Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่7.5.6-7.5.8 การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีความผิดปกติทางอายุรกรรม :star:…
บทที่7.5.6-7.5.8 การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีความผิดปกติทางอายุรกรรม :star: :star:
ABO incompatibility
สาเหตุ
หมู่เลือดระบบ ABO ไม่เข้ากับมารดา ทารกหมู่เลือด A หรือ B ที่เกิดจากมารดาหมู่เลือด Oเกิดในคนผิวดำ (Black)
พยาธิสรีรภาพ
มารดาที่มีหมู่เลือด A หรือ subgroup A เป็นสาเหตุให้ทารกหมู่เลือด B เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกภาวะเม็ดเลือดแดงแตกอย่างรุนแรงหลังคลอดจากมารดาหมู่เลือด B โดยทั่วไป สามารถจับกับ Fc-receptor ของเซลล์ฟาโกไซต์แล้วกระตุ้นการทำลายเม็ดเลือดแดงได้ภาวะนี้มักเกิดกับมารดาที่มีกลุ่มเลือด O และทารกหมู่เลือด A หรือ B กระตุ้นให้มารดาสร้าง antibody ทำให้มี antibody มากและส่วนใหญ่จะเป็น IgGสามารถผ่านรกเข้าสู่กระแสเลือดของทารกจากนั้นจะทำปฏิกิริยากับเม็ดเลือดแดงทำให้เม็ดเลือดแดงแตกทารกแรกเกิดมีภาวะซีดบวมและตัวเหลืองจนอาจเสียชีวิตได้ภายหลังคลอด
ภาวะแทรกซ้อน
เสี่ยงต่อการที่สมองถูกทำลายอย่างรุนแรงจากภาวะ kernicterus
ทารกที่เกิดภาวะ kernicterus จะเสียชีวิต
คนที่รอดชีวิตมักเกิด mental retard หรือ develop paralysis or nerve deafness
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวัติการตรวจกลุ่มเลือด การไม่เข้ากันของกลุ่มเลือด ABO
การตรวจร่างกายทารกที่มีจุดเลือดออกตามตัวตับม้าม อาการซีดอาจเกิดจากการแตกทำลายของเม็ดเลือด การเจริญเติบโตช้าความพิการแต่กำเนิด
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
3.1. ระดับบิลิรูบินใน serum นิยมตรวจค่า Total bilirubin จากเลือดจำนวนเล็กน้อย วิธี direct Spectrophotometry
3.2. ตรวจนับเม็ดเลือดนับจำนวน reticulocytes ตรวจลักษณะรูปร่างเม็ดเลือดแดงบนแผนสไลด์ฟิล์มเลือด
3.3. ตรวจหมู่เลือดของมารดาและทารกแรกเกิด
3.4. Direct Coomb's test เพื่อหาสาเหตุ hemoglobin levels และ RBC counts เเละประเมินความรุนแรงของ anemia
แนวทางการรักษา
อาการนแรง
ดูแลในแผนกทารกแรกเกิดวิกฤติ (Neonatal Intensive Care Unit: NICU)
ได้รับการเปลี่ยนถ่ายเลือด (exchange transfusion) อย่างทันทีหลังคลอด
อาการเล็กน้อยถึงปานกลาง
ได้รับการส่องไฟ (phototherapy)
การพยาบาล
ประเมินความเสี่ยงของคู่มารดาและทารกจากการซักประวัติประวัติการตั้งครรภ์และคลอดที่ผ่านมา
อธิบายถึงสาเหตุและปัจจัยส่งเสริมพยาธิสรีรภาพผลกระทบต่อทารกในครรภ์และการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปรวมถึงการรักษาและพยาบาลแก่มารดาหลังคลอดและครอบครัว
ติดตามภาวะ jaundice ด้วยการตรวจร่างกายและที่มีความเสี่ยงต่อ hemolytic disease เพื่อเฝ้าระวังและรายงานแพทย์ทันที
ประเมินภาวะตัวเหลืองของทารกแรกเกิดหากตรวจพบภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอดเพื่อเฝ้าระวังและประเมินภาวะ pathologic jaundice
ทารกแรกเกิดที่ได้รับการส่องไฟให้วางทารกไกลแสงไฟพอประมาณระวัง burn พลิกตัวทุกชั่วโมงและปิดตาทารกด้วย eye patches
อาการและอาการแสดง
หากไม่ได้รับการรักษาเสี่ยงต่อการเกิด kernicterus
อาจพบตับโต
อาการตัวเหลืองภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
Rh isoimmunocompatibility
สาเหตุ
การไม่เข้ากันของกลุ่มเลือด Rh ของมารดาและทารกในครรภ์ Rh เป็น Antigen ตัวหนึ่งที่มีเม็ดเลือดแดงพบในคนผิวขาว ของอเมริกามี Rh positive นอกนั้นจะมี Rh negative
พยาธิสรีรภาพ
เกิดขึ้นเมื่อแม่มี Rh negative และทารกมี Rh positive ทำให้เกิดการสร้าง antibodies จะไปจับและทำลายเม็ดเลือดแดงของทารกทำให้ทารกมีภาวะโลหิตจางทำให้เกิด Hydrops fetalis ทารกจะมีภาวะบวมน้ำและมีการไหลเวียนล้มเหลว (circulatory collapse) ทำให้ระดับของ bilirubin สูงขึ้น ในทารกแรกเกิดที่คลอดครบกำหนดทำให้เกิดภาวะ Kernicterus คือมี bilirubin ในกระแสเลือดสูงมากทำให้มีการเกาะกับ Nucleus ของ cell สมองทำให้มีอาการทางระบบประสาทเกิดขึ้น
อาการและอาการแสดง
หากทารกมี hemolysis จะซีดมากอาจเกิดหัวใจวายตัวบวมน้ำที่เรียกว่า hydrops fetalis
ในรายที่ไม่ตายคลอดก็จะมีปัญหาซีดมากหรือตัวเหลือง
แนวทางการรักษาและการพยาบาล
วัตถุประสงค์ที่สำคัญ 2 ประการ
ป้องกันการเกิด Isoimmunization (RW Isoimmunization)
เฝ้าระวังและตรวจหา antibodies ในหญิงตั้งครรภ์และการดูแลสุขภาพของทารกในครรภ์
2.1 การเจาะเลือดครั้งแรกที่มาฝากครรภ์เพื่อตรวจหาหมู่เลือด Rh typing ทุกรายหากหญิงตั้งครรภ์มี Rh negative ควรตรวจ Indirect Coomb's test เพื่อหา antibodies
2.2 ตรวจ Indirect Coomb's test อีกครั้งเมื่ออายุครรภ์ 28 สัปดาห์หากไม่พบว่ามี antibodies ควรให้ RhoGAM เพื่อป้องกันการสร้าง antibodies
2.3 ควรให้คำแนะนำเพื่อให้หญิงตั้งครรภ์เข้าใจถึงแผนการรักษาจะช่วยลดความกลัวและความวิตกกังวลได้และควรบอกให้ทราบถึงผลของ RhoGAM ว่าไม่มีผลใด ๆ ต่อมารดาและทารกในครรภ์อาจมีไข้เพียงเล็กน้อย
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
ไม่ค่อยพบผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
ผลกระทบต่อทารก
การตั้งครรภ์ที่ 2 ทำให้ทารกเกิด
ภาวะ neonatal anemia, hydrops fetalis, ตับและม้ามโต, hyperbilirubinemia, kernicterus, dead fetus in uterus, still birth
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวัติการตรวจกลุ่มเลือดทั้งของสตรีตั้งครรภ์และคู่สมรสเกี่ยวกับการไม่เข้ากันของกลุ่มเลือดระบบ Rh
การตรวจร่างกายทารกมีภาวะโลหิตจางจนถึงซีดมากตัวบวมน้ำตับม้ามโตและตัวเหลือง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ระดับของ bilirubin สูงขึ้น
ผลการตรวจ Coombs 'test ให้ผลบวกอย่างรุนแรง (strongly positive)
ผลการตรวจความเข้มข้นของเลือดพบ hematocrit ต่ำมาก reticulocyte Count สูง
Thalasemia in pregnancy
การพยาบาล
อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์ที่เป็นพาหะของธาลัสซีเมียและสามีเข้าใจถึงความจำเป็นในการคัดกรองหาพาหะธาลัสซีเมีย
อธิบายสตรีตั้งครรภ์และครอบครัวเกี่ยวกับโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียลักษณะของการถ่ายทอดทางพันธุกรรมความแตกต่างระหว่างเป็นโรคและเป็นพาหะ
ในกรณีที่คู่เสี่ยงของโรคธาลัสซีเมียที่อาการรุนแรงควรแนะนำเกี่ยวกับการตรวจวินิจฉัยทารกในครรภ์ก่อนคลอด
ในกรณีที่ตัดสินใจที่จะยุติการตั้งครรภ์ให้การสนับสนุนทางด้านจิตสังคมแก่สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวพร้อมทั้งให้การดูแลให้ได้รับการส่งต่อ
แนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์โดยเน้นการป้องกันการติดเชื้อในระบบต่าง ๆอการรับประทานยาตามแผนการรักษาการมาตรวจตามนัดและหากมีอาการผิดปกติควรมาพบแพทย์ทันที
แนวทางการรักษา
การให้ความรู้คำแนะนำเกี่ยวกับสาเหตุอาการและการควบคุมป้องกันโรค
เเนะนำคู่สมรสที่มีอัตราเสี่ยงในการมีลูกเป็นโรคชนิดที่รุนแรงคือไม่มีลูกของตนเองโดยคุมกำเนิดหรือทำหมันยอม
การให้เลือดเพื่อป้องกันไม่ให้มีภาวะซีดและรักษาระดับฮีโมโกลบินให้สูงพอสตรีตั้งครรภ์เป็นโรคธาลัสซีเมียไม่ให้สร้างเม็ดเลือดแดงมากเกิน
การให้ยาขับเหล็กให้ในรายที่ได้รับเลือดมากกว่า 10-20 ครั้งยาที่นิยมใช้คือ Deferoxamine (Desferal®, DFO)
การตัดม้ามจะทำในรายที่มีอาการปานกลางถึงรุนแรงที่ม้ามโตจนเกิดภาวะ hypersplenism ทำให้ม้ามทำลายเม็ดเลือดแดงมากขึ้น
ปลูกถ่ายไขกระดูก เป็นวิธีที่ทำให้หายขาดจากโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวัติเกี่ยวกับโรคโลหิตจางในครอบครัว
การตรวจร่างกายอาจพบภาวะซีดตับและม้ามโตตัวเหลืองตาเหลืองมีโครงสร้างใบหน้าเปลี่ยนแปลงผิดปกติ (Thalassemia facies)
การตรวจทางห้องปฏิบัติการตรวจ CBC
อาการและอาการแสดง
อาการรุนแรงมาก (thalassemia major) คือ homozygous d-thalassemia (Hb Bart's hydrop fetalis)
อาการรุนแรงปานกลาง (thalassemia intermediate) ได้แก่ Hb H, d-thalassemia / Hb CS โดยจะมีอาการซีดปานกลางตับและม้ามโตตัวเหลืองตาเหลือง
กลุ่มที่ไม่มีอาการ (thalassemia minor) ได้แก่ กลุ่มที่เป็นพาหะและกลุ่ม homozygous Hb E, homozygous Hb CS
ผลกระทบต่อภาวะสุขภาพของสตรีและทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
รายที่มีภาวะ Hb Bart's hydrop fetalis มักเกิดภาวะแทรกซ้อนคือความดันโลหิตสูงระหว่างตั้งครรภ์คลอดยาก
ผลกระทบต่อทารก
เกิดภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง
ทารกเจริญเติบโตช้า
นํ้าหนักตัวน้อย
สาเหตุ
ความผิดปกติทางโครงสร้าง มีการเปลี่ยนแปลงการเรียงตัวของ amino acid บน polypeptide chain ทำให้เกิด Hb ที่ผิดปกติ
ความผิดปกติทางปริมาณ มีการสร้างglobio สายใดสายหนึ่งลดลง
ชนิด
α-thalassemiaป็นความผิดปกติที่ทำให้มีการสร้าง g-globin น้อยลง
β -thalassemiaป็นความผิดปกติที่ทำให้มีการสร้าง B-globin น้อยลง
พยาธิสรีรภาพ
มีความผิดปกติของยีนทำให้การสังเคราะห์ d-globin และ B-globin ลดน้อยลงแล้วตกตะกอนอยู่ในเม็ดเลือด ขาดความยืดหยุ่นผนังของเม็ดเลือดแดงถูกทำลายง่ายเม็ดเลือดแดงมีอายุสั้นส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการซีดตัวเหลืองตาเหลืองตับม้ามโตไขกระดูก
:<3:
:<3:
:<3:
:<3:
:<3:
:<3:
:<3:
:check:
:explode:
:explode:
:explode:
:explode:
:explode:
:explode:
:check:
:warning:
:warning:
:warning:
:warning:
:warning:
:warning:
:warning:
:warning:
:check: