Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีความผิดปกติของรกน้ำคร่ำ และความผิดปกติของทารกใน…
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีความผิดปกติของรกน้ำคร่ำ และความผิดปกติของทารกในครรภ์
ภาวะน้ำคร่ำผิดปกติ
น้ำคร่ำมากกว่าปกติ(polyhydramnios)
พยาธิสรีรวิทยา
ความสมดุลของปริมาณน้ำคร่ำในครรภ์มารดา สัมพันธ์กับปริมาณของเหลวที่เข้าและออกจากถุงน้ำคร่ำ มักจะสัมพันธ์กับปริมาณปัสสาวะของทารก การสร้างของเหลวจากปอด
สาเหตุ
ด้านมารดา
มารดาเป็นโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ การตั้งครรภ์แฝด
ด้านทารก
สัมพันธ์กับการกลืนของทารก ความผิดปกติของระบบประสาท การอุดกั้นของระบบทางเดินอาหาร ความพิการของทารกในครรภ์
การจําแนกชนิด
ภาวะน้ำคร่ำมากอย่างเฉียบพลัน
มีปริมาณน้ำคร่ำเพิ่มขึ้นมากอย่างรวดเร็วภายใน 2-3 วัน
ภาวะน้ํำคร่ำมากเรื้อรัง
ขึ้นอย่างช้าๆ ส่วนใหญ่จะพบเมื่ออายุครรภ์ 30 สัปดาห์ขึ้นไป
ผลต่อการตั้งครรภ์
ผลต่อมารดา
ไม่สุขสบายจากการกดทับของมดลูกที่มีขนาดใหญ่
คลอดก่อนกําหนด
ช็อค
ตกเลือดหลังคลอด
ติดเชื้อหลังคลอด
ผลต่อทารก
ภาวะพิการ และการคลอดก่อนกําหนด
เกิดภาวะ fetal distress
ทารกอยู่ท่าผิดปกติและไม่คงที่
อาการและอาการแสดง
แน่นอึดอัด หายใจลําบาก เจ็บชายโครง
บวมบริเวณเท้า ขา และปากช่องคลอด
น้ําหนักตัวเพิ่มขึ้น
การวินิจฉัย
การซักประวัติอาการ และอาการแสดง
คลําหาส่วนต่างๆของทารกได้ลําบาก
ฟังเสียง FHS ไม่ได้
การวัด AFIได้ค่ามากกว่า 24 เซนติเมตรขึ้นไป
การดูแลรักษา
การเจาะดูดน้ำคร่ำออก
การรักษาด้วยยา prostaglandin synthetase inhibitors
ให้ยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก
การพยาบาล
จัดท่ามารดานอนตะแคง ยกศีรษะสูงเล็กน้อย
แนะนําให้มารดารับประทานอาหารที่ย่อยง่าย
ดูแลให้ได้รับการเจาะดูดน้ำคร่ำออก
ให้นอนพักบนเตียง
ฟัง FHSในระยะ latent ทุก 30 นาที และระยะ active ทุก 15 นาที
น้ำคร่ำน้อยกว่าปกติ (oligohydramnios)
สาเหตุ
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกําหนด
ทารกในครรภ์มีภาวะผิดปกติ
รกเสื่อมสภาพ
การตั้งครรภ์เกินกําหนด
IUGR
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์
ผลต่อมารดา
ตัดคลอดทารกทางหน้าท้องมากกว่าการตั้งครรภ์ปกติ
ผลต่อทารก
มีโอกาสคลอดก่อนกําหนด
ภาวะปอดแฟบ (pulmonary hypoplasia)
Amniotic band syndrome
การวินิจฉัย
MVPมีค่าน้อยกว่า 1 หรือ 2 เซนติเมตร ให้ถือว่ามีภาวะน้ำคร่ำน้อย
AFI มีค่าน้อยกว่า 5 เซนติเมตร
การรักษา
การเติมน้ำคร่ำ
การดื่มน้ำมากๆ
การดื่มน้ำมากๆ
อธิบายถึงสาเหตุการเกิดภาวะดังกล่าว และแนวทางการรักษา
ดูแลให้ได้รับการใส่สารน้ำเข้าไปในถุงน้ำคร่ำ
กระตุ้นให้ระบายความรู้สึก
ภาวะทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์(Intra Uterine Growth Restriction [IUGR])
สาเหตุ
ด้านมารดา
มารดามีรูปร่างเล็ก
ขาดสารอาหาร
ภาวะโลหิตจางรุนแรง
ติดเชื้อ
ตั้งครรภ์แฝด
ด้านทารก
ความพิการแต่กําเนิด
การติดเชื้อในระยะตั้งครรภ์
ความผิดปกติของโครโมโซม
การจําแนกประเภทของ IUGR
Symmetrical IUGR
มีการเจริญเติบโตช้าทุกระบบของร่างกาย
Asymmetrical IUGR
ทรกหัวโต แต่ท้องเล็ก
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
นาดของมดลูกเล็กกว่าอายุครรภ์ 3 เซนติเมตรขึ้นไป
ชั่งน้ำหนักของสตรีตั้งครรภ์ พบว่า น้ำหนักเพิ่มขึ้นน้อย
ultrasound
การรักษา
ค้นหาและลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอันตราย
ตรวจเฝ้าระวังสุขภาพของทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด
กําหนดเวลาการคลอดที่เหมาะสม
การพยาบาล
แนะนํามารดาเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร
ติดตามสุขภาพของทารกในครรภ์
ติดตามสุขภาพของทารกในครรภ์
ติดตามประเมินความก้าวหน้าของการคลอดอย่างใกล้ชิด
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกและเสียงหัวใจทารกทุก ½ -1 ชั่วโมง
การตั้งครรภ์ที่มีจํานวนทารกมากกว่า 1 คน(multiple pregnancy)
ชนิดและสาเหตุการตั้งครรภ์แฝด
แฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียวหรือแฝดแท้
แฝดที่เกิดจากการปฏิสนธิจากไข่ 1 ใบ และตัวอสุจิ 1 ตัว นี้จะมีรูปร่าง หน้าตา เพศ และลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกัน
แฝดที่เกิดจากไข่คนละใบ หรือแฝดเทียม
เกิดจากไข่ 2 ใบผสมกับอสุจิ 2 ตัว amnion 2 อัน และ chorion 2 อัน มีรก 2 อัน
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์
ผลต่อมารดา
คลื่นไส้อาเจียนมาก
ภาวะโลหิตจาง
ตกเลือดก่อนคลอด
ล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวผิดปกติ
รกลอกตัวก่อนกำหนด
ผลต่อทารก
ทารกตายในครรภ์
ภาวะคลอดก่อนกําหนด
IUGR
asphyxia
Twin-twin transfusion syndrome
การวินิจฉัย
size > date
คลําพบมี ballottement
คลําได้ small part มากกว่าปกติ
ฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ได้ 2 แห่ง
แนวทางการดูแลรักษา
ป้องกันการคลอดก่อนกําหนด
ตรวจหาและวินิจฉัยภาวะ IUGR
ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะอันตรายต่อทารกในระยะคลอด
หลักการพยาบาล
ดูแลให้ได้รับอาหารอย่างเพียงพอ
เฝ้าระวังการเกิดภาวะโลหิตจางอาจให้โฟลิคเสริม
ระวังการความดันโลหิตสูงในระหว่างตั้งครรภ์
ตรวจความเข้มข้นของเลือด
การให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
หลังจากคลอดแล้วให้รีบ clamp สายสะดือทันที
ทารกพิการแต่กําเนิด(congenital anormality)
สาเหตุ
ปัจจัยด้านพันธุกรรม ได้แก่ สตรีตั้งครรภ์มีอายุมากกว่า 35 ปีมี
ความผิดปกติของโครโมโซม
ความผิดปกติของยีนเดียว
สิ่งแวดล้อม ส่วนใหญ่ความพิการจะเกิดในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เช่น การใช้ยา การติดเชื้อ
ความผิดปกติของทารกสามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม
Malformation
Disruption
Deformation
Dysplasia
การป้องกัน
การให้คําแนะนําปรึกษาทางพันธุศาสตร์
ตรวจวินิจฉัยก่อนคลอด
การให้คําปรึกษาภายหลังการตรวจวินิจฉัยก่อนคลอด
หลีกเลี่ยงการสัมผัส teratogen
ปากแหว่งเพดานโหว่
สาเหตุ
กรรมพันธุ์
สิ่งแวดล้อม เช่น มารดาติดเชื้อหัดเยอรมันในช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก
อาการและอาการแสดง
ทารกต้องออกแรงมากในการดูดนม จะพบอาการท้องอืดหลังจากดูดนม
ทารกที่มีเพดานโหว่มักจะสําลักน้ำนมขึ้นจมู
การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้น
การวินิจฉัย
สามารถตรวจพบได้เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 13-14 สัปดาห์
การพยาบาลทารกแรกเกิด
ดูแลด้านจิตใจสําหรับบิดา มารดา
ให้คําแนะนําเกี่ยวกับการดูแลทารกแรกเกิด
ท่านอน ให้มารดานอนตะแคง ส่วนทารกนอหงาย
ท่านอนขวางตักประยุกต์และท่าฟุตบอล
แนะนํามารดาให้ใช้เพดานเทียมปิดเพดานเพื่อปิดไม่ให้ลมรั่ว
ให้ใช้ขวดนมพิเศษที่เป็นพลาสติกอ่อน
ใช้ช้อนหรือแก้ว เพื่อป้อนนม
ดาวน์ซินโดรม
อาการ
มีศีรษะแบนกว้าง และท้ายทอยแบน
จมูกไม่มีสัน ใบหูเล็ก
ปากอ้าและลิ้นยื่นออกมา
การวินิจฉัย
การตรวจโครโมโซม
การรักษา
รักษาแบบประคับประคองตามอาการ
Hydrocephalus
การรักษา
แนะนําให้ติดตามการเปลี่ยนแปลง
ยุติการตั้งครรภ์กรณีเป็นรุนแรงมาก
รักษาด้วยการใส่ shunt ในครรภ์
การดูแลทารก
ให้การพยาบาลตามอาการ
อธิบายให้บิดามารดาเข้าใจสภาพของทารก
Microcephaly
การรักษา
มุ่งเน้นให้เด็กสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานมากขึ้น
การพยาบาล
ให้การพยาบาลตามอาการและอาการแสดง
สังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงต่างๆ
อธิบายให้บิดามารดาเข้าใจเกี่ยวกับสภาพของทารก
NTDs
ป็นความผิดปกติแต่กําเนิดของระบบประสาทสามารถเกิดได้ทุกขั้นตอนของการพัฒนา
Spina bifida
spin bifida occultaไม่จําเป็นต้องรักษาแต่ถ้าเป็นชนิด
spina bifida cysticaมีวิธีการรักษาโดยการผ่าตัดปิดซ่อมแซม
ทารกตายในครรภ์(Dead Fetus in Utero [DFU])
สาเหตุ
ด้านมารดา
มีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
มารดาอายุมากกว่า 35 ปี
ภาวะทางสูติกรรม
มีภาวะรกลอกตัวก่อนกําหนด รกเกาะต่ำ
ด้านทารก
มีภาวะพิการแต่กําเนิด
UGR
prolapsed cord
การวินิจฉัย
ซักประวัติมารดาพบทารกไม่ดิ้นหรือดิ้นน้อยลง
ฟังเสียงหัวใจทารกไม่ได้
สิ่งคัดหลั่งสีน้ำตาลไหลออกทางช่องคลอด
ทารกไม่มีการเต้นของหัวใจ
ตรวจพบแก๊สในหัวใจ
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
จะมีโอกาสเกิดภาวะเลือดไม่แข็งตัว
fetal death syndrom
เกิดความรู้สึกสูญเสีย ตกใจ ซึมเศร้า
การรักษา
ไตรมาสแรก ทําการ dilatation and curettage
ไตรมาสที่สอง เหน็บยา prostaglandin
ไตรมาสที่สาม ห้ oxytocin ปริมาณความเข้มข้นสูง ทางหลอดเลือดดํา
การพยาบาล
ให้การประคับประคองทางด้านจิตใจ
แนะนําให้สามีและครอบครัวให้กําลังใจ ปลอบใจ
ประเมินความต้องการสัมผัสกับทารกแรกคลอดที่เสียชีวิต
ดูแลให้ได้รับการสิ้นสุดการตั้งครรภ์
ให้ได้รับยายับยั้งการหลั่งน้ำนม