Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ละครที่พัฒนาขึ้นใหม่ :red_flag: - Coggle Diagram
ละครที่พัฒนาขึ้นใหม่ :red_flag:
ละครร้อง
:explode: ละครร้องเป็นศิลปการแสดงแบบใหม่ที่กำเนิดขึ้นในตอนปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเล้าเจ้าอยู่หัว ละครร้องได้ปรับปรุงขึ้นโดยได้รับอิทธิพลจากละครต่างประเทศ ละครร้องนั้นต้นกำเนิดมาจากการแสดงของชาวมลายู เรียกว่า "บังสาวัน" ได้เคยเล่นถวายรัชกาลที่ ๕ ทอดพระเนตรครั้งแรกที่เมืองไทรบุรี
ละครร้องล้วนๆ ตัวละครขับร้องโต้ตอบกัน และเล่าเรื่องเป็นทำนองแทนการพูด ดำเนินเรื่องด้วยการร้องเพลงล้วนๆ ไม่มีบทพูดแทรก
การแต่งกาย-แต่งกายตามท้องเรื่อง
ดนตรี-บรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ไม้นวม
เพลงร้อง-ใช้เพลงชั้นเดียวหรือเพลง ๒ ชั้น ที่มีลำนำทำนองไพเราะ
สถานที่แสดง มักแสดงตามโรงละครทั่วไป
เรื่องที่แสดง ได้แก่ เรื่องสาวิตรี
จัดทำโดย นายณรงศักดิ์ นวลติ้ง อ้างอิงจาก
https://sites.google.com/site/natsilp1/lakhr-rxng
สืบค้นเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564
บรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ไม้นวม
ละครร้องสลับพูด
:fire:
:
ผู้แสดง
ละครร้องสลับพูด ใช้ผู้หญิงแสดงล้วน ยกเว้นแต่ตัวตลก หรือจำอวด ใช้ผู้ชายแสดง
การแต่งกาย
ละครร้องสลับพูด แต่งตามฐานะของตัวละคร
ดนตรี
ละครร้องสลับพูด บรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ไม้นวม หรืออาจใช้วงมโหรีประกอบในกรณีที่ใช้แสดงเรื่องเกี่ยวกับชนชาติอื่นๆ
เรื่องที่แสดง
ละครร้องสลับพูด แสดงเรื่อง ตุ๊กตายอดรัก ขวดแก้วเจียระไน เครือณรงค์ กากี ภารตะ สาวเครือฟ้า
เพลงร้อง
ละครร้องสลับพูด ใช้เพลงชั้นเดียวหรือเพลง 2 ชั้น ในกรณีที่ตัวละครร้องใช้ซออู้คลอตามเบาๆ เรียกว่า ร้องคลอ
ละครร้องสลับพูด
มีทั้งบทร้อง และบทพูด ยึดถือการร้องเป็นส่วนสำคัญ บทพูดเจรจาสอดแทรกเข้ามาเพื่อทวนบทที่ตัวละครร้องออกมานั่นเอง แม้ตัดบทพูดออกทั้งหมดเหลือแต่บทร้องก็ยังได้เนื้อเรื่องสมบูรณ์ มีลูกคู่คอยร้องรับอยู่ในฉาก ยกเว้นแต่ตอนที่เป็นการเกริ่นเรื่องหรือดำเนินเรื่อง ลูกคู่จะเป็นผู้ร้องทั้งหมด ตัวละครจะทำท่าประกอบตาม
จัดทำโดย
นายเมธาพร รักษ์ทอง อ้างอิงจาก
http://www.banramthai.com/html/lakhon8.html
สืบค้นเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564
ละครพูด ละครพูดเริ่มขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการแสดงละครพูดสมัครเล่นเป็นครั้งแรก เนื้อเรื่องละครพูดที่แสดงในสมัยนี้ ดัดแปลงมาจากบทละครรำที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
:tada:
ละครพูดสลับรำ มีเพลงร้องเป็นบางส่วน ทำนองขึ้นอยู่กับผู้ประพันธ์: :pencil2:
ผู้แสดง
-ใช้ผู้แสดงทั้งชายและหญิง เหมือนละครพูดแบบร้อยกรอง
เรื่องที่แสดง
-ได้แก่ เรื่องชิงนาง และปล่อยแก่ ซึ่งเป็นของนายบัว ทองอิน
การแต่งกาย
-เหมือนละครพูดล้วนๆ หรือแต่งกายตามเนื้อเรื่อง
ดนตรี
-บรรเลงดนตรีคล้ายกับละครพูดล้วนๆ แต่บางครั้งในช่วงดำเนินเรื่อง ถ้ามีบทร้อง ดนตรี
ก็จะบรรเลงร่วมไปด้วย
เพลงร้อง
-เพลงร้องเป็นบางส่วน โดยทำนองเพลงขึ้นอยู่กับผู้ประพันธ์ที่จะแต่งเสริมเข้ามาใน
เรื่อง
จัดทำโดยนางสาวปวริศา ขวัญดำ เลขที่34 ม.4/16 สืบค้นวันที่21มิถุนายน2564 อ้างอิง
https://drive.google.com/file/d/1oQ_IdMHkBLyqLdc_9cGSwD5g9K_8Lo8u/view?usp=drivesdk
ละครพูดล้วนๆ :black_flag:
ผู้เเสดง
-ในสมัยโบราณใช้ผู้ชายเเสดงล้วน ต่อมาใช้ผู้เเสดงชายจริงหญิงเเท้
การเเต่งการ
-เเต่งกายตามสมัยนิยม ตามเนื้อเรื่องโดยคำนึงถึงสภาพความเป็นจริงของตัวละคร
จัดทำโดย นายปีย์มนัส แสงเกื้อหนุน อ้างอิง
https://sites.google.com/site/natsilptjcnf/khwam-hmay-khxng-kha-wa-lakhr/lakhr-phud
สืบค้นเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564
ละครพูดล้วนๆ การแสดงจะดำเนินเรื่องด้วยวิธีพูดใช้ท่าทางแบบสามัญชนประกอบ การพูดที่เป็นธรรมชาติ ลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของละครชนิดนี้คือ ในขณะที่ตัวละครคิดอะไรอยู่ในใจ มักจะใช้วิธีป้องปากพูดกับผู้ดุ ถึงแม้จะมีตัวละครอื่นๆ อยู่ใกล้ๆ ก็สมมติว่าไม่ได้ยิน
เรื่องที่เเสดง
-เรื่องที่เเสดงคือ เรื่องโพงพาง เมื่อ พ.ศ.2463 เรื่องต่อมาคือ เจ้าข้าสารวัด ซึ่งทั้งสองเรื่องเป็นพระราชนิพนธิ์ของพระบาทสมเด็จ
ดนตรี-บรรเลงด้วยวงสากลหรือวงปี่พาทย์ไม้นวม
ละครพูดแบบร้อยกรอง ไม่มีเพลงร้องผู้แสดงดำเนินเรื่องด้วยคำประพันธ์ชนิดนั้นๆ :pencil2:
ผู้แสดง
-ละครพูดแบบร้อยกรอง ใช้ผู้แสดงทั้งชายและหญิง มีบุคคลิกและการแสดงเหมาะสมตามลักษณะที่บ่งไว้ใน
บทละคร พูดฉะฉาน ไหวพริบดี
เรื่องที่แสดง
2.
ละครพูดคำฉันท์
ได้แก่ เรื่องมัทนะพาธา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อ พ.ศ. 2466
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นยุคทองของละครพูด ประชาชนให้ความสนใจต่อละครประเภทนี้มาก เพราะเห็นว่าเป็นของแปลกและแสดงได้ง่าย
3.
ละครพูดคำโคลง
ได้แก่ เรื่องสี่นาฬิกา ของอัจฉราพรรณ(อาจารย์มนตรี ตราโมท) ประพันธ์เมือปี
พ.ศ. 2469
ละครพูดคำกลอน
จากบทประพันธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เช่น เรื่องเวนิสวาณิช
ทรงแปลเมื่อ พ.ศ. 2459 เรื่องพระร่วง ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อ พ.ศ. 2460
จัดทำโดยนางสาวปวริศา ขวัญดำ เลขที่34 ม.4/16 สืบค้นวันที่21มิถุนายน2564 อ้างอิง
https://drive.google.com/file/d/1oQ_IdMHkBLyqLdc_9cGSwD5g9K_8Lo8u/view?usp=drivesdk
ดนตรี
-บรรเลงดนตรีคล้ายกับละครพูดล้วนๆ
การแต่งกาย
-แต่งให้เหมาะสมถูกต้องตามบุคคลิกของตัวละครและยุคสมัย
เพลงร้อง-
เพลงร้องไม่มี ผู้แสดงดำเนินเรื่องโดยการพูดเป็นคำประพันธ์ชนิดนั้นๆ
ละครสังคีต
: เป็นละครอีกแบบหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มขึ้น โดยมีวิวัฒนาการมาจากละครพูดสลับลำ ต่างกันที่ละครสังคีตมีบทสำหรับพูด และบทสำหรับตัวละครร้องในการดำเนินเรื่องเท่าๆกัน
ดนตรี บรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ไม้นวม
เพลงร้อง ใช้เพลงชั้นเดียวหรือเพลง ๒ ชั้น มีลำนำที่ไพเราะ
การแต่งกาย แต่งแบบสมัยนิยม คำนึงถึงสภาพความเป็นจริงของฐานะตัวละครตามท้องเรื่อง และความงดงามของเครื่องแต่งกาย
สถานที่แสดง แสดงบนเวที มีการจัดฉากเปลี่ยนตามท้องเรื่อง
ผู้แสดง ใช้ผู้ชาย และผู้หญิงแสดงจริงตามท้องเรื่อง
เรื่องที่แสดง นิยมแสดงบทพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีอยู่ ๔ เรื่อง
คือ หนามยอกเอาหนามบ่ง วิวาห์พระสมุทร มิกาโด วั่งตี่
จัดทำโดยนางสาวณัฐพร พลฑา เลขที่43 ม.4/16
สืบค้นวันที่ 21 มิถุนายน 2564
อ้างอิง
https://sites.google.com/site/sittipanareerat422/bth-thi2-kar-saedng-natsilp-thiy/kar-pradisth-tha-ra-ni-kar-saedng-natsilp
บุคคลสำคัญ
:star:
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
-มีชื่อเสียงจากงานพระนิพนธ์หลายชิ้นที่รู้จักกันดี ได้แก่ บทละครพูดเรื่อง "สร้อยคอที่หาย" ซึ่งเคยบรรจุในหนังสือเรียนวิชาภาษาไทยของกระทรวงศึกษาธิการ บทละครร้อง เรื่อง "สาวเครือฟ้า" ทั้งนี้ยังทรงก่อตั้งโรงละครร้องขึ้นในบริเวณตำหนักที่ประทับ ชื่อว่า "โรงละครปรีดาลัย" เป็นโรงละครร้องแห่งแรกในไทย
สมเด็จฯเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์
-เป็นนายกสมาคม"แมจิกัลโซไซเอตี" เเละจัดการแสดงละครเรื่องลิลิตนิทราชาคริตขึ้น ทรงเป็นผู้กำหนดตัวละครเอง
อาจารย์มนตรี ตราโมท
-ประพันธ์ละครพูดคำโคลงไว้มากมายหลายเรื่อง ยกตัวอย่างเรื่องที่มีชื่อเสียงเช่น เรื่องสี่นาฬิกา และครูมนตรียังเป็นครูผู้ประกอบพิธีไหว้ครู และครอบประสิทธิ์ประสาทวิชาดนตรีไทยของกรมศิลปากร นอกจากนี้ยังกระทำพิธีให้แก่กองการสังคีตและวิทยาลัยนาฏศิลป์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร
-ทรงตั้ง "ทวีปัญญาสโมสร" ขึ้นในพระราชอุทยานสราญรมย์ และทรงมีส่วนร่วมในกิจการการแสดงละครพูด จึงได้ถวายพระเกียรติว่าทรงเป็นผู้ให้กำเนิดละครพูด และยังทรงสนับสนุนละครพูดอย่างดียิ่ง ทรงพระราชนิพนธ์บทละครพูดที่ดีเด่นเป็นจำนวนมาก และทรงร่วมในการแสดงด้วยหลายครั้ง
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
-ประพันธ์ละครพูดไว้ รวม 4 เรื่องได้แก่ บ๋อยใหม่ แม่ศรีครัว หมั้นไว้ และตาเงาะ และยังแต่งโคลงกลอนไว้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีได้เป็นผู้แต่งเนื้อร้องเพลงชาติไทยฉบับก่อนปัจจุบันอีกด้วย
พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
- เป็นผู้นิพนธ์และกำกับการแสดง ได้แก่ ตุ๊กตายอดรัก
ขวดแก้วเจียระไน กากี ภารตะ สีป๊อมินทร์ พระยาสีหราชเดโช เป็นเรื่องที่ได้รับความนิยม ส่วนละครร้องล้วนๆ เรื่องที่แสดง คือ เรื่องสาวิตรี
จัดทำโดย นางสาวสุทธิภา ยอดสุดเอื้อม อ้างอิง
https://sites.google.com/site/sittipanareerat422/bth-thi2-kar-saedng-natsilp-thiy/kar-pradisth-tha-ra-ni-kar-saedng-natsilp
สืบค้นเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564