Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 2 แนวคิด หลักการ และทฤษฎีการพยาบาล - Coggle Diagram
บทที่ 2 แนวคิด หลักการ และทฤษฎีการพยาบาล
ทฤษฎีพัฒนาการทางจิตสังคมของอีริคสัน (Psychosocial development)
เน้นความสำคัญ
ของทางด้านสังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมทางจิตใจ (Psychological environment)ว่ามีบทบาทในการ
พัฒนาบุคลิกภาพมาก โดยช่วยให้มีการพัฒนาด้านบทบาท ให้บรรลุถึงซึ่งความเป็นตัวของตัวเอง และให้โอกาสได้
แสดงออกของอารมณ์อย่างเหมาะสม
2.2 พัฒนาการของบุคลิกภาพ
2.3 การประยุกต์ใช้ทางการพยาบาลจิตเวช
ทำให้เข้าใจถึงพฤติกรรมแต่ละช่วงวัย พฤติกรรมเบี่ยงเบนเกิดขึ้น
ได้เพราะบุคคลไม่สามารถผ่านขั้นพัฒนาการแต่ละขั้นได
ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล (Interpersonal relationship theory
3.1 แนวคิดหลัก
ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของบุคคลผ่านการมี
สัมพันธภาพ และเป็นการลดความวิตกกังวล
3.2 ลักษณะของทฤษฎี
3.2.1 เป้าหมายเพื่อไปสู่ความพึงพอใจ (Satisfactions)
3.2.2 เป้าหมายเพื่อไปสู่ความมั่นคง (Security)
3.3 ระบบแห่งตน (Self – system)
ภาพของบุคคลที่มีต่อตนเอง ซึ่งสร้างขึ้นภายในขวบปี
แรก เป็นเครื่องมือที่ทำให้บุคคลสามารถจัดการและหลีกเลี่ยงจากความวิตกกังวล รวมทั้งสร้างความมั่นคง
ปลอดภัยได้ โดยถูกสร้างมาจากประสบการณ์ในวัยเด็ก
3.4 การพัฒนาบุคลิกภาพ
1) ขั้นทารก (Infancy) อายุแรกเกิด -18 เดือน
2) ขั้นวัยเด็ก (Childhood) อายุ 18 เดือน - 5 เดือน
3) ขั้นวัยเยาว์ (Juvenile Era) อายุระหว่าง 5 - 12 ปี
4) ขั้นก่อนวัยรุ่น (Pre- Adolescence) อายุ 11 - 13 ปี
5) ขั้นวัยรุ่นตอนต้น (Early Adolescence) อายุระหว่าง 13 - 17 ปี
6) ขั้นวัยรุ่นตอนปลาย (Late Adolescence) อายุ 17 - 19 ปี
7) ขั้นวัยผู้ใหญ่ (Adulthood) อายุระหว่าง 20 - 30 ปี
3.5 การประยุกต์ใช้ในการพยาบาลจิตเวช
พยาบาลควรจะเน้นที่การเปลี่ยนแปลงของ พัฒนาการในแต่ละบุคคล
พฤติกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดการปรับตัว และสัมพันธภาพระหว่างบุคคลที่นำมาซึ่งความเครียดและวิตกกังวล
ทฤษฎีพฤติกรรมนิยม
4.1 ความเชื่อเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์
มนุษย์และสิ่งแวดล้อม ต่างกระทำซึ่งกันและกัน หรือมีอิทธิพลต่อกัน ธรรมชาติของมนุษย์ที่นักพฤติกรรมกลุ่มต่าง ๆ มีความเห็นตรงกัน
4.3 แนวคิดที่สำคัญ
4.3.1 การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิก (Classical conditioning)
4.3.2 การวางเงื่อนไขแบบลงมือกระทำ (Operant conditioning)
4.3.3 การเรียนรู้ทางสังคม (Social learning)
4.2 ทฤษฎีบุคลิกภาพ
4.2.1 ตัวแปรทางสิ่งแวดล้อมเป็นตัวกำหนดการแสดงพฤติกรรม
4.2.2 พฤติกรรมแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ พฤติกรรมที่กระทำต่อสิ่งแวดล้อม และพฤติกรรมที่
ถูกเร้าโดยสิ่งแวดล้อม
4.2.3 บุคลิกภาพพัฒนาจากการได้รับตัวเสริมแรง ที่มีทั้งตัวเสริมแรงปฐมภูม
4.2.4 พฤติกรรมสามารถทำให้แผ่วลงหรือหยุดแสดงได
4.2.5 บุคลิกภาพพัฒนาจากกระบวนการเรียนรู้ การสรุปความเหมือน (Generalization) และ
การแยกความแตกต่าง (Discrimination)
4.2.6 การเลียนแบบมีอิทธิพลต่อบุคลิกภาพ
4.2.7 บุคลิกภาพที่เกิดจากการเสริมแรง ดำรงอยู่ได้เพราะได้รับตัวเสริมแรงอย่างสม่ำเสมอ และ
อย่างไม่แน่นอน
4.4 ธรรมชาติของการเสริมแรง การงดตัวเสริมแรงบางอย่างจะทำให้เกิดตัวกระตุ้น (Motivator) ผลักดันให้แสดงพฤติกรรม
โดยเฉพาะการงดตัวเสริมแรงปฐมภูม
4.5 วิธีการบำบัด
4.5.1 วิธีการบำบัดที่อาศัยการเรียนรู้แบบคลาสสิก
1) Desensitization เดิมเรียกว่า Reciprocal inhibition หรือ Systematic desensitization
หลักการของวิธีการนี้คือ บุคคลไม่สามารถผ่อนคลายและรู้สึกกลัวในขณะเดียวกัน มีขั้นตอนการบำบัด
2) การลดภาวะ (Extinction) หมายถึง พฤติกรรมที่เกิดขึ้นจะค่อย ๆ ลดปริมาณลงจนหยุด
พฤติกรรม หากไม่ได้รับการเสริมแรง วิธีการลดความวิตกกังวลโดยอาศัยหลักการลดภาระ
3) การลงโทษ (Punishment)
ทฤษฎีทางชีววิทยา
5.1 แนวคิดหลักของทฤษฎีชีวภาพทางการแพทย
5.2 สาเหตุของความผิดปกติทางจิต
5.2.1 พันธุกรรม (Genetic)
5.2.2 สารสื่อประสาท (Neurotransmitters)
5.2.3 ความผิดปกติของโครงสร้างและการทำงานของสมอง (Structure and functional of
brain)
5.2.4 พัฒนาการของเซลล์ประสาท (Neural development)
5.3 การประยุกต์ใช้ในการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวชแนวคิดทางชีววิทยาเชื่อว่าความผิดปกติทางจิตเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีระและสารเคมีใน
สมอง เป้าหมายของการรักษา
แนวคิดอัตถิภาวนิยมและมนุษยนิยม (Existentialism and Humanism)
มาสโลว์
กลุ่มปรัชญา Humanistic
บุคคลที่ไม่สามารถพัฒนาบุคลิกภาพได้ เนื่องจากไม่ได้รับการตอบสนองที่เหมาะสม
เชื่อว่าธรรมชาติของมนุษย์เกิดมาดีและพร้อมที่จพทำสิ่งที่ดี ซึ่งความต้องการมนุษยมี 7 ขั้น
ทฤษฎีทางการพยาบาล
ทฤษฎีการดูแลตนเองของโอเร็ม
สนันสนุนผู้ที่มีปัญหาสุขภาพให้สามารถดูแลตนเองให้สมบูรณ์ โดยใช้ศาสตร์และศิลป์รวมทั้งเทคโนโลยีในการดูแลช่วยเหลือ
ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคลของเพบพลาว
การสร้างสัมพันธภาพที่แน่นอนระหว่างบุคคลที่จะสามารถทําให้บุคคลเกิด
การเรียนรู้และมีประสบการณ์ที่กว้างไกล
ทฤษฎีการปรับตัวของรอย (Roy’ s Adaptation model)
เน้นการทํางานในร่างกายทั้งภายในและภายนอกอย่างมีระบบ มีระบบ ย่อยในระบบใหญ่ มีการปรับตัวให้คงสภาวะสมดุล
การประยุกต์ใช้ทฤษฎีทางการพยาบาลในการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
การประเมินปัญหา (assessment)
วินิจฉัยทางการพยาบาล
การวางแผนทางการพยาบาล
การปฏิบัติการพยาบาล เช่น การสอน การให้คําปรึกษา
การประเมินผลทางการพยาบาล