการขับถ่าย หรือเมื่อเปียกแฉะ
ให้คำแนะนำแก่มารดาและญาติในการดูแลทารกให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ เช่น ไม่ใช้แป้งโรยบริเวณสะดือ ไม่แกะหรือดึงบริเวณสะดือทารก บอกให้ทราบว่าสะดือจะหลุดภายใน 7-10 วันหลังคลอดเพื่อให้มารดาและญาติเข้าใจ ป้องกันการติดเชื้อจากบริเวณสะดือเข้าสู่ร่างกาย
จัดทำโดย นายณัฏฐ์ดนัย จันทพิมพ์ 63019941
อ้างอิง
นางอมร แก้วใส. (2551).
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะรกเกาะต่ำ
. สืบค้นจาก
http://203.157.71.148/data/kpw/news/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%B5%2051/%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A3.doc
นางพิลัยวรรณ อ่อนนางา. (2551).
การพยาบาลผู้คลอดที่มีภาวะรกเกาะต่ำและได้รับการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
. สืบค้นจาก
http://www.msdbangkok.go.th/dowload%20file/Personal/Succeed/RN/L7/receive160753/w_pilaiwan.pdf